Archive | กรกฎาคม, 2021

“ชลิต อินดัสทรี” ร่วมส่งเสริมอาชีพผู้พิการ – สนับสนุนกิจกรรม ต่อลมหายใจให้น้องได้ท้องอิ่ม มอบข้าวสารและอาหารฯช่วงวิกฤติโควิด

Posted on 13 กรกฎาคม 2021 by admin

จากสถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานนับปี ส่งผลกระทบต่อผู้คนในวงกว้าง มีผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก และด้วยน้ำใจของคนไทย ได้มีหน่วยงานต่างๆจัดตั้งระดมและรับบริจาคขึ้นจำนวนมาก ซึ่งบางโครงการก็ผ่านด้วยดี แต่ยังมีหลายโครงการที่ต้องการการสนับสนุนอีกมาก เช่นเดียวกับ “มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการฯ” ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเข้าขั้นวิกฤติกันเลยทีเดียว เนื่องจากขาดแคลนข้าวสารอาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ ซึ่งบริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ มีนโยบายในการช่วยเหลือสังคมมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงได้เล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นต่างๆของมูลนิธิฯ จึงได้ร่วมต่อลมหายใจให้น้องๆผู้พิการเหล่านี้ร่วมฝ่าฟันผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ …

และเมื่อเร็วๆนี้ นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ได้ร่วมส่งเสริมอาชีพผู้พิการและสนับสนุนกิจกรรมมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ พร้อมมอบข้าวสาร อาหาร และของใช้จำเป็นสำหรับน้องๆผู้พิการ ซึ่งเป็นนักเรียนประจำและเจ้าหน้าที่ผู้พิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการมากกว่า 800 คน โดยมี นายสัมฤทธิ์ ชาภิรมย์ ผู้จัดการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการฯ เป็นผู้รับมอบ ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ พัทยา จ.ชลบุรี

โดย นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “ที่ผ่านมาบริษัทมีนโยบายอันเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมหรือ CSR มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และล่าสุดหลังทราบข่าวว่ามูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิค 19 เนื่องจากยอดผู้บริจาคลดลง จนส่งผลให้มูลนิธิฯขาดแคลนข้าวสารอาหารและของใช้จำเป็นต่างๆสำหรับน้องๆนักเรียนประจำซึ่งเป็นผู้พิการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้พิการที่ทางมูลนิธิฯต้องรับผิดชอบดูแลอยู่เป็นจำนวนมาก  ทางบริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิฯ ให้ดำเนินต่อไปได้ ในการส่งเสริมอาชีพผู้พิการและสนับสนุนกิจกรรมมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ   โดยคาดว่าน้องๆนักเรียนจะมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีภาวะโภชนาการที่ดีซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญของประเทศชาติต่อไป

ทั้งนี้ ได้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทฯ  ที่ตระหนักดีถึงความสำคัญในการพัฒนาชุมชนและตอบแทนสังคม โดยที่ผ่านมา ได้เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมขององค์กรต่างๆ รวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆเพื่อการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้าน  ซึ่งเชื่อว่าพลังจากความมีน้ำใจและการร่วมมือกันจะนำพาให้สังคมดีขึ้นได้ อาทิ โครงการ “ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง” เพื่อน้องๆโรงเรียนพระดาบส มูลนิธิพระดาบส และโครงการอื่นๆ เป็นต้น

ส่วนทางด้าน ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ : กล่าวเพิ่มเติมว่า “ ขอขอบคุณ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ที่มอบอาหารและสิ่งของจำเป็นให้กับผู้พิการฯในครั้งนี้ สำหรับเรื่องของอาหาร ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ณ เวลานี้ เนื่องจาก สต๊อกข้าวสารอาหารแห้งและของใช้จำเป็นของมูลนิธิลดลงอย่างมาก เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤติก็ว่าได้ จึงวอนขอความเมตตา ผู้มีจิตศรัทธาหรือพอจะมีกำลัง ให้ช่วยบริจาคข้าวสาร อาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ อาทิ  นม กระดาษทิชชู่  น้ำมันพืช หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ทั้งแบบเจลและแบบน้ำ เป็นต้น เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ให้ท้องอิ่ม มีแรงสู่ชีวิตต่อไป  ที่ผ่านมาเราได้เผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ยอดบริจาคลดลงอย่างหนัก วันนี้เป็นช่วงเวลาที่คนไทยต้องช่วยกันผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้

สำหรับท่านที่มีจิตศรัทธา สามารถมอบมอบอาหารและสิ่งของจำเป็นให้กับผู้พิการได้ หรือโอนเงินผ่านผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้หรือสอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102 มือถือ 099-394-4795, 094-665-2223

Comments (0)

น้อมรำลึกพระกรุณาธิคุณ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

Posted on 12 กรกฎาคม 2021 by admin

          พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ประสูติวันที่ 13 กรกฎาคม 2500 ณ Guy’s Hospital ลอนดอน สหราชอาณาจักร ทรงเป็นธิดาพระองค์ใหญ่ของ หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร กับท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร ทรงเป็นทั้งพระภาติยะและอดีตพระสุณิสาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระธิดาพระองค์เดียว คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาพระเจ้า

วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงทุ่มเทพระหทัยและพระวรกายบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านงานการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์โดยมิได้คำนึงถึงความยากลำบากใดๆ ทรงมีความสนพระทัยและทรงทุ่มเทช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความทุกข์ยากลำบากทั่วประเทศในด้านการสาธารณสุขและสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพและพลานามัยดีถ้วนหน้า ทรงรับโครงการต่างๆของสภากาชาดไทย ไว้ในพระอุปถัมภ์หลายโครงการ รวมทั้งมูลนิธิด้านการแพทย์ อาทิ โครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก สภากาชาดไทย, โครงการคืนชีวิตให้พ่อแม่เพื่อลูกน้อยที่ติดเอดส์, กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุ สำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ สภากาชาดไทย, กองทุนนมสำหรับเด็กในโครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก, กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก, มูลนิธิศาสตราจารย์ นายแพทย์ หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร, มูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย เป็นต้น

โครงการที่ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงมีพระเมตตาต่อผู้ติดเชื้อเอดส์ และต่อการดำเนินงานของศูนย์วิจัยโรคเอดส์ตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ในปี พ.ศ. 2532 จนถึงปัจจุบัน ได้ประทานข้อแนะนำการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เสด็จเป็นประธานในงานเทียนส่องใจในวันเอดส์โลก วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี พร้อมให้ผู้ติดเชื้อและคนที่ทำงานด้านเอดส์เข้าเฝ้ารับประทานพระดำรัสอย่างใกล้ชิด และยังทรงประทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ตั้งเป็นกองทุนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์และครอบครัวทั้งด้านการรักษา จัดหายาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งการสังคมสงเคราะห์ อาทิ โครงการ “ช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก” สภากาชาดไทย ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ สภากาชาดไทย กองทุนนมสำหรับเด็กในโครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก สภากาชาดไทย และ โครงการ “คืนชีวิตให้พ่อแม่เพื่อลูกน้อยที่ติดเอดส์” สภากาชาดไทย เป็นต้น “กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์” สภากาชาดไทย  ได้ให้การสนับสนุนยาต้านไวรัสสำหรับหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวีที่มาฝากครรภ์ช้า ยาต้านไวรัส ยาเรียลทิกราเวียร์ จะให้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอดส์ทั้งคนไทยและชาวต่างด้าว ทั้งที่มีสิทธิ์และไร้สิทธิ์สวัสดิการสุขภาพ เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้ได้ผลทั่วถึง โดยยาต้านไวรัสนี้จะช่วยลดปริมาณเชื้อเอชไอวี และยายังสามารถส่งผ่านจากรกแม่ ไปสู่ทารกได้ดี ทำให้สามารถป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้ประทานเงินจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อก่อตั้งกองทุนและเสด็จมาทรงเปิดกองทุน ซึ่งประทานชื่อว่า “กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ” เมื่อ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2544  โดยมีพระดำริว่าอยากจะสนับสนุนช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ยากไร้ทั่วประเทศ และทรงรับสั่งเมื่อจัดตั้งว่า “กองทุนนี้มิใช่เพื่อโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่งแต่จะกระจายไปทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศที่ขอรับความช่วยเหลือให้แก่คนไข้” ในปี 2560 และ 2561 ได้ทรงประทานเงินส่วนพระองค์อีกปีละจำนวน 1 ล้านบาท ล่าสุดเมิ่อ 27 มิถุนายน 2562 ได้ประทานพระอนุญาตแก้ไขชื่อกองทุนฯ เป็น “กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ” ปัจจุบันได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศในรพ.กว่า 20 แห่งทั่วประเทศ โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษายาเคมีบำบัด ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าเดินทางมาตรวจรักษา ค่าที่พัก ค่าตรวจในห้องปฏิบัติการพิเศษ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพื่อความก้าวหน้าทางการรักษาโรคมะเร็งในเด็กต่อไปในอนาคต นอกจากการรักษาโรคมะเร็งในเด็กให้หายขาดมากขึ้นแล้ว ทางกองทุนฯยังได้ช่วยเหลือให้เด็กมีโอกาสทุพพลภาพน้อยลง เช่น ได้มอบเงินค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์แขนขาโลหะที่ใช้แทนกระดูกที่เป็นมะเร็งที่ถูกตัดออก ทำให้เด็กไม่ต้องถูกตัดแขนขาออกไป

มูลนิธิศาสตราจารย์ นายแพทย์ หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์กิติยากร ทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2533 เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขัดสน ช่วยเหลือค่ารักษา ช่วยจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนค่าเดินทางในการไปรักษา รวมทั้งการมอบทุนในการศึกษาต่อของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ด้านโรคหัวใจและทรวงอก ด้วยพระปณิธานอันแน่วแน่ที่จะทรงช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับการรักษาที่ดีมีมาตรฐานสากล

มูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแก่ผู้ป่วย ครอบครัว ประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์ รณรงค์ให้อุบัติการณ์ของโรคนี้ลดลงในประชากรไทย เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้มีการดูแลรักษาโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียและการป้องกันโรคนี้แก่ผู้ป่วย ครอบครัว และประชาชน รวมทั้งส่งเสริมให้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย

นอกจากนี้ทรงทรงรับมูลนิธิต่างๆไว้ในพระอุปถัมภ์ รวมทั้งจัดตั้งมูลนิธิและโครงการส่วนพระองค์อีกหลายโครงการ อาทิ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ทรงเป็นนายกกิตติมศักดิ์), มูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา (ทรงเป็นนายกกิตติมศักดิ์), มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย (ทรงดำรงตำแหน่งนายกกิตติมศักดิ์ตลอดพระชนม์ชีพ), มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของศาลเยาวชนและครอบครัว, มูลนิธิบ้านบางแค, มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก ของศาลเยาวชนและครอบครัว, มูลนิธิสถาบันแสงสว่าง, มูลนิธิธรรมจารินีวิทยา, มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของศาลเยาวชนและครอบครัว, สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี, สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย, สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่, สมาคมพัฒนาแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย, สภาแม่ดีเด่นแห่งชาติ, โรงเรียนวรราชาทินัดดามาตุวิทยา, วัดหนองน้ำขุ่น อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นต้น

นับได้ว่าทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจมากมายแก่ประเทศชาติ ในฐานะสมาชิกพระราชวงศ์ สนองเบื้องพระยุคลบาท มีพระกรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทรงพระคุณแก่บ้านเมืองเป็นที่ประจักษ์แก่ตาแก่ใจของประชาชนทั่วไป

          13 กรกฎาคม นี้ ตรงกับวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ  ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนานและขอถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน

Comments (0)

เชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษา ให้เยาวชนผู้พิการได้เรียนจนจบระดับ ปวช. และ ปวส.ช่วงโควิดนี้

Posted on 09 กรกฎาคม 2021 by admin

           วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จัดโครงการ “ทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล เพื่อหารายได้สมทบทุนการศึกษา” ขึ้นเพื่อให้วิทยาลัยเทคโนโลยีฯ เป็นศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจเพื่อการศึกษา การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง สำหรับคนพิการแห่งแรก! ของภาคอีสาน และเพื่อเป็นทุนการศึกษาพัฒนาศักยภาพ นักเรียน นักศึกษาผู้พิการต่อไป…

           นางสาวสัมฤทธิ์ ศิริรัมย์ ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ เปิดเผยว่า  วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้จาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรถวาย พระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษา วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลา 09.30 น.โดยมี นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ

สำหรับวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ ฯ เป็นสถานศึกษาสำหรับคนพิการแห่งแรกของภาคอีสาน ก่อตั้งขึ้นปี 2553 เป็นสถานที่จัดฝึกอบรมให้นักศึกษาผู้พิการ ปี 2560 เปิดเป็นสถานฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย และล่าสุดปี 2563 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ

ทั้งนี้ การจัดตั้งวิทยาลัยฯ  เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้คนพิการมีวุฒิการศึกษา รวมทั้งฝึกวิชาชีพให้แก่คนพิการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศเพื่อนบ้านในแถบลุ่มแม่น้ำโขง วิทยาลัยฯ เป็นโรงเรียนประจำ มีหอพักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ พร้อมอาหาร 3 มื้อ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เป็นสื่อทันสมัย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนคือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ หลักสูตรการศึกษาชั้นพื้นฐาน และหลักสูตรระยะสั้น คือ หลักสูตรเบเกอรี่ และ หลักสูตรช่างวีลแชร์ โดยทุนการศึกษานี้จะช่วยให้เยาวชนผู้พิการได้ศึกษาจนจบระดับ ปวช. – ปวส. และช่วยให้มีงานทำ ช่วยเหลือตัวเอง-ครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

“ปัจจุบันวิทยาลัยมีนักศึกษาพิการที่อยู่ในความดูแลกว่า 70 คน  คาดว่าปีหน้า(2565)จะมีนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น100 คน ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 11 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ฯ สามารถผลิตแรงงานคนพิการไปเป็นบุคลากรระดับมืออาชีพเพื่อทำงานรับใช้สังคมมาแล้วกว่า 628 คน  วิทยาลัยฯเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่ได้แสวงหาผลกำไร งบประมาณหลักมาจากการบริจาค แต่ด้วยสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดโควิด–19 เศรษฐกิจตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริจาคลดลง –การดำเนินชีวิตของคนพิการก็ลำบากมากขึ้น ทั้งนี้วิทยาลัยฯได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ 20% แต่ 80 % ต้องขอการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ โดยเรามีรายจ่ายประมาณ 8 แสน – 1ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้เราได้จัดกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่องเพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินการดูแล”  ผู้อำนวยการฯ กล่าวในตอนท้าย

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตอันเป็นกุศลร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อการศึกษาตามกำลังศรัทธา สามารถร่วมบริจาคได้ที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ หรือ บริจาคโดยโอนเงินเข้าชื่อบัญชี มูลนิธิพระมาหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 342-3-04294-8 สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ นางอัจจิมา ชวลิตธำรง โทรศัพท์ 081 723 5949  อีเมล์ ajima@mahatai.org

Comments (0)

เรื่องล่าสุด