Archive | กรกฎาคม, 2023

รำลึกครบรอบ 20 ปี คุณพ่อเรย์…มุ่งสร้างความมั่นคง – สร้างอาชีพอย่างยั่งยืนเพื่อน้องคนพิการ

Posted on 29 กรกฎาคม 2023 by admin

          มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จัดกิจกรรมรำลึกคุณพ่อเรย์ ครบรอบ 20 ปี ผู้ก่อตั้งและอุทิศตนทำงานเพื่อเด็กและคนพิการมาโดยตลอดจนวาระสุดท้าย มูลนิธิฯ ขอสืบสนปณิธานพ่อเรย์ พร้อมดูแลสนับสนุนสถานศึกษาสำหรับคนพิการ 4 แห่ง และขับเคลื่อนงานด้านคนพิการ และเดินหน้าช่วยเหลือพัฒนาคนพิการที่ยากลำบากตามจิตตารมณ์คุณพ่อเรย์ และคณะพระมหาไถ่ เผยตั้งแต่ พ.ศ.2515 -ปัจจุบัน ช่วยเหลือคนพิการให้ได้รับการศึกษาและฝึกอาชีพ กว่า 5,000 คน และช่วยคนพิการเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่น้อยกว่าปีละ 10,000 คน….

ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์  เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ กล่าวว่ากว่า 40 ปีที่คุณพ่อเรย์มอน อัลลีน เบรนนัน ได้ทำงานเพื่อเด็กและคนพิการมาตลอด แม้ว่าคุณพ่อเรย์ได้จากไปในวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2546 ซึ่งจะครบรอบ 20 ปี ในปี พ.ศ.2566 นี้ แต่จิตตารมณ์ของคุณพ่อเรย์ยังคงอยู่ ดั่งคำที่คุณพ่อเคยกล่าวไว้ว่า “พ่อต้องการช่วยเหลือคนพิการทั้งโลก” และมียังมีผู้สืบสานงานของคุณพ่อเรย์ผ่านงานของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2543 เพื่อสร้างความมั่นคงในงานด้านคนพิการของคณะพระมหาไถ่ รวมถึงสืบสานปณิธานจิตตารมณ์ของคุณพ่อเรย์ โดยมูลนิธิฯ สนับสนุนสถานศึกษาสำหรับ 4 แห่ง ดูแลน้อง ๆ คนพิการ กว่า 600 คน อาทิ 1. วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา 2.โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่ ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ 3. วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ  4. โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ รวมไปถึงศูนย์จัดหางานคนพิการ และสายด่วนคนพิการ 1479 เพื่อช่วยเหลือและ โดยส่งเสริมให้คนพิการจากทั่วประเทศเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการ รวมแล้วมีคนพิการที่ได้รับการศึกษาและฝึกอาชีพ (ตั้งแต่ พ.ศ.2515 – ปัจจุบัน) กว่า 5,000 คน และคนพิการเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ ไม่น้อยกว่าปีละ 10,000 คน นอกจากนั้นยังดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าและด้อยโอกาสผ่านมูลนิธิคุณพ่อเรย์ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กอยู่ในการดูแลกว่า 150 คน

 “โดยครบรอบ 20 ปี การจากไปของคุณพ่อเรย์ ทางมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลงานด้านคนพิการของคณะพระมหาไถ่และสืบสานปณิธานคุณพ่อเรย์ จึงจัดโครงการ “รำลึก 20 ปี คุณพ่อเรย์ : สืบสานจิตตารมณ์เพื่อเด็กและคนพิการ” ขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ของสังคมต่อการช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส และคนพิการ ที่คุณพ่อเรย์ได้ริเริ่มและดำเนินการอย่างต่อเนื่องมากว่า 40 ปี การสร้างเครือข่าย ลูกพ่อเรย์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้สนับสนุนงานคุณพ่อเรย์ บุคคลและองค์กรเครือข่ายร่วมเป็นภาคีและ ผู้รับชมผ่านสื่อต่าง ๆ และการสร้างความยั่งยืนในงานด้านคนพิการ โดยจัดตั้งกองทุนคุณพ่อเรย์เพื่อคนพิการและสังคม โดยตั้งเป้าหมายยอดรับบริจาคซึ่งเป็นทั้งเงินและสิ่งของ จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อนำรายได้มาช่วยเหลือเด็กกำพร้า เด็กด้อยโอกาส และน้อง ๆ ผู้พิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิต่อไป”

สำหรับ กิจกรรมรำลึกคุณพ่อเรย์ ครบรอบ 20 ปี มีแผนจะให้มีกิจกรรมตลอดทั้งปี โดยจะมีการแถลงข่าวและเปิดโครงการในวันพุธที่ 16 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะมีการคาราวานคนพิการช่วยเหลือสังคม เพื่อออกเยี่ยมคนพิการและผู้สูงอายุในพื้นที่ และในวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคมนี้  จะจัดกิจกรรมแสดงผลงาน นิทรรศการ ของหน่วยงานด้านคนพิการคุณพ่อเรย์ที่ผ่านมาว่าเกิดประโยชน์อย่างไรกับคนพิการ ครอบครัวและสังคม กิจกรรม อาทิ 1) สถานศึกษาสำหรับคนพิการ 4 แห่งภายใต้มูลนิธิฯ 2) Ray Social Enterprise 3) Nina Application 4) 1479 สายด่วนคนพิการ 5) ส่งเสริมอาชีพคนพิการชุมชน 6) การแสดงทักษะและความสามารถของน้อง ๆ คนพิการ เป็นต้น

ทั้งนี้ ร่วมรำลึก 20 ปี คุณพ่อเรย์ : สืบสานจิตตารมณ์เพื่อเด็กและคนพิการ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเงินหรือสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือคนพิการได้ โดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี 342-3-04066-0 นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ และสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8300 มือถือ 089-936-7598  หรือLine : @mahatai  และรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ www.mahatai.org

Comments (0)

นิวซีแลนด์เผยผลวิจัยการศึกษานานาชาติฟื้นตัวเต็มที่ภายในปี 2573 เตรียมจัดงานใหญ่แนะแนวศึกษาต่อนิวซีแลนด์ในไทย 26 ส.ค. 66 นี้

Posted on 27 กรกฎาคม 2023 by admin

รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ได้อย่างไรบ้าง ระบุว่า การศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถกลับมาสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในปีพ.ศ. 2573 ที่ผ่านมาในปี 2562 รายได้ที่เกิดจากการศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์ได้ช่วยสนับสนุน GDP ของประเทศนิวซีแลนด์มากถึง 3.7 พันล้านเหรียญดอลลาร์นิวซีแลนด์หรือราว 80,000 ล้านบาท

โดยสำหรับประเทศไทยตัวเลขนักเรียนในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 มากกว่า ปี 2566 เพียงแค่ 3% เท่านั้น โดยมีตัวเลขนักเรียนไปเรียนภาษาเพิ่มขึ้นถึง 30% และยังมีตัวเลขนักเรียนไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ประเทศนิวซีแลนด์สามารถกลับมาเปิดประเทศ ก็ได้มีโครงการและกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีนักศึกษาต่างชาติทยอยเดินทางกลับเข้าศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์เต็มอัตราเหมือนเดิมในเร็วๆนี้ ซึ่งจะนำรายได้เข้าประเทศไม่เพียงแต่ในภาคอุตสาหกรรมการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย, วิทยาลัย, โรงเรียนมัธยม และโรงเรียนสอนภาษาเท่านั้น แต่ยังเอื้อประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจอื่นๆ และช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ อาทิ การเดินทาง, ที่พัก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม

อีกทั้งยังพบว่า มีนักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาแล้ว ยังพร้อมจะเป็นแรงงานที่มีทักษะในอนาคตในการเข้าทำงานกับธุรกิจและองค์กรชั้นนำต่างๆในนิวซีแลนด์อีกด้วย เนื่องจากนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่อนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติสามารถทำงานต่อได้สูงสุดถึง 3 ปีหลังเรียนจบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งข้อมูลจากการวิจัยพบว่า มีนักศึกษาต่างชาติเข้าทำงานต่อในประเทศนิวซีแลนด์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

         นายกรานท์ แมคเฟอร์สัน (Mr. Grant McPherson) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ Education New Zealand (ENZ) กล่าวว่า “รายงานวิจัยฉบับนี้เป็นการยืนยันถึงช่วงเวลาของภาคการศึกษานิวซีแลนด์ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญที่สุดคือ ภาคการศึกษาของนิวซีแลนด์ไม่ใช่แค่ช่วยสนับสนุนรายได้และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ และยังมีคุณค่าในการสร้างสรรนักเรียนที่จะกลายไปเป็นพลเมืองโลก เพื่อสังคมแห่งอนาคตที่สดใส ยั่งยืน และยืดหยุ่น อีกด้วย”

จากรายงานวิจัยดังกล่าว ประกอบกับความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “ENZ” ได้สรุปว่า การศึกษานานาชาติของนิวซีแลนด์สามารถช่วยให้นักศึกษาต่างชาติพัฒนาทักษะความสามารถให้ทัดเทียมระดับโลกภายในสภาพแวดล้อมการเรียนการสอนที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม และสามารถสร้างเครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศได้ ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อนิวซีแลนด์ในภาคส่วนต่างๆ ในอนาคต ที่สำคัญยังช่วยสนับสนุน GDP ของประเทศนิวซีแลนด์ให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้ชาวโลกเห็นว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่เหมาะสมต่อการไปเรียนต่ออย่างยิ่ง

ทั้งนี้ การศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์ถือเป็นภาคบริการส่งออกรายใหญ่ของนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนในภูมิภาคเอเชีย ในปี 2019 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 79% ที่มาเรียนที่นิวซีแลนด์มาจากประเทศในภูมิภาคเอเชียสูงถึง 89,862 คน รวมถึงนักเรียนไทยกว่า 3,000 คน โดยรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูการศึกษานานาชาติ โดยมีการเชื่อมโยงพันธมิตรกับสถาบันต่างๆทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการมุ่งพัฒนารูปแบบการนำเสนอบทเรียนในรูปเเบบใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายและยั่งยืน

สำหรับในประเทศไทย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ได้เตรียมจัดงานแนะแนวการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand Education Fair 2023) โดยมีสถาบันการศึกษาชั้นนำจากประเทศนิวซีแลนด์ 50 สถาบัน ทั้งโรงเรียนมัธยม มหาวิทยาลัย (ครบทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์)  สถาบันเทคโนโลยี และสถาบันภาษา ที่มาร่วมจัดกิจกรรมและมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับนักเรียนไทย พร้อมทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ ผู้สนใจสามารถขอรับคำปรึกษารายละเอียดหลักสูตรและโปรแกรมการศึกษาต่างๆที่เหมาะสมกับตนเอง  และเปิดประสบการณ์ห้องเรียนจำลอง ที่ยกคลาสเรียนจากคุณครูนิวซีแลนด์มาให้ให้นักเรียนไทยทดลองเรียน ฟรี

         ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมงาน ฟรี  ในวันเสาร์ที่ 26 ส.ค. 2566 นี้  เวลา 11.00 – 17.00 น.  ณ  สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2  ชั้น 5  ลงทะเบียนที่นี่ https://bit.ly/nzeducationfair2023

Comments (0)

นักเรียนไทยคว้า 31 ทุนนิวซีแลนด์ “Virtual Micro-Internship Scholarship 2023” ที่ University of Auckland มอบให้นักศึกษาต่างชาติจาก 8 ประเทศ

Posted on 20 กรกฎาคม 2023 by admin

          หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ประกาศรายชื่อนักศึกษาต่างชาติที่ได้รับทุนฝึกงาน“Virtual Micro-Internship Scholarship 2023”  ในจำนวนนี้มีนักศึกษาไทยสามารถคว้าทุนได้ถึง  31 ทุน

รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ประกาศรายชื่อนักศึกษาชาวต่างชาติจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, อินเดีย, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่ได้รับทุนฝึกงาน “Virtual Micro-Internship Scholarship 2023” จาก ENZ และ มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ (University of Auckland) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของนิวซีแลนด์ จำนวนนี้มีนักศึกษาไทยสามารถคว้าทุนฝึกงานอันทรงคุณค่านี้มาได้ถึง 31 ทุน จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ อาทิจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

การได้รับทุน “Virtual Micro-Internship Scholarship 2023” เข้าร่วมฝึกงานออนไลน์ ทำให้นักศึกษาต่างชาติจาก 8 ประเทศ จะได้โอกาสในการเพิ่มพูนทักษะและเสริมประการณ์การทำงานในสังคมนานาชาติ ซึ่งจะเปิดประตูสู่โอกาสทางอาชีพในอนาคต โดยนักศึกษาไทยที่ได้รับทุนทั้งหมดจะได้เข้าร่วมโครงการฝึกงานออนไลน์ด้านธุรกิจกับองค์ภาครัฐและบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยรายชื่อบริษัทจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละปี ตัวอย่างเช่น องค์กรบริหารราชการส่วนท้องถิ่นโอ๊คแลนด์ (Auckland Council), ระบบขนส่งมวลชนของเมืองโอ๊คแลนด์ (Auckland Transport)”, Deloitte, “KPMG”, PwC, Samsung และบริษัทอื่นๆ อีกมากมาย เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ แบ่งกลุ่มทำงานกันเป็นทีมจากประเทศต่างๆ(คละประเทศ) 4-6 คน  เพื่อร่วมฝึกฝนและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในธุรกิจและองค์กรของประเทศนิวซีแลนด์ ภายใต้การดูแลและให้คำปรึกษาจากที่ปรึกษาเฉพาะด้านและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และจาก University of Auckland

อีกทั้งนักศึกษาต่างชาติที่ได้ทุนฝึกงาน “Virtual Micro-Internship Scholarship 2023” จะได้เรียนรู้งานและฝึกปฏิบัติจริงบนแพลตฟอร์มออนไลน์พิเศษที่ทาง ENZ และ มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ จัดเตรียมไว้ให้เพื่อให้การสื่อสาร, การแลกเปลี่ยนเอกสารและข้อเสนอแนะต่างๆระหว่างประเทศ และเมื่อจบการฝึกงานงานออนไลน์ นักศึกษาต่างชาติแต่ละกลุ่มจะต้องนำเสนอรายงานหรือผลงานโครงการที่ทำร่วมกัน

          นายเบน เบอโรวส์ (Mr.Ben Burrowes) ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย ENZ กล่าวว่า “นิวซีแลนด์ได้รับการยอมรับในระดับโลกในด้านการเตรียมนักเรียนอย่างครอบคลุม ทั้งในด้านความรู้เฉพาะทางและทักษะระดับโลกที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในที่ทำงาน ระบบการศึกษาของเราเน้นการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต เช่น การทำงานเป็นทีม, การตระหนักรู้ในวัฒนธรรม, การคิดเชิงวิพากษ์, การส่งเสริมการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมที่ดีขึ้น และความสามารถในการทำงานในสภาพแวดล้อมระดับนานาชาติ สิ่งเหล่านี้เป็นทักษะที่จะทำให้นักเรียนมีความโดดเด่นในตำแหน่งและสาขางานต่าง ๆ ที่พวกเขาอยากทำในภายภาคหน้า”

“ENZ คาดหวังว่า โครงการฝึกงานออนไลน์นี้จะไม่เพียงแต่มอบโอกาสให้นักเรียนต่างชาติ ได้พัฒนาทักษะและความคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกเขายังจะได้ติดต่อกับเพื่อนต่างชาติและขยายเครือข่ายความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญและบุคคลในแวดวงธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้ข้ามพรมแดนและการพัฒนาอาชีพ” ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย ENZ กล่าวสรุป

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ (University of Auckland) เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของนิวซีแลนด์ สำหรับน้องๆที่สนใจศึกษาต่อ สามารถขอรับคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดหลักสูตรโปรแกรมการศึกษาต่างๆ พร้อมขอรับสิทธิ์ทุนการศึกษาได้จากตัวแทนมหาวิทยาลัยได้โดยตรงที่บูธของ University of Auckland ภายในงานแนะแนวการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand Education Fair 2023) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ส.ค. 2566 นี้  เวลา 11.00 – 17.00 น.  ณ  สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2  ชั้น 5 ลงทะเบียน ร่วมงานฟรีที่นี่ https://bit.ly/nzeducationfair2023

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ดูได้ที www.studywithnewzealand.govt.nz

Comments (0)

Beyond Training ชี้บริหารงานอุตสาหกรรม ด้วยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จควบคู่กระบวนการทำงานที่ดี

Posted on 14 กรกฎาคม 2023 by admin

            บียอนด์ เทรนนิ่ง ชี้แนวทางการบริหารงานอุตสาหกรรม สู่ความสำเร็จของโรงงานอุตสาหกรรมต้องยึดหลัก Process Improvement เน้น กระบวนการทำงาน แบบ performance สู่การจัดการกลยุทธ์ให้เกิดประสิทธิผล พร้อมจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นของงาน เผยปัจจุบันการแข่งขันโรงงานอุตสาหกรรมทวีความรุนแรงสูง ชี้ 3 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ (1) จัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นขององค์กร (2) ทำตามแผน clarify target ให้ชัดเจน ให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกัน ทั้งเชิงผลลัพธ์ และ กระบวนการ  (3) ทำตามแผน ปิดความเสี่ยงล่วงหน้า แก้ปัญหาโปรเจค ล้มเหลว

            บียอนด์ เทรนนิ่ง ชี้แนวทางการบริหารงานอุตสาหกรรม สู่ความสำเร็จของโรงงานอุตสาหกรรมต้องยึดหลัก Process Improvement เน้น กระบวนการทำงาน แบบ performance สู่การจัดการกลยุทธ์ให้เกิดประสิทธิผล พร้อมจัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นของงาน เผยปัจจุบันการแข่งขันโรงงานอุตสาหกรรมทวีความรุนแรงสูง ชี้ 3 กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ (1) จัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นขององค์กร (2) ทำตามแผน clarify target ให้ชัดเจน ให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกัน ทั้งเชิงผลลัพธ์ และ กระบวนการ  (3) ทำตามแผน ปิดความเสี่ยงล่วงหน้า แก้ปัญหาโปรเจค ล้มเหลว

            นายศุภวิทย์ ภาษิตนิรันดร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเรียนรู้ Chief Learning Officer (CLO) บริษัท บียอนด์ เทรนนิ่ง จำกัด (Beyond Training)  ผู้นำด้านการฝึกอบรมพัฒนาคนในองค์กรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการแข่งขันโรงงานอุตสาหกรรม ทวีความรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆมา เพราะ FTA หรือเขตการค้าเสรีสำหรับบางประเทศเช่นจีน ทำการแข่งขันในไทยไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะภายในประเทศอย่างเดียว แต่ต้องสู้กับประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ ที่มีกำลังผลิตใหญ่มากกว่า ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกกว่า ต้นทุนการขนส่ง และกำแพงภาษีที่หายไป นับเป็นปัญหาและอุปสรรคการทำงานของโรงงานอุตสาหกรรม  เป็นความท้าทายของการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. การบริหารจัดการระบบผลิต (Production system) และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร (Human resource development)  2. ความท้าทายของการบริหารจัดการระบบผลิต (Production system) เกี่ยวกับการวางแผนการผลิตที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้เกิด Stock เกินความจำเป็น ซึ่งนำไปสู่ต้นทุนแฝงในการจัดเก็บ, ต้นทุนการขนส่ง  เป็นต้น”

การบริหารการจัดการในงานอุตสาหกรรมทำให้เกิดประสิทธิผลหรือประสบความสำเร็จนั่น ต้องยึดหลัก Process Improvement ที่เน้นกระบวนการทำงานที่ดี  พร้อมกลยุทธ์และแนวทางสู่ความสำเร็จ คือ 1.) จัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็น บางองค์กรมีกลยุทธ์ที่หลากหลายแต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง สาเหตุหลักไม่ได้จัดลำดับความสำคัญ จำเป็นต้องนำกลยุทธ์มาลำดับความสำคัญ อาทิ Urgency , Impact , Expansion เป็นต้น 2. ) ทำตามแผนแล้วแต่หัวหน้าบอกว่าผลลัพธ์ไม่เหมือนที่คิดไว้ สาเหตุไม่ได้ clarify target ที่ชัดเจนให้ทุกคนเห็นภาพเดียวกัน ทั้งเชิงผลลัพธ์ และ กระบวนการ  3.) ทำตามแผนไม่ได้ เจอปัญหาระหว่างทางจนทำไม่สำเร็จ สาเหตุมาจากไม่ได้ประเมินความเสี่ยงและหาวิธีปิดความเสี่ยงล่วงหน้าทำให้แก้ปัญหาระหว่างทางยากจนโปรเจคล้มได้

นอกจากนี้ ความท้าทายของศักยภาพของบุคลากร (Human resource development) เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ หลายบริษัทไม่มีทีม HRD ของตัวเอง ทำให้ขาดการวางระบบการสร้าง Career development และ Skill development ที่เหมาะสมกับบุคลากรในแต่ละตำแหน่ง  ซึ่งหลักการบริหาร “คน”ในแบบญี่ปุ่นเป็นหลักการที่ดีซึ่งใช้หลักการ “ Before build CAR , we build PEOPLE” ฉะนั้นเราต้องพัฒนาคนของเราให้มีความสามารถก่อน เขาจึงสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้  จะเห็นว่าหลักการบริหาร ”งาน” ในแบบญี่ปุ่นจะเน้นหลักการสร้างคุณภาพของสินค้า ให้ลูกค้าประทับใจจนอยากมาซื้อซ้ำอีก เพราะต้นทุนของการหาลูกค้าใหม่แพงกว่าต้นทุนที่ทำให้ลูกค้าเดิมซื้อซ้ำ ถ้าเราไม่สามารถทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำได้ ต้นทุนภาพรวมของเราก็แข่งขันได้ยากเช่นกัน

พร้อมกันนี้ องค์กรต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้า ต้องรู้กระบวนการที่สร้างคุณค่า สิ่งที่ลูกค้าต้องการ การทำงานที่รวดเร็ว และประหยัด ซึ่งเป็นการสร้าง BUSINESS PROCESS IMPROVEMENT ซึ่งมีกรณีศึกษาของบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ชื่อ S company มีโจทย์ในการส่งมอบสินค้าให้ Supplier ว่าต้อง Pack สินค้าด้วยกล่องใหม่ก่อนขนสินค้าเข้าสู่พื้นที่จัดส่ง เพื่อป้องกันเชื้อโรคด้านนอกกล่องปนเปื้อนเข้าไปในโรงงาน ได้มี Supplier A และ Supplier B  : โดย Supplier A ได้ขอพื้นที่หน้าโรงงาน เพื่อ Unpack กล่องที่ทำการขนส่งทิ้ง แล้วเอากล่องใหม่มาทำการบรรจุใหม่ตามคำขอของลูกค้า ส่วนSupplier B ได้ WRAP กล่องที่ขนส่งทั้งหมด ถึงหน้าโรงงานได้ลอก WRAP ออกและใช้กล่องเดิมส่งเข้าโรงงาน ซึ่งตรงกับความต้องการลูกค้าที่ป้องกันเชื้อโรคด้านนอกกล่อง และทำงานที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ทำให้ S company ตัดสินใจซื้อสินค้า Suppler B

“นอกจากนี้ ระบบอุตสาหกรรมมีความซับซ้อนซึ่งจากประสบการณ์การทำงานในระบบอุตสาหกรรมที่บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นแห่งหนึ่งซึ่งในยุคแรก อุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่น เป็นการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่ไม่สูงมาก เช่น ผลิตรถยนต์เพื่อขายลูกค้าในประเทศเป็นหลัก แต่เนื่องจากการลงทุนเครื่องจักรใช้เงินลงทุนสูงมาก ทำให้การบริหารการใช้งานเครื่องจักรให้มากกว่า 90 % ทำได้ยาก   และเข้าสู่ยุคที่ 2  คือการผลิตเพื่อขายลูกค้าภายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มการ Utilize เครื่องจักรให้ได้มากที่สุด เมื่อการส่งออกมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงที่สัดส่วนการส่งออกสูงกว่าลูกค้าภายในประเทศ ปัญหาคือ รถยนต์ส่งออกมีกำไรน้อยกว่ารถที่ขายในประเทศเพราะค่าขนส่งและภาษีนำเข้า จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคที่ 3 คือการย้ายฐานการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น มายังประเทศที่มีฐานลูกค้าใหญ่ในบางประเทศ และหาแหล่งวัตถุดิบที่ต้นทุนต่ำกว่าญี่ปุ่นและหนึ่งในนั่นคือประเทศไทยจากการย้ายฐานการผลิตรถยนต์นี้ จึงทำให้เกิดระบบอุตสาหกรรมอื่นๆมีบริษัทข้ามชาติย้ายฐานการผลิตมาที่เมืองไทยด้วย” นายศุภวิทย์ ภาษิตนิรันดร์ กล่าวในตอนท้าย

Comments (0)

Beyond Training รุกกิจกรรมต่อเนื่องงาน Thailand HR Tech2023

Posted on 10 กรกฎาคม 2023 by admin

          เมื่อเร็วๆนี้  ดร. รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)ให้เกียรติเยี่ยมชมกิจกรรม บริษัท บียอนด์ เทรนนิ่ง จำกัด (Beyond Training )  ผู้นำด้านการจัดอบรมสัมมนาพัฒนาคนระดับประเทศ ในงาน Thailand HR Tech2023โดยมี ภก. คงเกียรติ ฉัตรหิรัญทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทฯ และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ  ทั้งนี้เพื่อเจาะลึกถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของ HR Tech ในยุคดิจิทัล  และตอกย้ำความสำคัญของการพัฒนาผู้นำและความสามารถในการปรับตัวเพื่อทำให้การขับเคลื่อนองค์กรสอดรับกับบริบทที่เปลี่ยนไปของธุรกิจ  รวมทั้งตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิต พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในโลกยุคดิจิทัล  ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

นอกจากนี้ ภก.คงเกียรติ ฉัตรหิรัญทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บียอนด์ฯ   และ คุณชุติมา สีบำรุงสาสน์  ที่ปรึกษาอิสระ ได้ร่วมเสวนาให้ความรู้ บนเวที Thailand HR Tech2023 ในหัวข้อ : Adaptive Leadership –  Growing Forefront Leaders in the Hyper Disruptive ERA.  และต่อด้วยเวที Tech Talk  ในหัวข้อ :   How to turn  Data  to People Story  โดยมี นายธนศักดิ์  รัตนหิรัญภรณ์  บริษัท ดาต้า คาเฟ่ จำกัด  ร่วมด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้บริหาร และผู้คนในแวดวง HR  ที่หลากหลายสาขาอาชีพงานนี้ได้รับทั้งความรู้ และความสนุกสนาน

พร้อมร่วมพัฒนาคนองค์กรสู่อนาคตใหม่ในธุรกิจยุคดิจิทัลไปกับ Beyond Training  สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.Beyondtraining.in.th

Comments (0)

เรื่องล่าสุด