Archive | ข่าว

ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพฯ ระยอง เยี่ยมชมงานมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ

Posted on 25 เมษายน 2023 by admin

          นางจุฑามาศ มั่นสุวรรณ  ผอ. ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค2  ระยอง และคณะฯ เยี่ยมชมการดำเนินงานของมูลนิธิฯ  เพื่อปรึกษาและแลกเปลี่ยนในเรื่องต่างๆ อาทิ ด้านการจ้างงานคนพิการ และด้านการศึกษาสำหรับคนพิการ เพื่อบริหารจัดการและพัฒนาด้านต่างๆด้วย โดยมีนายทรงศักดิ์ รีฮุง ผู้จัดการอาวุโส มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ  และทีมบริหารมูลนิธิฯให้การต้อนรับ ณ มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ
บางละมุง ชลบุรี เมื่อเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเงินหรือสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือคนพิการได้ โดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี 342-3-04066-0 นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์มูลนิธิฯที่  www.mahatai.org หรือสอบถามรายละเอียดที่โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102 มือถือ 099-394-4795

Comments (0)

2 ผู้บริหาร เชิญชวนสนับสนุน “ถุงสุขยกกำลัง3 “เสริมสิริมงคล…รับปีใหม่ไทย รายได้เลี้ยงผู้พิการกับเรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม

Posted on 21 เมษายน 2023 by admin

          เทศกาลปีใหม่ไทย…  เชื่อว่าหลายท่านกำลังหาของฝากของขวัญเพื่อไปมอบให้บุคคลอันเป็นที่เคารพรัก หรือคนไทยส่วนใหญ่ก็จะทำบุญทำทาน และเพื่อเสริมสิริมงคลกับการเริ่มต้นปี(ใหม่)กัน 2 ผู้บริหาร ขอเชิญชวนคนไทยใจบุญทุกท่านให้ช่วยสนับสนุนเพื่อให้ผู้พิการหารายได้เลี้ยงตัวเอง ในโครงการ  “สุขยกกำลัง 3  สุขทำ สุขให้ สุขรับ” ADE BY DISABLED โดยเรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม  กับ“ถุงสุขยกกำลัง3” ซึ่งในถุงบรรจุสินค้าคุณภาพออกจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้แทนการขอหรือการรอรับเงินบริจาค ซึ่งเป็นชุดผลิตภัณฑ์จากคนพิการและคนในชุมชนกว่า10 เครือข่าย จำนวน 500,000 ถุง ราคาถุงละ 199 บาท  จำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยสั่งซื้อได้ด้วยการแอด Line ที่ @mahataicharity หรือโทร 093 992 6959, 086 414 7584

          นายมานพ เอี่ยมสอาด ผู้จัดการ บริษัท เรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หน่วยงานภายใต้มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ กล่าวว่า การตั้งโครงการ “สุขยกกำลัง3 สุขทำ สุขให้ สุขรับ เพื่อต้องการเปลี่ยนจากผู้ขอ ผู้รอรับเงินบริจาค เป็นผู้ลงมือทำสร้างผลิตภัณฑ์ ที่ได้มาตรฐานเพื่อจำหน่าย และช่วยเหลือเครือข่ายที่มีสินค้าอยู่แล้วให้มีการปรับปรุงพัฒนาให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดผู้บริโภคทั่วไป โดยกระจายรายได้สู่เครือข่ายผู้พิการ ผู้ปกครอง และคนในชุมชมให้ได้หลายกลุ่ม ขณะเดียวกันก็ยังนำรายได้จากการจำหน่ายมาบริหารองค์กรได้อีกทางหนึ่ง เราต้องการเปลี่ยน  Mindset คนพิการ กลุ่มเปราะบาง เสริมสร้างกำลังใจ รู้คุณค่าของตัวเอง และให้มีทางเลือกในการทำอาชีพ และมีความพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ  โดย “สุขยกกำลัง3” คือ 1.สุขทำ               มูลนิธิฯ และเครือข่ายผลิตสินค้าคุณภาพออกจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้แทนการรอรับเงินบริจาค2. สุขให้  ผู้สนับสนุนได้ให้โอกาสคนพิการ และคนในชุมชน ให้มีอาชีพ มีรายได้ที่ยั่งยืน  และ3. สุขรับ  หากผู้ซื้อไม่ประสงค์จะรับสินค้า “ถุงสุขยกกำลัง3” จะส่งมอบไปยังกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ เช่น โรงเรียน พื้นที่ทุรกันดาร สถานสงเคราะห์ ชุมชนแออัด ฯลฯ ที่เข้าร่วมโครงการฯ

โดยมีคนดังและคนมีชื่อเสียงในแวดวงนักธุรกิจที่ร่วมเชิญชวนโครงการ “ถุงสุขยกกำลัง3”  นับเป็นโอกาสดีเพื่อเสริมสิริมงคล…รับปีใหม่ไทยร่วมกันด้วยการให้คนไทยใจบุญทุกท่านร่วมอุดหนุนช่วยเหลือผู้พิการให้ชีวิตมีโอกาสได้ใช้ชีวิตในสังคม สามารถพึ่งพาตนเอง ให้มีอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัวและอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม…

         ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน  ผู้บริหารหญิงแถวหน้าของเมืองไทย  “ต้องขอชื่นชมจากใจจริง โครงการ “สุขยกกำลัง3 สุขทำ สุขให้ สุขรับ” ของเรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม ภายใต้มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เพราะมีความมุ่งมั่นในการหาเลี้ยงตนเอง เปลี่ยนจากผู้ขอ ผู้รอรับเงินบริจาค เป็นผู้ลงมือทำผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายเอง และช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยนี้ดิฉันก็มองหาของขวัญซึ่ง “ถุงสุขยกกำลังสาม” เป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งเราสามารถสั่งสินค้าโดยผ่านมูลนิธิฯแอดไลน์ @mahataicharity  มีจำหน่ายเพียง 500,000 ถุงๆละ 199 บาท  เท่านั้นคะจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสร้างสุขด้วยการอุดหนุนถุงสุขยกกำลัง3กันนะคะ

ส่วนด้าน  นายชวิศ ยงเห็นเจริญ ผู้บริหารวิศวกรหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง บริษัท ชลิต อินดัสทรี  จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “POP”  บริษัทฯ เรามีลูกค้าคู่ค้าทางธุรกิจมากมาย และช่วงปีใหม่ไทย เราก็จะมีของขวัญเล็กๆน้อยๆ ให้กับลูกค้าเราอยู่แล้ว   “ถุงสุขยกกำลัง3” คือตำตอบครับ  ซึ่งมีสินค้าคุณภาพที่ผลิตโดยผู้พิการและเครือข่าย โดยในถุงสุขยกกำลัง3 มีขนมและอาหารอร่อยๆ เช่น ทองม้วน คอนแฟลกธัญพืช คุกกี้ หรือจะเป็นน้ำพริก ก็ตาม เป็นขนมที่ผมชอบด้วย จะบอกว่าเมื่อเราสนับสนุนซื้อถุงสุขยกกำลัง3 รายได้ทั้งหมดเรย์วิสาหกิจเพื่อสังคมฯ จะนำมาบริหารภายในองค์กร สร้างเครือข่ายให้มีรายได้ มีอาชีพ มีกำลังใจที่จะสู้ต่อเห็นคุณค่าในตัวเอง เป็นอีกจุดเริ่มต้นที่ดีเราทุกคนจะได้มีส่วนในการหยิบยื่น “ความยั่งยืน” แทนการบริจาคให้พวกเขามาร่วมกันทำบุญ สร้างกุศลด้วยการส่งเสริมอาชีพให้ผู้พิการได้ยืนด้วยตนเองอย่างภาคภูมิในสังคมด้วยกันนะครับ”

Comments (0)

เด็กไทยบินเปิดประสบการณ์ซัมเมอร์นิวซีแลนด์ล้นหลาม พัฒนาภาษาอังกฤษเรียนรู้การใช้ชีวิตทั้งใน-นอกห้องเรียน

Posted on 11 เมษายน 2023 by admin

เมื่อเร็วๆ นี้ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับ เอเจ้นท์ตัวแทนที่ปรึกษาการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ จัดงาน “เปิดประสบการณ์ซัมเมอร์พัฒนาภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์” ปฐมนิเทศ (Orientation) เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับน้องๆนักเรียนไทย อายุระหว่าง 11-17 ปี ที่จะบินไปเรียนซัมเมอร์ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน กับโครงการเรียนภาษาระยะสั้นที่นิวซีแลนด์ ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกหลังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีน้องๆตลอดจนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกันอย่างล้นหลามมากกว่า 400 คน โดยมี นางสาวจารุวรรณ พงษ์จารุวัฒน์ ผู้อำนวยการด้านการศึกษา ENZ และตัวแทนที่ปรึกษาการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์การเรียนรู้ไทย-นิวซีแลนด์ TNZC ศูนย์การค้าดีดีมอลล์ ชั้น 7 (ตึกแดง) จตุจักร

โครงการเรียนภาษาระยะสั้นที่นิวซีแลนด์ จะมีหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับน้องๆทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยในห้องเรียน น้องๆนักเรียนไทยจะได้เข้าเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับโรงเรียนนิวซีแลนด์ และวิชาเรียนพื้นฐานกับนักเรียนนิวซีแลนด์ในระบบการเรียนการสอนจริง และสภาพแวดล้อมห้องเรียนนิวซีแลนด์จริงๆ ที่สามารถใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกได้ทุกอย่างไม่ต่างจากนักเรียนนิวซีแลนด์ ส่วนนอกห้องเรียนน้องๆจะได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆกับกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนทุกอาทิตย์ นอกจากนี้น้องๆยังได้เรียนรู้การใช้ชีวิตและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน กับครอบครัว Host ชาวนิวซีแลนด์ มีกิจกรรมให้ทำร่วมกัน และช่วยดูแลนักเรียน ความปลอดภัยเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งจะช่วยให้น้องๆมีพื้นฐานและพัฒนาการภาษาอังกฤษที่ดีขึ้น

        คุณแม่วราพร จิระพันธุ์ทอง ซึ่งเป็นคุณแม่น้องคุณพัฒน์ บำรุงกิตติ (น้องบอส) อายุ 13 ปี กล่าวว่า “ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 นิวซีแลนด์ปิดประเทศมานาน ทำให้หลายคนรอ ดังนั้นพอเริ่มเปิดประเทศต้องรีบตัดสินใจ ทราบว่ามีหลายคนที่พลาดโอกาส เหตุผลที่เลือกให้น้องบอสไปเรียนที่นิวซีแลนด์ เพราะสมัยตอนคุณแม่เคยไปเรียนที่ประเทศใหญ่ (อังกฤษ) ตอนนั้นรู้สึกไม่ค่อยอบอุ่น เลยตัดสินใจให้น้องบอสไปเรียนที่นิวซีแลนด์ซึ่งเป็นประเทศเล็กและอบอุ่น เพราะนิวซีแลนด์มีระบบโฮสแฟมิลี่ที่ดี มีความปลอดภัย และมีระบบบัดดี้ (Buddy) ช่วยให้น้องไม่เหงา ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ และปูพื้นฐานให้น้อง

        คุณแม่เกษดาว ซึ่งเป็นคุณแม่ของน้องศิริน กีวี่ (น้องกีวี่) อายุ 13 ปี  กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกให้น้องกีวี่ไปเรียนซัมเมอร์ที่ นิวซีแลนด์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง สำหรับการที่จะส่งลูกที่มีอายุน้อยได้ไป summer คนเดียว ที่ผ่านมามีพี่ชาย และพี่สาว เคยไป summer ที่นิวซีแลนด์มาก่อนหน้านี้แล้ว คิดว่า ทั้งเรื่องความปลอดภัย การเลือก host ให้เด็กๆ การดูแลนักเรียนในภาพรวมดีมาก ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไว้ใจค่ะ  อีกอย่างคือนิวซีแลนด์ไม่ไกลมากจากไทย สามารถเดินทางไปหาได้ค่อนข้างสะดวก เมื่อเทียบกับการไป summer ที่ประเทศอื่นอื่นๆ  เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ระหว่างคุณพ่อ คุณแม่ และตัวเด็กค่ะ ความสำคัญแรก คือต้องปลอดภัย และตัวเด็กต้องเห็นชอบด้วยค่ะ

“สำหรับวางแผนการเรียนต่อของน้องกีวี่ที่นิวซีแลนด์ คุณพ่อคุณแม่เคยดูไว้บ้างค่ะ อยากให้น้องไปเรียนที่นิวซีแลนด์สัก 1 ปีเลย ซึ่งคิดว่าน่าจะได้ประสบการณ์การใช้ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ การดูแลตัวเอง และ ภาษากลับมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่เคยส่งพี่ๆ ไปเพียง 1 เดือน กลับมายังได้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนค่ะ”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที www.studywithnewzealand.govt.nz

Comments (0)

“บียอนด์ เทรนนิ่ง” แนะ 8 สมรรถนะที่ผู้นำยุคดิจิทัลต้องมี! พร้อมเปิดหลักสูตรใหม่!เร่งพัฒนาศักยภาพ

Posted on 06 กุมภาพันธ์ 2023 by admin

           “บียอนด์ เทรนนิ่ง” เผยโลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงหลากหลายด้านจากผลกระทบของวิกฤติการณ์ที่ผ่านมา ทั้งด้านสังคม สภาวะแวดล้อม รวมถึงแนวโน้มธุรกิจที่สร้างความผันผวนจนน่าตกใจ แต่สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน คือ การบริหารจัดการคน และการยกระดับศักยภาพของบุคลากรในองค์กร ให้ทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว พร้อมเปิดหลักสูตรใหม่โปรแกรม Adaptive Leadership Series ในงาน Thailand HR Day ประกาศความพร้อมในการพัฒนาผู้นำยุคใหม่อย่างเร่งด่วน เผยแผนพัฒนาศักยภาพ 8 ด้านที่ผู้นำยุคใหม่ต้องมี และหลักทฤษฎีการเรียนรู้แบบ 10:20:70  เป็นแห่งแรก สู่การเป็นผู้นำที่มีศักยภาพเกินร้อย ในการนำองค์กรให้เติบโตอย่าง มั่นคง ยั่งยืนในยุคดิจิทัล

           ภก.คงเกียรติ ฉัตรหิรัญทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บียอนด์ เทรนนิ่ง จำกัด สถาบันฝึกอบรมชั้นนำของประเทศ  ผู้ให้บริการธุรกิจด้านบริการฝึกอบรมโปรแกรมด้าน ทักษะผู้นำยุคใหม่ ที่โดดเด่นด้านการสร้างภาวะผู้นำให้พนักงานองค์กร กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวหลักสูตร Adaptive Leadership Series อย่างยิ่งใหญ่ภายในงาน Thailand HR Day เพื่อฉลองวาระการครบรอบการก่อตั้งสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) ที่แสดงถึงความพร้อมในการเป็นสถาบันที่มุ่งสร้างผู้นำยุคใหม่ (Adaptive Leadership) ให้กับคนทุกระดับในองค์กร ด้วยโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำ ที่มีงานวิจัยรองรับ ที่มีผลงานโดดเด่นในการพัฒนาผู้นำจากองค์กรชั้นนำของประเทศไทย ให้สามารถเปลี่ยนมุมองความคิด และ พฤติกรรมของผู้นำได้จริง

ซึ่งในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำ (Adaptive Leadership Series) ของบียอนด์ เทรนนิ่ง ได้มีผู้ให้คำปรึกษาและร่วมพัฒนาโครงการอย่างคุณจี๊ด ปัทมาวลัย รัตนพล ตำแหน่ง Chief Executive Advisor ที่ผ่านประสบการณ์ด้านบริหารคนในระดับสูงมาอย่างยาวนาน รวมถึงเซนเซเล็ก ศุภวิทย์ ภาษิตนิรันดร์ ผู้มีประสบการณ์ทำงาน 19 ปีจากบริษัทญี่ปุ่นระดับประเทศ และอาจารย์แพท พัชรพรรณ ขุนวงษ์ วิทยาการผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพ สรรหา และการคัดเลือกบุคลากร

โดยความสำคัญของโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำ (Adaptive Leadership Series) คือ การยกปัญหาที่เกิดขึ้นจริงของการพัฒนาผู้นำ โดยเสริมสมรรถนะที่สำคัญ ทั้ง 8 ด้านที่ผู้นำยุคใหม่ต้องมี คือ

  1. Resource Management ความสามารถด้านการบริหารทรัพยากรวางแผนจัดสรรงานและบริหารคนให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้จากการทำโครงการ (Project) ขนาดใหญ่ ให้องค์กร
  2. Change Management ความสามารถในการบริหารจัดการกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งด้านสภาวะแวดล้อมกระบวนการทำงาน รวมถึงสภาพจิตใจและพฤติกรรมของคนในองค์กร
  3. Disruptive การปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล ความสามารถด้านการรับมือกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามาแทรกแซงกระบวนการทำงานขององค์กรยุคใหม่
  4. Building Team For Future สร้างทีมรองรับการเติบโตในอนาคต ความสามารถในการสร้างอิทธิพลและเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญเพื่อ”สร้างทีมงาน”ที่พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตไปพร้อมกับองค์กร
  5. Attitudes ทัศนคติของการเป็นผู้นำ ทัศนคติของ “คนยุคใหม่” ที่พร้อมเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับอาชีพและคุณภาพชีวิตของตนเอง
  6. Communication Effectiveness การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เก่ง ด้านประสานงานและสื่อสารกับบุคลากรต่างแผนก เพื่อนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ต้องการ
  7. Performance Management ความสามารถด้านบริหาร ด้วยวิธีการทำงานที่เป็นระบบมีมาตรฐานและลดข้อผิดพลาดอีกทั้งยังเก่งด้านการสร้าง ROI (Return on Investment) คืนสู่องค์กร
  8. Interpersonal Skills ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เชื่อมความสัมพันธ์ของคนในองค์กรเข้าใจคนแต่ละประเภท รับรู้จุดแข็งจุดอ่อน เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของแต่ละคนออกมา

โดยทั้ง 8 ด้านนี้เราจะเริ่มใช้กระบวนการจับคู่ด้วยชุดทักษะที่เหมาะสมกับกลุ่มบุคลากรในแต่ละระดับ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่ม Frontline Leader คือกลุ่มที่เริ่มมีผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นครั้งแรก ทักษะที่ต้องพัฒนามี 3 ด้าน  ได้แก่ Task Management , People Management , Change Management  และ 2.กลุ่ม Manager Level คือกลุ่มที่เคยบริหารผู้ใต้บังคับบัญชามาแล้ว ต้องการต่อยอดทักษะเชิงลึกของการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มขนาดทีมและขอบข่ายความรับผิดชอบมากขึ้น

แต่ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำ  Adaptive Leadership Series นอกเหนือจากการเลือกวิชาแล้ว อีกความโดดเด่น คือ การวางโครงสร้างการเรียนรู้ (The New Way Of Employee Learning) ที่หลากหลายตามหลักทฤษฎีการเรียนรู้แบบ 10:20:70 ที่ประกอบไปด้วย

(10) เพื่อให้เกิด ความรู้พื้นฐานในแต่ละทักษะ ทั้งในรูปแบบ Class room Training หรือผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่าง E-Learning และ Virtual Live Class

(20) การสนับสนุนให้เกิด Learning Culture ในองค์กรด้วย กิจกรรมต่าง ๆ ที่ให้ผู้เรียนแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมกับการมี Guideline เพื่อให้หัวหน้างาน หรือ ผู้บริหารสายงาน เข้าไป Coaching & Mentoring ผู้เรียนก่อนนำทักษะจริงไปใช้กับการทำงาน เช่น กิจกรรม Sharing Session , Community Of Practice (COP) โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ เข้าไปร่วมแบ่งปันประสบการณ์พร้อมตอบคำถามข้อสงสัย เพื่อให้ส่ิงที่เรียนรู้นำไปใช้ในการทำงานจริง  เป็นต้น

(70) การเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับผู้เรียนด้วยการสนับสนุนให้หัวหน้างาน มอบหมายโครงการที่ท้าทายให้มีโอกาสได้ใช้ทักษะที่ได้เรียนรู้จากโครงการกับงานจริง (Project Assignment ) รวมถึงการสนับสนุนให้เกิด  Knowledge Sharing ในองค์กร การทำ Experience & Exposure , Hackathon และ กิจกรรม Boostcamp เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งพฤติกรรม ทัศนคติ ทักษะ และความรู้ แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ

“ดังนั้นการเปิดตัว โปรแกรม Adaptive Leadership Series ท่ามกลางงาน Thailand HR Day ที่เป็น กิจกรรมรวมคนสายงานทรัพยากรบุคคลมากมาย นับเป็นการประกาศถึงความพร้อมของบียอนด์ เทรนนิ่ง ที่จะเป็นตัวเลือกที่ได้มาตรฐานสำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ที่ต้องการพัฒนาผู้นำยุคใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อเดินหน้าธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในยุคดิจิทัลนี้ใหม่นี้” ภก.คงเกียรติกล่าวในท้ายสุด

Comments (0)

“รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” ชวนคนไทยทำบุญรับเทศกาลตรุษจีน พร้อมรับกระเป๋าผ้างานแฮนเมดจากน้องๆแทนคำขอบคุณ

Posted on 30 มกราคม 2023 by admin

402724-1_resize_resize

          “รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” ชวนคนไทยทำบุญรับเทศกาลตรุษจีน พร้อมมอบกระเป๋าผ้างานแฮนเมดจากน้องผู้พิการที่นำสตอรี่งานศิลป์มาลงบนผืนผ้าทำให้เกิดชิ้นงานสร้างสรรค์ เป็นแฟชั่นฮิตติดเทรน ถือโอกาสอันเป็นมงคลตรุษจีนและเดือนแห่งความรัก  เพื่อแทนคำขอบคุณจากน้องๆ สำหรับผู้ใหญ่ใจบุญที่ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กพิเศษ “รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บริจาคตั้งแต่ 1,000บาท  รับกระเป๋าผ้ าฟรี! ทันที โดยผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคช่วยเด็กนักเรียนพิเศษได้โดยตรงที่ ธนาคารกรุงไทย 591-6-00135-5 ชื่อบัญชี โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ และนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถามรายละเอียดที่โทรศัพท์ 092-739-0990

          นางสาววรรณวนัช  กันพรม ผู้จัดการโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ สถานศึกษาสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักเรียนนักศึกษาที่อยู่ในความดูแลกว่า 172 คน ซึ่งเด็กที่อยู่ในโรงเรียนเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา การเรียนรู้ ออทิสติก และมีความพิการซ้อน เช่นหูหนวก ตาบอด ซึ่งต้องการความดูแลอย่างใกล้ชิด โรงเรียนฯ ต้องการส่งเสริมศักยภาพเด็กเหล่านี้ได้พึ่งพาตนเองและดำรงชีวิตอิสระในสังคมอย่างมีความสุข โดยทางโรงเรียนฯ ได้ร่วมกับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จ.ชลบุรี จัดให้มีการศึกษาเฉพาะบุคคลในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและสร้างอาชีพ จัดการฝึกอบรมและมีกิจกรรมพิเศษเฉพาะกลุ่ม โดยมีอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ พร้อมอาหารมื้อเที่ยงโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

402737-2_resize_resize

          โดยหนึ่งในหลักสูตรฯที่เปิดให้มีการเรียนการสอนคือการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อให้เด็กๆที่จบการศึกษาแล้วสามารถพึ่งพาตนเองและประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเอง มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาสังคมอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากการเรียนรู้และอบรมวิชาชีพ แล้วทางโรงเรียนยังได้จัดการศึกษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้เด็กพิเศษมีความชำนาญยิ่งขึ้น

Print

“จึงเป็นโอกาสดีของเดือนมงคลทั้งเทศกาลตรุษจีนและเดือนแห่งความรัก สำหรับผู้ใจบุญที่บริจาคเงินช่วยเหลือเด็กพิเศษ “รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบริจาคตั้งแต่ 1,000 ขึ้นไป รับกระเป๋าผ้าแฮนเมดฟรี! พิเศษสุดด้วยงานฝีมือจากน้องผู้พิการที่นำสตอรี่งานศิลป์มาลงบนผืนผ้า ทำให้เกิดชิ้นงานสุดสร้างสรรค์ ด้วยแฟชั่นฮิต ติดเทรน ทนทานใช้งานได้ยาวนาน ลดโลกร้อน ดีไซน์สวยงามเรียบหรู ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับแพทเทิร์นดอกไม้ผสมผสาน ลวดลาย งานศิลป์ ทัศนธาตุ dynamic เปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคร่วมทำบุญฯ ได้ที่ ธนาคารกรุงไทย 591-6-00135-5 ชื่อบัญชี โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์  และนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 092-739-0990”

Comments (0)

ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ คืนสู่ธรรมชาติ รับปีใหม่

Posted on 30 ธันวาคม 2022 by admin

DSC_4678-1_resize

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ร่วมกับ นางสุพิชชา เหมทานนท์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ประมงจังหวัดสมุทรสาคร นำคณะข้าราชและเจ้าหน้าที่หน่วยงานกรมประมงจังหวัดสมุทรสาคร  ตลอดจนผู้นำชุมชน และพนักงานบริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด ร่วมกิจกรรม “ปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ คืนสู่ธรรมชาติ”  ปล่อยพันธุ์กุ้งทะเลกว่า 1,000,000 ตัว คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ สร้างสมดุลและคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศน์ รับเทศกาลปีใหม่ 2566  โดยมี นางสาวชัญญา ยงเห็นเจริญ, นางสาววีรยา ส่งทวีผล และ นายอธิวัฒน์ เปรมพุฒิพันธ์ ผู้บริหารจากบริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วมงานด้วย  ณ บริเวณชายฝั่งทะเล ศาลเจ้าแม่กวนอิม หมู่ที่ 8 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ. สมุทรสาคร

Comments (0)

มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ร่วมยินดีกับผู้อบรม จบหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง #รุ่น1 มุ่งสร้างงาน – อาชีพคนพิการ…

Posted on 30 ธันวาคม 2022 by admin

            บาทหลวงสุขุม ธนะสิงห์ C.Ss.R. รองประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้มอบใบประกาศนีบัตร ให้กับคนพิการที่อบรมหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงรุ่นที่ 1 จำนวน 35 คนโดยตลอดระยะเวลา 6 เดือน ผู้เข้าร่วมอบรมได้เรียนทฤษฎีการเกษตรจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านเกษตรอินทรีย์ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน รักษาสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ทำเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์  เพื่อให้ความรู้ พัฒนาทักษะแก่คนพิการและผู้ที่สนใจทั่วไปนำไปประกอบอาชีพ หรือปลูกพืชผักสำหรับบริโภคในครัวเรือนได้ และขยายโอกาสการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนสามารถเลี้ยงตนเอง – ครอบครัวได้อย่างยั่งยืน โดยจัดตั้งแบรนด์สำหรับการทำการตลาด ขายผลผลิตด้านการเกษตรของผู้พิการในชื่อว่า 20 ไร่ ออร์กานิคฟาร์ม  ณ ศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรคนพิการนานาชาติ  ชลบุรี เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

เปิดประสบการณ์ใหม่กับการศึกษานิวซีแลนด์

Posted on 28 ธันวาคม 2022 by admin

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงาน “การศึกษานิวซีแลนด์ 2022” (New Zealand Education Fair 2022) ซึ่งหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ)  สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับ 47 สถาบันการศึกษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ร่วมกันจัดขึ้น โดยได้รับความสนใจจากน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้สนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคักกว่า 900 คน โดยมี ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2 เมื่อเร็วๆ นี้

          ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงเหตุผลที่ทำให้คนไทยและนักเรียนต่างชาติให้ความสนใจไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากการศึกษาของนิวซีแลนด์มีความแตกต่างจากที่อื่น ประการแรก  การศึกษาในนิวซีแลนด์มีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์ติดอันดับท็อป 3% ของโลก และในทุกระดับการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน รัฐบาลนิวซีแลนด์มีระบบรับรองคุณภาพมาตรฐานการศึกษาที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะให้การศึกษาที่มีคุณภาพสูงสุดกับนักเรียนทุกคน

          ประการที่สอง การศึกษาในนิวซีแลนด์ นักเรียนจะได้เรียนเนื้อหาวิชาการที่มีความจำเป็นมากเท่ากับการเรียนทักษะอื่นๆที่จำเป็นต้องเรียนรู้ หรือทักษะที่นักเรียนถนัดอยู่แล้ว อีกทั้งการศึกษาในนิวซีแลนด์ยังส่งเสริมให้นักเรียนคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณและเป็นอิสระ มีความคิดสร้างสรรค์ และค้นหาคำตอบด้วยตนเอง ไม่เพียงแต่ฝึกฝนจนคล่องแคล่วเท่านั้น แต่นักเรียนยังต้องรู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่น ปรับตัว และแสวงหาความรู้อยู่เสมอ

 “นักเรียนต่างชาติที่เรียนในนิวซีแลนด์ นอกจากจะได้รับวิชาการแล้ว ยังจะได้รับทักษะกลับไปด้วย อย่างเช่น รูปแบบการสอนของนิวซีแลนด์ช่วยให้นักเรียนได้รับทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจริง แก้ไขปัญหาในการทำงานได้จริง และมีความเป็นผู้นำ โดยหลายหลักสูตรที่เปิดให้นักเรียนเข้ามาเรียนรู้ นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการทำงานเป็นทีมและการรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายในกลุ่ม แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี แต่ทักษะที่นักเรียนได้เรียนรู้จากการทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกันนี้ จะทำให้นักเรียนก้าวไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน และการมีทักษะดังกล่าวนี้เอง ยังช่วยให้ทุกคนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพร่วมผู้อื่นได้ด้วย” ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ กล่าว

ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที่ www.studywithnewzealand.govt.nz

Comments (0)

“สู่ขวัญ บูลกุล” ปลื้ม “น้องปราบ” แฮปปี้เรียนนิวซีแลนด์

Posted on 28 ธันวาคม 2022 by admin

วันก่อนคุณแม่คนเก่ง “สู่ขวัญ บูลกุล” ไปร่วมแชร์ประสบการณ์การศึกษาในนิวซีแลนด์ของน้อง“ปราบ บูลกุล” ในงาน “การศึกษานิวซีแลนด์ 2022” (New Zealand Education Fair 2022) ซึ่งหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ)  สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับ 47 สถาบันการศึกษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ร่วมกันจัดขึ้น ว่า รู้สึกแฮปปี้ที่น้องปราบสนุกกับการเรียนและใช้ชีวิตที่นิวซีแลนด์ เพราะพ่อแม่ทุกคนอยากให้การศึกษาที่ดีที่สุดกับลูก แต่การจะเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้นมา สิ่งที่สำคัญมากไม่แพ้การศึกษา คือสิ่งแวดล้อม และสังคมที่เขาจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่ ซึ่ง ณ ปีนี้ปัจจุบันนี้ นิวซีแลนด์ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องระบบการศึกษา และสภาพแวดล้อมสังคมที่เด็กจะต้องเจริญเติบโต ทำให้ขวัญกับพี่โชค (โชค บูลกุล) รู้สึกมั่นใจว่าเป็นตัวเลือกที่ตัดสินใจดีที่สุดแล้วสำหรับลูกเรา

“ขวัญเป็นเด็กโรงเรียนไทยตั้งแต่อนุบาลจนถึงจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรามีความรู้สึกว่าการศึกษาถูกแบ่งเป็นสายวิทย์-คณิต สายศิลป์ และต้องเรียนแบบนี้  แต่สำหรับที่นิวซีแลนด์จะต่างออกไป แต่ละโรงเรียนอยู่ในภูมิภาคไหน ความถนัดด้านไหน สามารถมีวิชาเป็นลักษณะพิเศษได้เลย เราคิดว่าเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แต่เราไม่รู้ว่าเมื่อลูกเราไปอยู่จริงๆ เขาจะชอบด้วยหรือเปล่า ซึ่งตั้งแต่ไปถึงเขาบอกว่าโอเคมาก แม่ไม่ต้องห่วง จนเข้าโรงเรียน เริ่มเรียนหนังสือ สิ่งที่เขาบอกกลับมาคือ เขามีความสุขมาก ไม่รู้สึกว่าต้องปรับตัวเยอะ เพราะคนที่นิวซีแลนด์ค่อนข้างเป็นมิตร และมีน้ำใจ ถ้าเป็นเด็กต่างชาติมาเขาจะช่วยกันเลย นอกจากครูบอกแล้ว เด็กในหอพักซึ่งมีเด็กต่างชาติและเด็กนิวซีแลนด์ด้วย จะช่วยกันดูแลเป็นอย่างดี”

Comments (0)

บียอนด์ เทรนนิ่ง ชี้ผู้นำยุคใหม่ต้อง “เก่งงาน เก่งคน เท่าทันเทรนด์โลก”

Posted on 07 ธันวาคม 2022 by admin

          ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมพัฒนาคนในองค์กรชั้นนำเมืองไทยเผยถึง การเปลี่ยนแปลงธุรกิจยุคใหม่ว่า ทักษะคนทำงานยุคเดิมกำลังจะหมดไป โดยเฉพาะทักษะด้านความเป็นผู้นำ ส่งผลให้ “ทักษะผู้นำยุคใหม่ หรือ Adaptive Leadership Skill ” กลายมาเป็น “ทักษะสำคัญเร่งด่วน” ที่ต้องเร่งพัฒนาหัวหน้ายุคดิจิทัล พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องมี Adaptive Leadership ความเป็นผู้นำยุคใหม่ต้อง  “เก่งงาน เก่งคน เท่าทันเทรนด์โลก” เป็นฟันเฟืองสำคัญสร้างองค์กรให้เติบโตแบบก้าวกระโดดในยุคดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ…

ภก. คงเกียรติ  ฉัตรหิรัญทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บียอนด์ เทรนนิ่ง จำกัด ผู้นำด้านการฝึกอบรมพัฒนาคนในองค์กรชั้นนำของไทย เผยว่า จากนิตยสาร Forbes “Human Resources Council จำนวน 14 ท่าน” ได้ระบุถึง 14 ความท้าทายที่หัวหน้ามือใหม่ต้องเผชิญในช่วงปี 2022 และอนาคต ที่สอดคล้องกับสังคมการทำงานในไทยว่า  นับจากวันนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายโดยเฉพาะแนวคิดจาก “ผู้ทำ เป็น ผู้นำ” ส่งผลให้หัวหน้าต้องปรับแนวคิดครั้งใหญ่ จากการลงมือทำเอง เป็นสร้างผลงานผ่านทีม เพื่อให้หัวหน้างานไปทำสิ่งที่สำคัญกว่าและสร้าง Impact ต่อองค์กร ฉะนั้น หัวหน้างานต้องเริ่มเรียนรู้ “ทักษะหัวหน้ายุคใหม่” ซึ่งเป็นหัวใจเป็นมันสมองของธุรกิจในยุคดิจิทัล

พร้อมกันนี้  “การพลิกรูปแบบการสื่อสาร เชื่อมคนในทีมและ Stakeholders หัวหน้างานที่มีประสิทธิภาพ คือ ต้องรู้จักทีมว่าใครมีความสามารถอะไร? รู้วิธีสื่อสารให้ทีมเข้าใจ และประสานงานกับแผนกอื่นๆได้ ปรับบทบาทเป็นผู้นำที่พร้อมสนับสนุนและสร้างแรงผลักดันให้กับลูกทีมได้ในโลกของการทำงานไม่มีอะไรแน่นอน พนักงานในทีมแต่ละคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน หัวหน้างานจึงต้องปรับบทบาทเป็นผู้ซัพพอร์ตสร้างกำลังใจ เป็นโค้ชฯอย่างเต็มที่ รับมือกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งกุญแจสำคัญช่วยปลดล็อกความคิดและพัฒนาทักษะของหัวหน้าคือ Adaptive Leadership Skill “

ทั้งนี้… ผู้นำยุคใหม่ที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง” (Adaptive Leadership) ซึ่งอ้างอิงจากหนังสือ The Practice of ADAPTIVE LEADERSHIP: Tools and Tactics for Changing Your Organization and the World ถึงบุคลิกลักษณะของผู้นำฯ มี 6 ข้อที่น่าสนใจ คือ

  1. Get on the Balcony การมองภาพรวม (Big Picture) ต้องมองภาพรวมให้เป็น เอาตัวถอยออกมาเพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมโดยกว้าง หมั่นศึกษา Macro Trend ในปัจจุบันเป็นอย่างไร
  2. Identify adaptive challenges ระบุปัญหาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจน เช่น การตั้งคำถามว่า อะไรคือปัญหาสำคัญ ระหว่างองค์กรหรือพนักงาน? ควรหาคำตอบร่วมกับพนักงาน เพื่อคัดกรองสิ่งที่เป็นปัญหาจริง ๆ และลำดับความสำคัญของปัญหา -ลงมือแก้ไข
  3. Regulate distress ปรับแนวคิดเพื่อรับมือกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการปรับตัว คือคำถามจากทั้งตัวเองและพนักงานว่า ทำไมถึงต้องปรับตัว? ตอบคำถามด้วยเหตุผลด้วยการ Turning up the heat (heifetz, 2009) ให้พนักงานเข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยนแปลง
  1. Maintain disciplined attention เป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างวินัยของการปรับตัว หัวหน้าต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการ สร้างวินัยด้านการปรับตัว เพราะจะส่งผลดีต่อตนเอง ทีมและองค์กร
  2. Give the work back to the people ทำงานให้ใกล้ชิด ปลูกฝังหัวใจของการเป็นเจ้าของธุรกิจให้พนักงาน การเปลี่ยนแปลงมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว หัวหน้าต้องมีความเชื่อมั่นและผลักดันผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นจริง ให้กำลังใจ เสริมแรงจูงใจกระตุ้นให้รู้ว่าพนักงานมีความสำคัญต่อองค์กร
  3. Protect leadership voices from below ให้ความสำคัญกับ เสียงเล็กๆของพนักงานทุกคน ต้องรับฟังปัญหาของพนักงานทุกคน

การนำมาปรับใช้กับการทำงานในองค์กร หรือพัฒนาบุคลากรระดับหัวหน้างานให้มีความเป็นผู้นำยุคใหม่แบบ Adaptive Leadership นั้น จำเป็นต้องมีแผนพัฒนา มีเครื่องมือการฝึกอบรม หลักสูตรเสริมสร้างทักษะที่ได้มาตรฐาน สามารถนำมาผสมผสานกันเพื่อพัฒนาบุคลากรสู่การเป็นผู้นำยุคใหม่ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งบริษัท Beyond Training ได้ออกแบบแผนพัฒนาที่ชื่อว่า Adaptive Leadership Series ที่ช่วย “สร้างคนเก่งที่มีภาวะผู้นำสูง” ช่วยพัฒนาบุคลากรในทุกตำแหน่งให้ “เก่งงาน เก่งคน เท่าทันเทรนด์โลก” พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับองค์กรยุคใหม่

17179400247757_resize

กระบวนการสร้าง Adaptive Leadership ให้กับบุคลากรในองค์กร จะต้องเริ่มตั้งแต่ “เจาะลึกกระแสโลก (Mega Trend) และทิศทางของธุรกิจ” เพื่อให้ทราบว่าองค์กรต้องเผชิญหน้ากับอะไร เพื่อหา Solution พัฒนากลยุทธ์ให้สอดรับการเปลี่ยนแปลง จากนั้นจึงร่วม วางแนวทางกลยุทธ์องค์กร (Business Direction) และ วางโครงสร้างองค์กร (Organization Design) รวมถึงการ ออกแบบตำแหน่งหน้าที่การทำงานต่าง ๆ (Job Design)

“จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนออกแบบการเรียนรู้ของคนในองค์กร ผ่าน Framework ที่ชื่อ High Impact Development Framework ที่จะเจาะลึกลงไปถึง 8 สมรรถนะ (Competency) ของผู้นำยุคใหม่ (Adaptive Leadership) ประกอบไปด้วย AGILITY, DISRUPTIVE , ATTITUDES , PERSONALIZATION , TECHNOLOGY , INNOVATION , LIVE WELL BEING , EMPATHY  ซึ่งการสร้างสมรรถนะเหล่านี้ จะพัฒนาได้ด้วยกลุ่มทักษะที่ถูกร้อยเรียงออกมาเป็นโปรแกรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมตั้งแต่ระดับ Frontline Leadership , Mid-Level Leader ไปจนถึง Senior Leader  ผ่านแผนฝึกอบรม (Training Roadmap) ที่นำทฤษฏี 70 : 20 : 10 มาผสมผสาน ทั้งการเรียนรู้จากหลักสูตร (10) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์หลังเรียนรู้ (20) รวมถึงการนำความรู้ไปปฏิบัติใช้จริง (70)

ในวิกฤติความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรวมถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้องค์กรต้องตื่นตัวในการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำให้กับบุคลากร ฉะนั้น การสร้างแผนพัฒนา Adaptive Leadership Series ของ Beyond Training นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาคนทำงานให้ก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้นำยุคใหม่” ที่เก่งงาน เก่งคน และเท่าทันเทรนด์โลก  พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไทยให้เติบโตในธุรกิจยุคดิจิทัลใหม่ได้อย่างยั่งยืน” ภก.คงเกียรติ  กล่าวในท้ายสุด

Comments (0)

คนไทยสนใจเรียนนิวซีแลนด์คึกคัก หลังเปิดประเทศ 1 ส.ค. เพิ่มขึ้นกว่า 25%

Posted on 30 พฤศจิกายน 2022 by admin

         หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์เผยนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติให้ความสนใจเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  โดยหลังจากเปิดประเทศ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา  เพิ่มสูงขึ้นกว่า 25%

DSC_4122_resize_resize

นิวซีแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษาอันดับต้นๆของโลก และเป็นเป้าหมายทางการศึกษาของนักเรียนไทยและนักเรียนนานาชาติจากทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ เพราะด้วยจุดเด่นของระบบการศึกษานิวซีแลนด์ที่เปิดกว้างทางการศึกษา มีมาตรฐานติดอันดับโลก ทำงานได้ระหว่างเรียนและหลังจบการศึกษายังสามารถต่อวีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้สูงสุดถึง 3 ปี อีกทั้งยังได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่มีความปลอดภัย  ผู้คนเป็นมิตร สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การศึกษา โดยล่าสุด นิวซีแลนด์ได้จัดอันดับเป็น “ประเทศที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับที่ 2 ของโลก” จากการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ประจำปี 2022 ของ CS Global Partners

นอกจากนี้ การศึกษาของนิวซีแลนด์ ยังมีความโดดเด่นทางด้านหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานโลก และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น หลักสูตรการพัฒนาเอไอ (AI),  หลักสูตรการสร้างเกมส์ เทคโนโลยีแฟชั่นดิจิทัล (Digital Fashion Technology) ออกแบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital and Design) วิทยาศาสตร์สุขภาพด้านสุขภาพดิจิทัล (Health Sciences in Digital Health), นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) และ การตลาดดิจิทัล (Digital Ubiquitous Marketing)

DSC_4032_resize_resize

          นายกรานท์ แมคเฟอร์สัน (Mr. Grant McPherson) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ประเทศนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ตลาดการศึกษานานาชาติในภูมิภาคเอเชียมีศักยภาพการเติบโตสูง โดยประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของนิวซีแลนด์ในการดึงดูดนักเรียนต่างชาติให้มาศึกษาในประเทศในนิวซีแลนด์ 5 อันดับประเทศในทวีปเอเชียที่ส่งนักเรียนไปศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์ ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, เวียดนาม และ ไทย อยู่อันดับ 5

โดยจากข้อมูลเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 มีจำนวนนักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียน (ที่ยังไม่หมดอายุ) ในประเทศนิวซีแลนด์  จำนวนทั้งสิ้น 16,959 คน จากทั้งหมด 126 ประเทศ ในจำนวนนี้ มีนักเรียนไทย  840 คน

จากข้อมูลของหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันมีนักเรียนไทยให้ความสนใจลงทะเบียนไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นกว่า 25% เมื่อเทียบกับจำนวนนักเรียนไทยที่ถือวีซ่านักเรียน (ที่ยังไม่หมดอายุ) ในประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงเดือนกรกฏาคม พ.ศ.2565 และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังจากการเปิดประเทศของนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนักเรียนไทยส่วนใหญ่กว่า 47% ที่ลงทะเบียนไปเรียนที่นิวซีแลนด์นั้นไปเรียนในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นระดับการศึกษาที่นักเรียนไทยสนใจไปเรียนต่อนิวซีแลนด์มากที่สุด รองลงมาคือ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ และระดับอุดมศึกษา

ทั้งนี้ การศึกษานิวซีแลนด์ได้มุ่งส่งเสริมความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างประเทศ และเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาของไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับโรงเรียน (ระดับมัธยมศึกษา) และระดับอุดมศึกษา ร่วมกับสถาบันการศึกษาของไทยทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ โครงการความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) และมหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเตรียมความพร้อมปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์ (Business Foundation Studies Programme)  เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนไทยสามารถต่อปริญญาตรีแบบไฮบริดกับมหาวิทยาลัยระดับโลกของนิวซีแลนด์

DSC_4111_resize_resize

          รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT)  เปิดเผยว่าโครงการความร่วมมือระหว่าง RMUTT กับ มหาวิทยาลัยโอทาโก เป็นการร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเร่งรัดสำหรับนักเรียนไทยโดยเฉพาะ เป็นหลักสูตรปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ (Business Foundation Studies Programme) หลักสูตรเรียนเตรียมปริญญาปี 1 นิวซีแลนด์ที่ประเทศไทย 8 เดือน (เทียบเท่าป.ตรีปี 1) หลังจากจบหลักสูตรเร่งรัดแล้วสามารถเรียนจบป.ตรีนิวซีแลนด์ได้ใน 3 ปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนไทยของเราสามารถสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาในนิวซีแลนด์ได้เร็วขึ้น

นอกจากความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์แล้ว ที่ผ่านมาทาง RMUTT ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศนิวซีแลนด์ ผ่านสถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไทย-นิวซีแลนด์ (TNZC) ที่ศูนย์นวัตกรรมและความรู้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีที่ DD Mall เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมโยงการศึกษาระหว่างการศึกษาไทยกับการศึกษานิวซีแลนด์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับนานาชาติให้นักเรียนไทยอีกด้วย

ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที่ www.studywithnewzealand.govt.nz

Comments (0)

สภาทนายความฯ ร่วมลงนามกับ มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ให้คำปรึกษาทางกฎหมายฯ กับคนพิการฯ

Posted on 25 พฤศจิกายน 2022 by admin

สภาทนายความ1

          ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่  เพื่อการพัฒนาคนพิการ ให้คำปรึกษาทางกฎหมายและปฏิบัติงานทางคดี คนพิการหรือองค์กรด้านคนพิการ รวมถึงการจัดฝึกอบรมหรือสัมมนาให้ความรู้ทางกฎหมาย  พัฒนากฎหมายและนโยบายสาธารณะ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายบุคคลในทุกด้านและทุกมิติ และทำให้สิทธิคนพิการเป็นจริงตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Right of People with Disability, CRPD)  อีกทั้งจัดทำแผนยุทธศาสตร์ กำหนดแผนปฏิบัติงานประจำปีตามภารกิจหลัก ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติต่อไป รวมทั้งให้สังคมรับทราบถึงภารกิจและการดำเนินงานของทั้งสองฝ่าย ตลอดจนการสื่อสารสาธารณะให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนและคนพิการ ณ ห้องประชุม สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร

พร้อมกันนี้ ขอเชิญชวนคนพิการทั่วประเทศใช้บริการ 1479 สายด่วนคนพิการ และ NiNa 1479 Platform….

สภาทนายความ6

Comments (0)

อัพเดทเทรนด์การศึกษาเทคโนโลยีดิจิทัล หลักสูตรพัฒนา AI – สร้างเกมส์ – ดิจิทัลเฮลท์

Posted on 25 ตุลาคม 2022 by admin

          หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ)  สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับ สถาบันการศึกษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ขอเชิญผู้สนใจร่วมงานแนะแนวการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ New Zealand Education Fair 2022 งานการศึกษาที่รวบรวมสถาบันการศึกษานิวซีแลนด์เอาไว้เกือบ 50 สถาบัน พร้อมทุนการศึกษาจากหลากหลายสถาบัน และกิจกรรมห้องเรียนจำลองที่ยกคลาสเรียนจากคุณครูนิวซีแลนด์มาให้นักเรียนไทยได้สัมผัส วันเสาร์ที่ 5 พ.ย. 65 นี้  เวลา 11.00 – 17.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2 ลงทะเบียน ร่วมงาน ฟรี  https://bit.ly/NZFairTH22

งานแนะแนวการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand Education Fair 2022) กลับมาจัดอีกครั้งในรอบ 2 ปี หลังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้น้องๆ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้สนใจที่กำลังวางแผนไปเรียนต่อต่างประเทศ ได้สัมผัสการเรียนรูปแบบใหม่ในแบบนิวซีแลนด์ ประเทศที่เปิดกว้างทางการศึกษา และได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมเด็กสู่อนาคต จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก อีกทั้งการศึกษาของนิวซีแลนด์ยังมีความโดดเด่นทางด้านหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัล ทำงานได้ระหว่างเรียนและสามารถต่อวีซ่าทำงานได้สูงสุดถึง 3 ปีภายหลังจบการศึกษา มีสภาพแวดล้อมและธรรมชาติที่สวยงาม ปลอดภัย  ผู้คนเป็นมิตร มีวัฒนธรรมหลากหลาย เป็นประทศแรกที่มีกฎหมายคุ้มครองนักเรียนต่างชาติ และค่าครองชีพไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทำให้นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่นักเรียนไทยให้ความสนใจไปเรียนต่อมากที่สุด

ภายในงาน New Zealand Education Fair 2022 ได้รวบรวมสถาบันการศึกษาชั้นนำของนิวซีแลนด์เกือบ 50 สถาบัน ทั้งโรงเรียนมัธยม มหาวิทยาลัย (ครบทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์)  สถาบันเทคโนโลยี และสถาบันภาษา โดยน้องๆสามารถร่วมค้นหารายละเอียดหลักสูตรและโปรแกรมการศึกษาต่างๆที่เหมาะสมกับตนเอง พร้อมอัพเดทเทรนด์การศึกษาในหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตอาชีพอนาคตของคนรุ่นใหม่ อาทิ หลักสูตรการพัฒนา AI,  หลักสูตรการสร้างเกมส์, วิทยาศาสตร์สุขภาพด้านสุขภาพดิจิทัลหรือดิจิทัลเฮลท์  (Health Sciences in Digital Health), นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist),  เทคโนโลยีแฟชั่นดิจิทัล (Digital Fashion Technology), การตลาดดิจิทัล (Digital Ubiquitous Marketing) และ การออกแบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital and Design) เป็นต้น

พร้อมรับสิทธิ์ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ อาทิ The University of Auckland มอบทุนการศึกษามูลค่าสูงสุดถึง $10,000 หรือมากกว่า 200,000 บาท สำหรับนักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท หรืออนุปริญญาโท และทุนการศึกษา $5000 หรือกว่า 100,000 บาท จาก  AUT International Excellence  และทุนการศึกษาอื่นๆ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดกับตัวแทนสถาบันการศึกษาได้ภายในงาน

สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนหลักสูตรระยะสั้น (คอร์สสั้นเชิงวิชาชีพ) ไม่ว่าจะเป็น ช่างอุตสาหกรรม เชฟ ไอที  และทางด้านวิชาชีพอื่นๆ องค์กรสถาบันเทคโนโลยี Te Pukenga ที่รวมสถาบันเทคโนโลยีทั้งหมดของนิวซีแลนด์เข้าด้วยกัน จะมีการเปิดตัวในงานนี้

นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้น้องๆเปิดประสบการณ์ห้องเรียนจำลองแบบนิวซีแลนด์ กับกิจกรรมห้องเรียนจำลองที่ทาง Education New Zealand ได้ยกคลาสเรียนจากคุณครูนิวซีแลนด์มาให้นักเรียนไทยได้สัมผัสประสบการณ์จริง 3 รอบ  เวลา 11.45 น. , 14.00 น. และ 15.00 น.   ผู้สนใจลงทะเบียนด่วน รับจำนวนจำกัดได้ที่.คลิก https://bit.ly/3rgfeE0  (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

 พร้อมร่วมพูดคุยกับคุณสู่ขวัญ บูลกุล  ที่จะมาร่วมพูดคุยและเปิดใจว่าทำไมถึงเลือกให้ น้องปราบ ลูกชายเพียงคนเดียวไปเรียนที่ประเทศนิวซีแลนด์

ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมงาน ฟรี พร้อมรับสิทธิ์ทุนการศึกษาจากหลากหลายสถาบันในงานนี้งานเดียว  และ ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับนิวซีแลนด์ ฟรี จากสายการบิน Air New Zealand

คลิก  https://bit.ly/NZFairTH22

Comments (0)

แม็คกรุ๊ป มอบผ้ายีนส์ให้น้องผู้พิการฯ

Posted on 19 ตุลาคม 2022 by admin

นายวิรัช  เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ คณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมฯ ของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ โดยมอบผ้ายีนส์ให้กับน้องๆซึ่งเป็นนักเรียนประจำและเจ้าหน้าที่ผู้พิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาอาชีพต่อไป โดยมี นายณรงค์ รัตนโสภา ผู้แทนมูลนิธิฯ เป็นผู้รับมอบฯ ณ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด สุขาภิบาล2 เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

ดีป้า เดินหน้ายกระดับทักษะดิจิทัลผู้บริหารระดับสูงรัฐ – เอกชนต่อเนื่อง ผ่าน “หลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 6”

Posted on 12 ตุลาคม 2022 by admin

AW_CEO 6 A4 edit 3

          ดีป้า พร้อมเปิดหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 6 สำหรับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สนใจเสริมความรู้และพัฒนาทักษะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้บริหารจัดการองค์กร ก่อนนำองค์ความรู้ด้านดิจิทัลในมิติต่าง ๆ มาใช้ยกระดับองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ร่วมผลักดันประเทศไปสู่ “ดิจิทัลไทยแลนด์”

          ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญที่ ดีป้า ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องคือ การพัฒนากำลังคนและเพิ่มศักยภาพบุคลากรดิจิทัลของประเทศ สอดรับกับ (ร่าง) แผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระยะที่สอง (พ.ศ. 2566 – 2570) ยุทธศาสตร์ที่ 1 ปรับทุนมนุษย์สู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล โดยหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือ ‘Upskill’ หรือการสร้างทักษะดิจิทัลแห่งอนาคตแก่ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านหลักสูตรเรียนรู้และฝึกอบรมต่าง ๆ โดยเฉพาะหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่ดำเนินการมาแล้ว 5 รุ่น มีผู้บริหารสำเร็จหลักสูตรฯ รวมกว่า 500 ราย

          ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า หลังประสบความสำเร็จอย่างมากจากหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้ง 5 รุ่นที่ผ่านมา ส่งผลให้ ดีป้า ดำเนินการเปิดรับผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ต้องการเสริมความรู้และพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไปกับ หลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 6 ซึ่งผู้บริหารที่เข้าร่วมหลักสูตรฯ จะได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ด้านดิจิทัลในมิติต่างๆ พร้อมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่มีผลต่อการดำเนินนโยบายและแผนงานในยุคดิจิทัล อาทิ Blockchain, IoT, AI, Cyber Security, Big Data and Analytics, 5G, Cloud Computing ฯลฯ อีกทั้งสัมผัสประสบการณ์ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจากวิทยาการผู้เชี่ยวชาญ และผู้คร่ำหวอดในแวดวงดิจิทัล รวมถึงการศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิด ทักษะ ประสบการณ์กับบริษัทเทคดิจิทัลชั้นนำ และองค์กรระดับแนวหน้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ผศ.ดร.ณัฐพล-นิมมานพัชรินทร์_resize

ผู้บริหารที่ร่วมอบรมกับหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลจะสามารถนำความรู้ที่ได้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อต่อยอดแนวคิด ก่อนประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการ และยกระดับองค์กรของตนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายผู้บริหารที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทย เพื่อผลักดันประเทศสู่ ‘ดิจิทัลไทยแลนด์’ ต่อไปผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

          “Digital CEO หลักสูตรสำหรับ CEO ตัวจริงอย่างคุณ!” ผู้บริหารที่สนใจร่วมยกระดับองค์ความรู้และทักษะดิจิทัลไปกับหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 6 สามารถสมัครได้แล้ววันนี้ – วันที่
1 ธันวาคม 2565 และเริ่มอบรมวันที่ 12 มกราคม – 20 พฤษภาคม 2566 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.depa.or.th/digitalceo

นานาทัศนะของผู้ผ่านการอบรมหลักสูตร Digital CEO ที่ผ่านๆมา เช่น นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า “หลักสูตรนี้มีการบูรณาการระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน ช่วยการทำงานและลดความเลี่อมล้ำโดยการนำทักษะ ด้านดิจิทัลไปสู่ชุมชน โดยหวังว่าผู้

AW_CEO 6 Page_1_resize

ที่เข้าอบรมจะเป็นเครือข่ายที่จะช่วยในการนำดิจิทัลมาช่วยพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของประเทศที่ตั้งเป้าไว้” ส่วน นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า “หลักสูตรนี้มีประโยชน์มาก ได้ความรู้และประสบการณ์ ได้ไปดูงานทั้งในและต่างประเทศ มีความทันสมัยเป็นดิจิทัลและนำมาปรับใช้กับองค์กร การบริหารจัดการ การทำงาน ซึ่งจังหวัดเรามีแผนที่จะทำสมาร์ทซิตี้ด้วย หลักสูตรนี้ทำให้เราเข้าใจในความเป็นดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งราชการให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก” สำหรับ ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยว่า “เป็นหลักสูตรที่ดีมาก ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้แลกเปลี่ยนความรู้และข้อคิดเห็นในยุคดิจิทัล อีกทั้งได้สร้างเครือข่ายผู้นำในธุรกิจต่างๆ ซึ่งผู้นำองค์กรควรมาเรียนรู้เพื่อเสริมศักยภาพของตนเองและองค์กรค่ะ” ส่วน พ.ญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เผยว่า “เป็นหลักสูตรที่เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ทันสมัยและมีรูปธรรมที่นำไปประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งยังได้เรียนรู้ร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนหลากหลายแขนงวิชาชีพ เปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การนำเทคโนโลยีดิจิตัลไปปรับเปลี่ยนองค์กรให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง” สำหรับ ดร.ชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “มีประโยชน์มาก เป็นการรวมตัวของนักบริหารชั้นนำในวงการต่างๆ เข้ามาทำการศึกษาหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับด้าน AI และ ดิจิตอลเทคโนโลยีที่สำคัญๆในโลก ผู้เข้าร่วมทุกท่านล้วนแต่มี ประสบการณ์ที่น่าสนใจและมีคุณวุฒิในสายงานที่หลากหลายและสนิทสนมเป็นมิตรมากๆครับ” ส่วน นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี เปิดเผยว่า “เป็นหลักสูตรที่จัดได้ดีมากๆ ได้ความรู้ที่ทันสมัย ได้ข้อคิดดีๆ นำกลับไปพัฒนาองค์กร ขอชื่นชมครับ”

Comments (0)

ชลิต อินดัสทรี เดินหน้าทำตลาด “POP”อะไหล่รถยนต์คุณภาพสูงระดับสากล ฝีมือคนไทย

Posted on 29 กันยายน 2022 by admin

“POP” แบรนด์อะไหล่ยานยนต์คุณภาพสูงมาตรฐานสากล จากฝีมือคนไทย ผลิตโดยบริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตและจำหน่ายอะไหล่ทดแทนและอะไหล่ยางสำหรับใช้ในรถยนต์ทุกชนิดแบบครบวงจร ที่มีประสบการณ์มานานมากกว่า 30 ปี ทั้งชิ้นส่วนอะไหล่ประเภททดแทน หรือ REM (Replacement Equipment Manufacturers) ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่เพื่อการทดแทนชิ้นส่วนที่เสียหรือสึกหรอ รวมถึงการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนเพื่อป้อนโรงงานรถยนต์โดยตรง หรือ OEM (Original Equipment Manufacturers) รองรับความต้องการของผู้ใช้งานมากกว่า 4,000 รายการ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ รถเพื่อการพาณิชย์ รถบรรทุก รถญี่ปุ่น รถยุโรป รวมทั้งการผลิตตามความต้องการของลูกค้าโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานและพึงพอใจลูกค้ามากที่สุด อาทิ ยางแท่นเครื่อง, ยางแท่นเกียร์, ยางกันกระแทก,ยางเพลากลาง, บู๊ชปีกนก  และ บูชโช๊คอัพล่าง เป็นต้น

              นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “หัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของเราคือ “คุณภาพระดับสากล” โดยอะไหล่ทุกชิ้นของ REM ของเราจะมีความแตกต่างที่เหนือกว่าสินค้าทั่วไปคือ “คุณภาพของ REM เป็นมาตรฐานเดียวกับ OEM ซึ่งมีการปรับปรุงพัฒนามาตรฐานให้ดีขึ้นและทันสมัยอยู่ตลอด และมีแนวทางชัดเจนในการศึกษาและวิจัยนวัตกรรมสู่ตลาด โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้อะไหล่ “POP” เป็นผลิตภัณฑ์ไทยคุณภาพที่ได้รับตราสัญลักษณ์  Thailand Trust  Mark (T MARK) ระบบบริหารงานด้านคุณภาพสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (IATF 16949: 2016 Automotive Quality Management System Standard) การรับรองมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO9001) และใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว เป็นต้น

“นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญในเรื่องการบริการที่รวดเร็วและบริการหลังการขาย สินค้าของเรามีสต๊อกไว้ตลอด เรียกว่า Ready To Ship พร้อมส่ง มีความรวดเร็วในการส่งของ และพร้อมซัพพอร์ตลูกค้าเมื่อมีปัญหา”

ปัจจุบันชลิต อินดัสทรีฯ ได้ขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการสร้างโรงงานแห่งใหม่ ยกระดับกระบวนการผลิตที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งมีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพสูง มีความทันสมัย รองรับกำลังการผลิตและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น

รู้จัก “POP” อะไหล่รถยนต์คุณภาพสูงระดับสากล ฝีมือคนไทย 

@เบ้าโชคอัพบน-ล่าง (SHOCK ABSORBER MOUNTING)

เบ้าโช๊คอัพมักจะเป็นอะไหล่ที่ถูกมองข้ามเสมอเมื่อเทียบกับอะไหล่รถยนต์ทั่วไป แต่ในทางกลับกันหากปล่อยให้เบ้าโช๊คอัพเสื่อมสภาพ จะส่งผลทำให้รถยนต์เกิดความเสียหายอย่างหนักได้ โดยเฉพาะการขับขี่ในช่วงหน้าฝน เพราะละอองน้ำฝนอาจทำให้เบ้าโช๊คอัพและอะไหล่อื่นๆ เป็นสนิมและที่สำคัญหากขับรถที่เบ้าโช๊คอัพมีการชำรุด จะส่งผลให้ช่วงล่างรถยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้นและอาจส่งผลต่ออะไหล่ชิ้นอื่นๆ ทำให้ได้รับความเสียหายตามไปด้วย ส่งผลให้รถยนต์เสียสมดุลได้ เวลาขับน้ำหนักจะเทไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

@บูชยางแท่นเครื่องแบบสอดไส้น้ำมันไฮดรอลิก (ENGINE INSULATOR)

ด้วยจุดเด่นที่เหนือกว่ายางแท่นเครื่องประเภทอะไหล่ทดแทนทั่วไป “POP” ถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในกลุ่มสินค้าประเภทอะไหล่ทดแทนที่สอดไส้น้ำมันไฮดรอลิก โดยมีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง สามารถลดการสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ไปยังช่วงล่างห้องโดยสารได้อย่างยอดเยี่ยม และมีประสิทธิภาพการดูดซับแรงสั่นสะเทือน มีทั้งแบบยางกลวง ยางซ้อน ยางนุ่มอีกชั้น และแบบสอดไส้น้ำมันไฮดรอลิก ซึ่งได้นำมาใช้กับรถชั้นนำอย่างรถญี่ปุ่นรวมถึงรถยนต์ส่วนบุคคล และรถเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถกระบะ รถบรรทุกอีกด้วย

@ยางแท่นเกียร์ (REAR ENGINE MOUNTING)

ส่วนสำคัญที่เป็นตัวกลางช่วยซึมซับแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์สู่ตัวถังให้น้อยที่สุด ยางแท่นเกียร์จึงจำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่แข็งแรงพอต่อการรับน้ำหนักเครื่องยนต์กับเกียร์ได้ และยังต้องมีความยืดหยุ่นที่จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการทำงานของเครื่องยนต์ เพราะหากยางแท่นเกียร์แข็งเกินไปก็จะทำให้ตัวรถสั่นได้ ในขณะเดียวกันต้องระวังไม่ให้นิ่มจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดการทรุดระหว่างการใช้งาน แต่ยางแท่นเกียร์ของ POP มีความชำนาญและมีข้อได้เปรียบในการพัฒนามาตรฐานที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วยการผลิต Compound เอง จึงสามารถควบคุมคุณภาพและรักษามาตรฐานที่กำหนดได้เป็นอย่างดี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.chalitindustry.com โทร 02 8026400  Email: info@chalitindustry.com

Comments (0)

ชลิต อินดัสทรีฯ ช่วยเหลือผู้ประสบอุกภัย

Posted on 27 กันยายน 2022 by admin

DSC_0057_resize

          นายฐิติวัฒน์ ว่องวรรณกุล ผู้จัดการ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ สภากาชาดไทย รับมอบเงินบริจาคจาก นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ กรรมการ บริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ “POP” และ ผศ.(พิเศษ)ดร. อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ เพื่อร่วมสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยากฯ ในการช่วยเหลือและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้ประสบอุทกภัย  ณ สำนักงานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ ถนนเพชรบุรี เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

ร่วมรำลึก 19 ปีคุณพ่อเรย์ กับ4 ทศวรรษ สู่วิสัยทัศน์ด้านอาชีพคนพิการ ผู้สานฝัน สร้างงาน สร้างอาชีพแก่ผู้พิการ…โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

Posted on 26 กันยายน 2022 by admin

          19  ปี คุณพ่อเรย์ สู่ 4 ทศวรรษ  พ่อพระของผู้พิการ กับวิสัยทัศน์ด้านอาชีพคนพิการ สานฝันสร้างงานสร้างอาชีพแก่ผู้พิการ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527  สู่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ องค์กรสาธารณกุศลด้านคนพิการระดับสากล ช่วยเหลือคนพิการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เผยดำเนินการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการสู่การมีงานทำมาอย่างยาวนานนับ หมื่นคน เพื่อให้คนพิการได้พึ่งพาตนเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งด้านการศึกษา การฝึกอาชีพ การจัดหางาน  เพื่อรำลึก 19 ปี กับ 4 ทศวรรษคุณพ่อเรย์ จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินหรือสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือคนพิการได้ โดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 342-3-04066-0  นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้…

          ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ กล่าวว่าในปีนี้ (2565)  ทางมูลนิธิได้จัดกิจกรรมรำลึก 19 ปี คุณพ่อเรย์ 4 ทศวรรษ  กับวิสัยทัศน์ด้านอาชีพคนพิการ เพื่อร่วมสดุดีคุณงามความดีที่คุณพ่อเรย์ มีแก่ผู้พิการทั่วประเทศ จนได้รับการย่องย่องให้เป็นพ่อพระของผู้พิการ  ซึ่ง “คุณพ่อเรย์” หรือ บาทหลวงเรย์มอนด์ เบรนเนน ท่านผู้ก่อตั้งโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 โดยเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีหน่วยงานที่เป็นนิติบุคคลมาเป็นเจ้าของและดำเนินงานของโรงเรียน เพื่อสร้างความมั่นคงในการดำเนินงาน ดังที่คุณพ่อเรย์ได้ย้ำเสมอว่า “พ่อต้องการช่วยเหลือคนพิการทุกคนทั้งโลก….ให้มีอาชีพและช่วยเหลือตัวเองได้ตลอดชีวิต”

ปัจจุบัน “มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ”   เป็นองค์กรสาธารณกุศลด้านคนพิการระดับสากล ที่ให้ความช่วยเหลือเยาวชนคนพิการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ โดยที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้ให้ความช่วยเหลือคนพิการเป็นจำนวนมากทั้งด้านการศึกษา การฝึกอาชีพ การจัดหางาน ฯลฯรวมทั้งเพื่อริเริ่มการดำเนินงานหรือสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่เน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพและให้คนพิการมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน มากกว่า 10,000 คน

“ความยิ่งใหญ่ที่คุณพ่อเรย์ ทำไว้คือการแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่เข็มแข็ง แล้วส่งต่อไปยังคนพิการ คนด้อยโอกาส เมื่ออดีตทีผ่านมา คนพิการ หรือคนด้อยโอกาสจะไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่มีอาชีพ ไม่มีงานทำ ไม่สามารถเข้าสังคมได้แต่เมื่อคุณพ่อเรย์ ได้เข้ามาเมืองไทยจึงได้พยายามต่อสู้ สร้างทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้คนพิการ คนด้อยโอกาส ให้มีทุกอย่างเฉกเช่นคนปกติ ทั้งมีอาชีพการงาน มีวิชาความรู้  และมีจิตใจที่เข็มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้กับชีวิตสามารถสร้างครอบครัวได้อย่างแข็งแรง มีชีวิตอยุ่ได้เช่นเดียวกับคนปกติ  นอกจากนี้ คุณพ่อเรย์ ได้สร้างสถานศึกษาต่างๆ เพื่อให้คนพิการ และคนด้อยโอกาส ได้มีชีวิตที่ดี  ได้มีชีวิตใหม่และประสบความสำเร็จ อีกทั้งลูกๆ ของคุณพ่อเรย์ ได้มีอาชีพที่มั่นคงอยู่ในองค์กรที่มีชื่อเสียงทั้งระดับภูมิภาคระดับประเทศและระดับโลก”

“บาทหลวงเรย์มอนด์ อัลลีน เบรนนัน หรือ คุณพ่อเรย์มอนล์ แอลลีน เบร็นนัน เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไอริซ  ได้เดินทางมาประเทศไทย เมื่อปี 2504 และได้รับมอบหมายงานครั้งแรกในภาคอีสาน สภาพความเป็นอยู่ทั่วไปของประชาชนมีความยากไร้การคมนาคมไม่สะดวก สภาพปัญหาด้านสาธารณสุข มีความตรึงเครียดตามเขตชายแดนจากสงคราม ภารกิจคือ การช่วยเหลือผู้อพยพชาวกันพูชา พม่า และเวียดนาม ซึ่งเป็นงานที่หนัก ทั้งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและชาวบ้านผู้ยากจน และต่อมาเมื่อปี 2515 คุณพ่อเรย์ได้ไปช่วยงานที่วัดเซนต์นิโคลัส พัทยา พร้อมทั้งได้ก่อตั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือ มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา ขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทำทุกอย่างโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลา 40 กว่าปีในประเทศไทย ท่านอุทิตตนเพื่อผู้อื่นมาโดยตลอดไม่เว้นแม้แต่เดือนสุดท้ายชีวิต จึงเป็นชีวิตตามแบบอย่างพระคัมภีร์ที่ว่า “ไม่มีความรักใดที่ยิ่งใหญ่กว่า ผู้ที่ยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อผู้อื่น”

โอกาสนี้ขอร่วมรำลึก 19 ปี คุณพ่อเรย์ 4 ทศวรรษ  กับวิสัยทัศน์ด้านอาชีพคนพิการ จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเงินหรือสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือคนพิการได้ โดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี 342-3-04066-0  สามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้  สามารถสอบถามรายละเอียดที่โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102 มือถือ 099-394-4795  หรือข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ www.mahatai.org

Comments (0)

ต่อลมหายใจผู้พิการ “ชลิต อินดัสทรี” มอบทุนการศึกษาฯ ว.เทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย สู่การมีงานทำช่วยตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

Posted on 18 กันยายน 2022 by admin

“การศึกษา” นับเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาสังคมในรูปแบบต่างๆ การศึกษาช่วยสร้างให้เรา มีองค์ความรู้ในเรื่องต่างๆ และทำให้เราเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ ดังนั้น… การศึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนทุกคน ทุกวัย ไม่เว้นแม้แต่ผู้พิการก็ยังต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา เรียนรู้ โดยเฉพาะสายอาชีพ เพราะหากเรียนจบ ฝึกฝนจนมีความชำนาญก็จะสามารถนำไปประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเอง และครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

ด้วยความสำคัญดังกล่าว นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ ร่วมด้วย นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ กรรมการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” จึงมอบเงินร่วมสมทบทุนเพื่อการศึกษาและการดำเนินงานของวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท เพื่อให้มูลนิธิฯ นำไปใช้ในการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพผู้พิการอย่างยั่งยืน สำหรับน้องๆ ผู้พิการซึ่งเป็นนักเรียนประจำและเจ้าหน้าที่ผู้พิการที่อยู่ในความดูแลของวิทยาลัยฯ กว่า 60 คน โดยมี นางสาวสัมฤทธิ์ ศิริรัมย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ เป็นผู้รับมอบ  ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย พร้อมกันนี้ทางบริษัท ชลิตฯ ยังได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับน้องๆ ผู้พิการอีกด้วย

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ  “ปัจจุบันระบบการศึกษามีความแตกต่างจากในอดีตมาก โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้นทั้งในด้านเทคโนโลยี การสื่อสาร สังคม  การศึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก ๆ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำทักษะ ความรู้ที่ได้เรียนมานำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้ในอนาคตได้   การมอบเงินร่วมสมทบทุนเพื่อการศึกษาและการดำเนินงานของวิทยาลัยฯในครั้งนี้ บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์แก่วิทยาลัยฯ เพื่อที่จะนำไปทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเหมาะสม ด้วยการเป็นทุนการศึกษาพัฒนาศักยภาพ นักเรียน นักศึกษา ให้ทุกคนได้กินอิ่มนอนอุ่น เนื่องจากวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ฯ นี้ดำเนินการแก่ผู้พิการที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้น้องๆได้เรียนจนจบ ปวช. และปวส. 3-5 ปี แล้วมีงานทำ ช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืนครับ”

ด้าน นางสาวสัมฤทธิ์ ศิริรัมย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคายฯ  “ขอบคุณ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ที่มอบเงินร่วมสมทบทุนเพื่อการศึกษาและการดำเนินงานของวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในครั้งนี้ นับว่าเป็นองค์กรที่น่ายกย่องในการทำกิจกรรมตอบแทนสังคม เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตและการศึกษาของน้องๆผู้พิการฯ ที่กำลังศึกษาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย เป็นสถานศึกษาสำหรับคนพิการแห่งแรกของภาคอีสาน เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้คนพิการมีวุฒิการศึกษา ก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับคนพิการ มีหอพักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ อาหาร 3 มื้อ อุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีนักศึกษาพิการที่อยู่ในความดูแลกว่า 60 คน ดำเนินการมาแล้วกว่า 11 ปี สามารถผลิตแรงงานคนพิการไปเป็นบุคลากรระดับมืออาชีพเพื่อทำงานรับใช้สังคมมาแล้วเกือบ 1000 คน”

ขอเชิญร่วมบริจาคได้ตามกำลังศรัทธาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ หรือโอนเงินเข้าบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ธ.กรุงเทพ สาขาบางละมุง บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 342-3-04294-8 นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ หรือสอบถามที่ โทรศัพท์ 081 723 5949  หรืออีเมล์ ajima@mahatai.org  เพื่อช่วยคนพิการไทยได้รับการศึกษาที่ดีต่อไป…

Comments (0)

ENZ เชิญประชุมและอบรมออนไลน์ฟรี งานประชุมอบรมอาชีวศึกษาแห่งเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2022 “ยกระดับทักษะการทำงานคนรุ่นใหม่ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง”

Posted on 13 กันยายน 2022 by admin

การศึกษานิวซีแลนด์ขอเชิญผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนภาคอุตสาหกรรม และผู้สนใจเข้าร่วมงานงานประชุมด้านการศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (The Asia Pacific Vocational Education and Training Forum ; APAC TVET Forum 2022) ในรูปแบบออนไลน์ฟรี  งานเดียวที่รวบรวมความคิดในการแก้ปัญหาช่องว่างด้านทักษะและการวางแผนแรงงานในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลนิวซีแลนด์ ร่วมกับ “Skills Consulting Group” และ “Te Pūkenga” องค์กรสถาบันวิชาชีพและเทคโนโลยีของนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันจัดการประชุมนี้ขึ้นเพื่อบูรณาการความรู้และทักษะอันจำเป็น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับทักษะการทำงานคนรุ่นใหม่ให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง และเตรียมทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตและการก้าวเป็นผู้นำในโลกที่มีความหลากหลาย โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน 2565 นี้

APAC-Photo-03_With_LogoLockup copy-1_resize_resize

          “การศึกษาสายอาชีพและการฝึกฝนพัฒนาทักษะตลอดชีวิตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกองค์กรในการเตรียมงานต่างๆในอนาคต” เป็นหนึ่งในประเด็นที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาเสวนาภายในงาน โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้นำด้านการศึกษาทั้งจากภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมนานาชาติกว่า 30 คน จาก 12 ประเทศ อาทิ

ดร. ดี ฮาลิล (Dr. Dee Halil)” ผู้จัดการโปรแกรมData Centre ระดับภูมิภาคในการพัฒนาทักษะจากบริษัทไมโครซอฟต์ (Microsoft) ที่จะพูดถึงประเด็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนทักษะและเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก รวมถึงวิทยากรจากประเทศไทย นายพรวิทย์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการอาวุโสจาก ซีพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) ที่จะบรรยายถึงการจัดระบบ สถาบันการศึกษาในแบบ work-based education เพื่อให้แน่ใจว่าผู้สำเร็จการศึกษามีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการทำงาน ทั้งทักษะทางวิชาการและภาคปฏิบัติ ตลอดถึงทักษะการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ

การอบรมนี้ดำเนินในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริง  (บรรยายเป็นภาษาอังกฤษ) โดยผู้ร่วมงานสามารถเข้าร่วมช่วงถาม-ตอบ และจองคิวปรึกษาแบบส่วนตัวกับผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อการประชุมต่างๆ อาทิ การออกแบบโครงสร้างหลักสูตร, micro-credentials และ work-based learning policy เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถแลกเปลี่ยนคำถาม ประสบการณ์และความคิดแบบตัวต่อตัวในช่วงการประชุมผ่านทางวิดีโอ รวมถึงการเข้าถึงงานวิจัยภาคอุตสาหกรรมล่าสุดที่มีให้อ่านมากกว่า 1,000 หน้า

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมประชุมทางออนไลน์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ที่เข้าร่วมงานการประชุมมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเพื่อสร้างทักษะให้กับแรงงานในปัจจุบันและในอนาคต

ลงทะเบียนฟรี https://scg.6connex.com/event/Skills/apactvet2022/register หรือรายละเอียดเพิ่มเติม www.apactvetforum.com

Comments (0)

เรื่องล่าสุด