Archive | พฤษภาคม, 2021

รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แบบอย่างการทำความดีในสังคมที่น่ายกย่อง

Posted on 27 พฤษภาคม 2021 by admin

ในปี พ.ศ.2535 ขณะที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีประทับ ณ พระตำหนักดอยตุง ได้ทอดพระเนตรข่าวความยากลำบากของครูอาสาสมัคร ชื่อ นส.วิไลลักษณ์ สุขสาย ครูโรงเรียนบ้านใหม่ห้วยหวาย อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จากหนังสือพิมพ์  จึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายบุญธันว์ มหาวรรณ์ ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ความช่วยเหลือ และยังโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการช่วยเหลือพัฒนา สนับสนุนการศึกษา และการสาธารณสุขแก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดารในภาคเหนือ โรงเรียน กศน. (การศึกษานอกโรงเรียน) และโรงเรียน ตชด.ต่างๆตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โปรดให้ดำเนินการต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนงานการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งทางด้านการศึกษา สาธารณสุขของประชาชนในถิ่นทุรกันดารและบนพื้นที่สูง และประทานนามว่า “โครงการพระเมตตาสมเด็จย่า” ในทุนการกุศลสมเด็จย่า และได้ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ และเงินจาก”ทุนการกุศลสมเด็จย่า” และ “ทุนการกุศล กว.” ให้แก่โครงการพระเมตตาสมเด็จย่า เสมอมา

ทุกครั้งที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ โดยเสด็จสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีออกทรงงาน พร้อมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)  เพื่อให้บริการด้านสาธารณสุข พระองค์ยังทรงสนพระทัยด้านการศึกษา เนื่องจากทรงเล็งเห็นว่า การศึกษาจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น พระองค์มักจะเสด็จเยี่ยมโรงเรียนต่างๆ สอบถามครูถึงแนวทางการเรียนการสอนและพระราชทานกำลังใจแก่บุคลากร นอกจากนั้นยังทรงให้ความสนพระทัยครู กศน.เป็นพิเศษ มักโปรดเกล้าฯ ให้คณะครู กศน.เข้าเฝ้าเวลาที่ประทับ ณ ตำหนักที่ประทับบริเวณเขื่อนต่างๆ

เมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ในปี 2551  เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณที่ทรงเป็นอาจารย์ภาษาฝรั่งเศสในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ทรงอุทิศพระองค์เพื่อการพัฒนาการศึกษาภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย และเพื่อสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ที่ทรงเห็นถึงความเสียสละของครูที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร  โครงการพระเมตตาสมเด็จย่า จึงก่อตั้งโครงการครูดีเด่น “รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละความสุขส่วนตัว โดยการคัดเลือกครูจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) หน่วยงานละ 3 รางวัล  รวมปีละ 9 รางวัล โดยพิธีการมอบ “รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” กำหนดเป็นวันที่ 6 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โดยผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้รับ 1. โล่รางวัลครูเจ้าฟ้าฯ 2. ใบประกาศนียบัตร 3. เงินรางวัล 4. กองทุนเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาชุมชน

นับจากปี 2552 มีครูที่ได้รับรางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์มาแล้ว13 รุ่นรวม 114 คน สำหรับการมอบ “รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ประจำปี 2563 (รุ่นที่ 12) และ ปี 2564 (รุ่นที่ 13) โครงการพระเมตตาสมเด็จย่าได้พิจารณาคัดเลือกครูผู้มีความเหมาะสม มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์แล้ว  แต่เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนวันทำพิธีมอบรางวัลออกไปก่อน

               สำหรับครูทั้ง 9 คนที่ได้รับ “รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ประจำปี2563 (รุ่นที่ 12) ได้แก่

ครูสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)

1.สิบตำรวจเอกชายแดน ภู่นายพล ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายบ้านโกแประตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

2.ดาบตำรวจวิโรจน์ ควรแจ่มดี โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่ลอง ตำบลบ้านทับ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

3.ดาบตำรวจหญิงจำเรียม พรมเพ็ชร โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านประกอบออก ตำบลประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

ครูสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)

1.นางวราภรณ์ กันธะรักษา ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านซอแข่วาคี ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

2.นางสาวณัฏฐนันท์ สุภาธง ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านห้วยปง ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

3.นางศศิมา ไชยเดช ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบันนังสตา ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

ครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

1.นายสุพจน์ เรืองแก้ว โรงเรียนนาทวีวิทยาคม ตำบลคลองทราย อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

2.นางสุชาดา จารงค์ โรงเรียนบ้านตะบิงติงงี ตำบลตลิ่งชัน อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

3.นายสุกรี แวหะมะ โรงเรียนบ้านท่าสาป ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

สำหรับครูทั้ง 9 คนที่ได้รับ “รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ประจำปี 2564 (รุ่นที่ 13) ได้แก่

ครูสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)

1.ดาบตำรวจวีรชัย คำแก้ว โรงเรียนตำรวจตระเวนชายเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 4 ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

2.ดาบตำรวจเขตต์ตวัน ยั่งยืนวณิชกุล โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอาชีวศึกษาเชียงราย – พะเยา ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย

3.ดาบตำรวจหญิงประพิน มะลิชู ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภักดี ตำบลเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

ครูสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)

1.นายภัทร แม่หละเจริญพร ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านดูบลอคี ตำบลแม่อุสุ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก

2.นายศิริ ถาวรวิจิตร ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านอะบอโด่ตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

3.นางพาตีเมาะ ดีรี ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอรามันตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา

ครูสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

1.นางมาลี บุญเทพ โรงเรียนบ้านเวียงหวาย ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

2.นางสาวเมธิญา ยะขาว โรงเรียนบ้านผาเดื่อ ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย

3.นายอาดัม ยูโซะ โรงเรียนบ้านชะเอาะ ตำบลมะนังยง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

               คุณครูที่ได้รับรางวัลครูเจ้าฟ้าฯทุกคนได้ทำงานด้วยความเสียสละ ไม่เพียงแค่ปฏิบัติหน้าที่ครูสอนหนังสือ แต่ยังได้ให้ความช่วยเหลือเด็กผู้ด้อยโอกาส และชาวบ้านในถิ่นทุรกันดารให้มีการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้ชุมชนมีการพัฒนาตนเอง อย่างยั่งยืน ซึ่งสมควรได้รับการเผยแพร่คุณงามความดีและยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นแม่พิมพ์ และแบบอย่างการทำความดีในสังคมต่อไป

Comments (0)

ชลิต อินดัสทรีฯ ชวนรักษ์เล ปล่อยปลา ฟื้นฟูคืนสมดุลระบบนิเวศท้องทะเลไทย

Posted on 27 พฤษภาคม 2021 by admin

กระแสเที่ยวทิพย์ในยุคโควิด-19 เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงภาพอันสวยงามของท้องทะเลไทย เพราะนอกจากความสวยงามของสถานที่ บรรยากาศดี ทะเลสวยน้ำใส หาดทรายขาวเหมาะแก่การพักผ่อนจนทำให้ประเทศไทย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกแล้ว ความสมบูรณ์ของธรรมชาติและความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ก็มีส่วนสำคัญช่วยให้ทัศนียภาพอันสวยงามของท้องทะเลไทย มีมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลและดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ  

แม้ว่าความสวยงามใต้ท้องทะเลไทย จะได้รับการยอมรับว่า มีความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลมากที่สุดแห่งหนึ่ง และมีความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งทรัพยากรทางทะเลอย่างมากมาย ของพันธุ์พืช และสัตว์ทะเลนานาพันธ์ แต่กระนั้น การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติก็มีมากเช่นกัน ส่งผลให้ปัจจุบันเกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งเริ่มเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาและการคุกคามของฝีมือมนุษย์ ส่งผลให้สัตว์น้ำจำนวนลดน้อยลง บางสายพันธุ์อาจสูญพันธุ์ ดังที่ปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่ชายฝั่งทะเล

เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูระบบนิเวศให้กับท้องทะเลไทยและสานต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งระยอง ได้จัดกิจกรรม “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” เพื่อร่วมอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง  โดยมี นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ ร่วมด้วย นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ กรรมการบริษัทฯ และ นายรัชกฤต ตันวิไลย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯ นำทีมผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาของทั้งสองหน่วยงาน ร่วมแรงร่วมใจปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาวและพันธ์กุ้งแชบ๊วยกว่า 300,000 ตัว กลับคืนสู่ธรรมชาติ เพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในทะเล แม้แดดจะร้อนแต่ทุกคนก็ดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสมดุลและฟื้นฟูระบบนิเวศทางชายฝั่งทะเล อันเป็นการแสดงถึงความห่วงใยต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ บริเวณชายหาดแม่รำพึง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งระยอง

นายรัชกฤต ตันวิไลย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งระยอง กล่าวว่า ระบบนิเวศทางทะเล มีความสำคัญอย่างมากต่อสมดุลโดยรวมของนิเวศบนบกและในน้ำ เป็นแหล่งที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตอีกมากมาย จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและมีส่วนร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติทางชายฝั่ง โดย

ทางศูนย์วิจัยฯจะเป็นองค์กรกลาง ทำหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ การผลิตและขยายพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่งชนิดใหม่และที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์นี้รวมทั้งสัตว์น้ำที่หายากและที่ใกล้สูญพันธุ์เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ รวมถึงการผลิตพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติและจำหน่ายแก่เกษตรกร การให้คำปรึกษาด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น  พันธุ์กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย ปลากะพงขาว ปูม้า หมึกหอม หมึกกระดอง หอยหวาน และปลากะรัง  เป็นต้น

“ตามแผนของปี 2564 ทางศูนย์ฯ จะต้องปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ต่ำกว่า 6,640,000 ตัว ได้แก่ ปลากะพงขาว 40,000 ตัว กุ้งกุลาดำ 3,000,000 ตัว กุ้งแชบ๊วย 3,450,000 ตัว หอยหวาน 120,000 ตัว และปลาหมึก 30,000 ตัว โดยที่ผ่านมาทางศูนย์ฯได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกลับคืนสู่ธรรมชาติ” นายรัชกฤต กล่าว

ทางด้าน นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า กิจกรรม “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ”  เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเพื่อสังคมของบริษัทฯ แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ แต่บริษัทฯก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีส่วนช่วยรณรงค์ส่งเสริมให้พนักงานในองค์กร รวมทั้งประชาชนคนไทย มีใจรักษ์และเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น  โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมด้านการพัฒนาชุมชนและความรับผิดชอบต่อสังคมในมิติที่หลากหลายมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการศึกษา และด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การมอบทุนการศึกษา มอบทุนวิจัยสำหรับนักศึกษาวิศวะ  การมอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล  การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพช่าง  กิจกรรมปลูกป่าชายเลน และกิจกรรมปล่อยพันธุ์เต่าคืนสู่ท้องทะเล เป็นต้น

Comments (0)

ร่วมช่วยน้องๆผู้พิการให้ผ่านวิกฤติโควิด-19

Posted on 21 พฤษภาคม 2021 by admin

หญิงแม้น_resize

จากผลกระทบโควิด-19 พวกเราลำบากแค่ไหน น้องๆผู้พิการลำบากเป็น 2 เท่า มาช่วยกันปันน้ำใจช่วยเหลือน้องๆ ผู้พิการให้ผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน หญิงแม้น – ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์–ชูโต ชวนร่วมบริจาคเพื่อช่วยมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ให้ชีวิตของคนพิการมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งและมีโอกาสได้ใช้ชีวิตในสังคมอย่างพึ่งพาตนเองได้ให้มีอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัว และอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนและนักศึกษาซึ่งเป็นคนพิการทั้งสิ้นรวมทั้งบุคลากรและครู ซึ่งอยู่ในความดูแลทั้งหมดกว่า 800 คน บริจาคที่ บ/ช. เลขที่ 342-3-04066-0 ธ.กรุงเทพ สาขาบางละมุง ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

Poster-final-Ver-2_resize

Comments (0)

SIBA มอบทุนการศึกษา 120 ทุน มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ!

Posted on 18 พฤษภาคม 2021 by admin

         SIBA หรือ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี มอบทุนการศึกษา 120 ทุน แบ่งเป็น ระดับปวช. 60 ทุน และระดับ ปวส. 60 ทุน พร้อมที่พัก รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท โดยทุนการศึกษาระดับ ปวช. สำหรับผู้เรียนจบ มัธยมศึกษาปีที่3, กศน. หรือเทียบเท่า เป็นทุนการศึกษา 50-100% ตลอดหลักสูตร 3 ปี และ สำหรับทุนการศึกษาระดับ ปวส. SIBA  ร่วมกับ สถานประกอบการธุรกิจชั้นนำของประเทศ มอบทุนการศึกษา และมีงานให้ทำ มีรายได้ระหว่างเรียน และรับเข้าทำงานทันทีเมื่อจบฯ เป็นทุนการศึกษา 50-100% ตลอดหลักสูตร 2 ปี สำหรับนักเรียน ผู้เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6, ปวช. หรือเทียบเท่า เน้น “เรียนได้เงิน จบได้งาน” จบแล้วมีงานทำแน่  ทั้งนี้อาชีพมาแรงที่น่าสนใจเป็นที่ต้องการตลาดแรงงาน เช่น นักการตลาดออนไลน์,  นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น, ผู้ดูแลโซเชียลมีเดีย, นักกูรูออนไลน์ หรือ Youtuber, ผู้ดูแลเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Programmer, เจ้าของธุรกิจ Start Up, นักบัญชีที่เชี่ยวชาญเรื่องภาษีอากร, เชฟ, ฟู้ดสไตลิสต์ เป็นต้น

         สนใจสมัครด่วน! ตั้งแต่วันนี้ถึง 31พ.ค.64 สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook: siba60ปี60ทุน / website: https://siba.ac.th / Instagram: siba_college/ Twitter: @sibalive หรือโทร. 02-939-3000 และ 092-290-3572

Comments (0)

แจ้งกำหนดการสวดอภิธรรมศพ คุณแม่ เพ็ญประภา ตั้งคารวคุณ

Posted on 13 พฤษภาคม 2021 by admin

กำหนดการสวดอภิธรรมศพ คุณแม่ เพ็ญประภา ตั้งคารวคุณ มารดา วรรณศิริ ตั้งคารวคุณ ณ วัด สระเกศราชวรมหาวิหาร  ศาลา บำเพ็ญกุศล

– วันที่ 13-15 พค. 2564  เวลา 16.00 น.

– วันที่ 16 พค. 2564 บรรจุ ณ สุสานเจ็งเล้ง อ. บางพระ จังหวัด ชลบุรี

คุณแม่เพ็ญประภาเป็นบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็น “ผู้หญิงคนเก่ง หัวใจนักสู้” โดยแท้ คุณแม่เป็นผู้ที่มีจิตใจงดงาม ให้ความช่วยเหลือกับทุกคนด้วยความรัก ความเมตตา ประกอบกับท่านเป็นผู้หญิงที่เก่ง แกร่ง มีความเข้มแข็ง เสียสละ อดทน ฉลาดในการดำเนินชีวิตและทันสมัยเสมอ ทำให้ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งของไทยและเป็นที่รักของทุกคนที่ได้รู้จักท่าน

ตลอดเวลาที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ คุณแม่เป็นคนรักครอบครัวมากและพร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างได้เพื่อครอบครัว  คุณแม่ได้ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับน้อง ๆ ทั้ง 5 คน รวมทั้งรับผิดชอบธุรกิจการค้าของครอบครัวตั้งแต่อายุได้เพียง 15 ปีเนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิตเพราะถูกฆาตกรรม คุณแม่เล่าให้ฟังว่า วันที่ทราบข่าวร้ายนั้น คุณแม่ได้แต่ตะลึง คิดว่าวันนี้ไม่มีพ่อแม่แล้วเหรอ เมื่อตั้งสติได้ก็เริ่มเรียบเรียงว่าจะจัดการชีวิตตัวเองและน้อง ๆ อีก 5 คนอย่างไร แต่ด้วยหัวใจอันแกร่งและความมุ่งมั่นของคุณแม่ คุณแม่สามารถสานต่องานธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เริ่มต้นด้วยการเรียนวิธีใช้ลูกคิดเพื่อทำบัญชี หัดขับรถส่งของและต้องปลอมตัวเพื่อขับรถบรรทุกไปส่งไม้ ขายของหน้าร้านและตรากตรำทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เพราะนอกจากงานหลักที่ต้องหาเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว คุณแม่ยังต้องใช้เวลาทั้งหมดที่เหลือดูแลน้องๆ เพื่อไม่ให้น้องรู้สึกมีปมด้อยและถูกใครว่าได้ว่าเป็นลูกไม่มีพ่อแม่

หลังจากดำเนินธุรกิจมาระยะหนึ่ง คุณแม่ได้พบรักและแต่งงานกับคุณพ่อประเสริฐ ตั้งคารวคุณ และออกมาช่วยธุรกิจของทางครอบครัวคุณพ่อ ในช่วงแรก คุณแม่ต้องทำงานทั้งสองที่และหาเงินส่งให้น้องๆ ภายหลังจึงได้โอนกิจการของครอบครัวคุณแม่ให้ญาติดำเนินการแทน ในปี พ.ศ. 2514 คุณพ่อตัดสินใจออกจากธุรกิจ “กงสี” ของตระกูลตั้งคารวคุณ มาตั้งบริษัทเล็กๆ ประกอบธุรกิจค้าขาย กลุ่มสินค้า ฮาร์ดแวร์ สร้างแบรนด์ตราปลาเบ็ด จนเป็นที่รู้จักและอยู่ในวงการธุรกิจเคมีภัณฑ์มาจนถึงทุกวันนี้ กิจการในช่วงนั้นดำเนินไปด้วยดี แต่มรสุมชีวิตของคุณแม่ก็ยังไม่หมด หลังจากที่ร่วมกันสร้างกิจการมาได้ประมาณ 1-2 ปี ครอบครัวของเราก็ได้รับข่าวร้ายว่า คุณพ่อได้เริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็งทางสมอง จนในปี พ.ศ. 2519 ครอบครัวเราได้สูญเสียผู้นำอันเป็นกำลังสำคัญและเป็นที่รักของทุกคน ทำให้คุณแม่ต้องเปลี่ยนบทบาทตนเองจากผู้ตาม ผู้ดูแล เป็นผู้นำของทั้งครอบครัวและบริษัทฯ ชีวิตของคุณแม่ช่วงนี้ถือว่าลำบากและหนักที่สุดก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่คุณพ่อเข้ารับการผ่าตัดแล้ว อาการก็ยังไม่ดีขึ้น คุณแม่จึงตัดสินใจพาไปรักษาแผนโบราณที่หัวหิน ธุรกิจการค้าก็ยังต้องดำเนินต่อไป ช่วงนั้นคุณแม่ต้องขับรถไปหัวหินเช้าเย็นกลับทุกวัน จนวันที่คุณพ่อเสีย คุณแม่ถึงกับคิดที่จะฆ่าตัวตายแต่ด้วยความรักลูก จึงย้อนกลับมาคิดถึงตัวเองที่เป็นเด็กกำพร้า ลูกคนโตอายุเพียง 14 ปีที่เหลือก็ยังเล็กอยู่ จะไม่มีทางให้ลูกเป็นอย่างตัวเองแน่นอน ภายใต้ความเสียใจก็มีเรื่องดีให้กับผู้หญิงนักสู้คนนี้ ลูกน้องที่ทำงานกันมาเข้ามาคุย ให้กำลังใจและพร้อมจะต่อสู้และลุยธุรกิจไปด้วยกันกับนายหญิงคนนี้ น้องสาวคนเล็กของคุณแม่ก็เข้ามาช่วยงานและช่วยดูแลหลาน ทำให้คุณแม่มีกำลังใจและตัดสินใจสานต่อธุรกิจที่ได้ร่วมกันสร้างมากับคุณพ่อ

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่คุณแม่ต้องดำเนินธุรกิจโดยลำพัง ในสมัยนั้นโลกของธุรกิจเป็นโลกของผู้ชาย นักธุรกิจหญิงมีแทบจะนับคนได้ และก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนในประเทศไทยที่อยู่ในวงการธุรกิจฮาร์ดแวร์เช่นนี้ ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นมีความแข็งแกร่ง ทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแรงกล้าทัศนคติที่ว่าไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้จนสำเร็จในที่สุด ไม่ว่าจะขับรถออกไปส่งของ ไปพบพูดคุยกับลูกค้าทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด คุณแม่ให้ความสนิทสนมและเป็นที่รักของทั้งลูกค้าและคู่ค้าไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก รายใหญ่ จนในวงการธุรกิจจะไม่มีใครไม่รู้จัก “หยี่ซ้อ” และตั้งสมญานามแม่ว่า “เจ้าแม่ทินเนอร์” ท่านคือผู้บุกเบิกการก่อร่างสร้างตัวและการพัฒนาของอุตสาหกรรมเคมีอย่างแท้จริง

ด้านครอบครัว ด้วยความที่ท่านเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณแม่ก็จะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับลูกทั้ง 6 คน ตั้งแต่อายุได้เพียง 30 ปี คุณแม่เติมเต็มทุกอย่างให้ลูกๆ ไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่าขาด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกทางด้านจิตใจ หรือความเป็นอยู่ โดยเฉพาะด้านการศึกษา คุณแม่ได้วางแผนอนาคตให้ลูกๆได้เรียนโรงเรียนที่ดี และปูทางถึงรุ่นหลาน ด้วยความที่คุณแม่มีความรู้น้อย จึงตั้งใจอยากให้ลูกได้เรียนให้สูงที่สุด ช่วงนั้นคุณแม่ทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลาให้ตัวเอง รู้เพียงตื่นตั้งแต่ตี 5 ดูรายงานว่าวันนี้ส่งของที่ไหน วันนี้ขายดีรึเปล่า การเก็บเงินลูกค้าเป็นอย่างไร วนอยู่อย่างนี้ทุกวัน ในสมองของคุณแม่มีแต่คำว่าต้องหาเงินให้มากที่สุดเพื่อให้ลูกๆทุกคนได้ไปเรียนต่างประเทศ คุณแม่รักครอบครัวมากพร้อมที่จะเสียสละทุกอย่างได้เพื่อครอบครัว โดยเฉพาะกับลูกๆ ซึ่งเป็นดวงใจของท่าน ท่านทุ่มเท ให้ความรัก เลี้ยงเราทุกคนเหมือนเป็นผู้ใหญ่ คอยให้กำลังใจ และคอยสอนด้วยการให้คำอธิบาย ใจเย็น และปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้จากชีวิตด้วยตัวเอง ท่านชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่คุยสนุกและมักสอดแทรกคำสอนอยู่เสมอ

คำสอนของคุณแม่ที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งคือ ให้ซื่อสัตย์ ยึดมั่นคุณธรรม ในการใช้ชีวิตเราต้องไม่ประมาท ชีวิตคนเราไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ทุกสิ่งย่อมมีขึ้นมีลง และเมื่อเราผิด ก็ให้เราเรียนรู้จากความผิดให้เป็นครู คุณแม่ยังสอนพวกเราเสมอว่า ต้องรู้จักให้อภัย ต้องให้โอกาสครั้ง 1 2 3 แล้วค่อยมาพิจารณา อย่ารีบตัดสินโทษใคร อย่าเอาเปรียบคนอื่น อย่าเบียดเบียนใคร แต่ในทางกลับกันเราต้องรู้จักการเป็นผู้ให้ ต้องมีความอดทน และคอยดูตัวเองก่อน ก่อนที่เราจะตัดสินคนอื่น และคุณแม่ก็บอกเสมอว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ให้ทำด้วยความจริงจัง ทำด้วยความจริงใจ

นอกจากความเป็นแม่ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ท่านยังได้อุทิศเวลา กำลังกาย กำลังทรัพย์ เอาใจใส่ด้านงานการศาสนาและการสังคมสงเคราะห์มาโดยตลอด ท่านอุปถัมภ์วัดต่างๆทั้งในกรุงเทพและต่างจังวัด โดยบริจาคเงินสร้างพระ อุโบสถ ทอดกฐิน จัดาทุนช่วยนักเรียน โรงเรียน ทัณฑสถานหญิง มาโดยตลอดและท่านได้สั่งลูกหลานดำเนินการต่อเนื่อง เมื่อ พ.ศ. 2547 ท่านได้ทำบุญใหญ่โดยทำการแจกทานให้กับคนยากจน ที่อยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 101 จำนวน 1,400 คน เพื่อช่วยให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

งานด้านสังคมสงเคราะห์นั้น ในสมัยที่ท่านยังมีสุขภาพแข็งแรง ท่านได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกและดำรงตำแหน่งสำคัญๆในองค์กรต่างๆ อาทิได้รับเลือกจากสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสตรีสัมพันธ์ในปี พ.ศ. 2543  นายกสโมสร โรตารีกรุงเทพฯ พระราม 3 ในปี พ.ศ. 2545 ท่านได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจที่จะทำงานเพื่อสังคมและด้วยความตั้งใจของท่านทำให้ท่านได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน แต่รางวัลที่ทำแม่ภาคภูมิใจมากที่สุดคือ รางวัลแม่ดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2543 ประเภทแม่ผู้มีความอดทน ขยัน หมั่นเพียร โดยได้รับพระราชทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2543

เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกอย่างล้วนเป็น อนิจัง อนัตตา ย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีที่แล้ว คุณหมอตรวจพบเชื้อมะเร็งในตับของคุณแม่ และแจ้งว่าคุณแม่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ถึงแม้ว่าลูกๆจะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางเอาชนะโรคนี้ได้ แต่เราทุกคนก็ทำทุกวิถีทาง ไม่ว่ายาอะไรดี หมอที่ไหนเก่ง อะไรที่เราทำได้ เราทำหมดทุกอย่าง เพียงเพื่อซื้อเวลาให้แม่อยู่กับพวกเราไปนานๆ แต่หากต้องถึงเวลาต้องจากกันจริงๆ  ขอเพียงให้แม่หลับให้สบาย

ในวาระสุดท้ายที่คุณแม่ต้องต่อสู้เพื่อรักษาลมหายใจของท่านเอาไว้ ตอนนี้โลกจะไม่มีแม่แล้ว ลูกๆ ทุกคนขอกราบขอบพระคุณคุณแม่จากหัวใจที่อดทนสู้เพื่อพวกเรามา แม่ทำหน้าที่ทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นภรรยาที่อยู่เคียงข้างอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสามี เป็นหยี่แจ้ที่รักและคอยช่วยเหลือน้องเสมอ เป็นแม่นักสู้ที่เสมือนเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกๆ เป็นอาม่าที่น่ารักและใจดีที่สุดของหลานๆเป็นหยี่ซ้อ คนเก่งที่ของคนในวงการธุรกิจ เป็นคุณเพ็ญที่มีแต่คำว่าให้ ของเพื่อนๆและลูกน้อง ขอบคุณแม่เหลือเกินที่คอยปูทางทุกอย่างไว้ให้พวกเรา เราจะขอเดินตามทางทุกอย่างที่แม่ปูไว้เราจะดูแลลมหายใจที่แม่ให้ไว้ต่อไป และจะจดจำคำสอนของแม่ อ้อมกอด รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ที่เราเคยมีให้กันเพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือน เป็นความรัก ความผูกพัน ที่เรามีต่อกันตลอดไป

แม้วันนี้ชีวิตเราจะไม่มีแม่อยู่ตรงนี้แล้ว แต่พวกเรายังมีเลือดเนื้อของแม่อยู่ในร่างกายอยู่ในหัวใจของลูกๆ ทุกคน ชีวิตนี้พวกเราภูมิใจเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นลูกของแม่ จากนี้ไปลูกทุกคนจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ทำให้แม่ภูมิใจในตัวลูกกว่าที่เคย รักแม่สุดหัวใจ

Comments (0)

อยากเรียนคณะบิสซิเนส ม.ดังนิวซีแลนด์ เชิญฟังสัมมนาออนไลน์ ฟรี “3 ปีจบตรี 1 ปีจบโทคณะบิสซิเนส AUT” เรียนทันที ไม่ต้องรอเปิดประเทศ

Posted on 11 พฤษภาคม 2021 by admin

อยากเรียนต่อป.ตรี-ป.โท คณะบิสซิเนส  ม.ดัง นิวซีแลนด์ ได้ทันที โดยไม่ต้องรอเปิดประเทศ เชิญร่วมสัมมนาออนไลน์ ฟรี  “3 ปีจบตรี 1 ปีจบโทที่คณะบิสซิเนส AUT”   จัดโดยหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทยร่วมกับ มหาวิทยาลัย Auckland University of Technology (AUT) เชิญชวนนักศึกษาไทยที่สนใจศึกษาต่อปริญญาตรีและปริญญาโท และผู้สนใจทั่วไป ร่วมฟังสัมมนาออนไลน์ฟรีผ่านช่องทาง Zoom  คลิก https://bit.ly/32um10z

          ในวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 นี้  เวลา 10.00 น. 11.00 น.

เชิญมาเรียนรู้ว่าทำไมนิวซีแลนด์เป็นที่ 1 จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสร้างเด็กสู่อนาคต พิเศษสุดกับการสัมมนาแนะแนวศึกษาต่อพร้อมเปิดโอกาสถามตอบอย่างละเอียด ดำเนินรายการเป็นภาษาไทย พร้อมให้ข้อมูลแบบจัดเต็มจากเจ้าหน้าที่คณะบิสซิแนส มหาวิทยาลัย AUT ภายในงานพบคำตอบ

 – การเรียนจบป.ตรี Business ที่ AUT ได้ภายใน 3 ปี โดยใช้วุฒิม. 6

– ป.โทปีเดียวจบ ไม่ต้องมีประสบการณ์ทำงาน

– คณะบิสซิเนส ของ AUT เน้นเรียนจบได้งานจริง

– โอกาสการทำงานหลังเรียนจบกับ Post Study Work Visa 3 ปี

– ประเทศยังไม่เปิดก็สามารถเรียนออนไลน์รอ เพื่อพร้อมเรียนต่อเนื่องได้ทันทีที่ประเทศเปิด

– ดำเนินรายการเป็นภาษาไทย พร้อมให้ข้อมูลแบบจัดเต็มจากเจ้าหน้าที่คณะบิสซิแนส มหาวิทยาลัย AUT

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Line https://line.me/ti/p/~00166814239391

Comments (0)

น้อมรำลึกพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ

Posted on 06 พฤษภาคม 2021 by admin

                วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เป็นวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ  เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครบ 98 พรรษา เป็นสมเด็จพระโสทรเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรและพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นสมเด็จพระราชปิตุจฉาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ตลอดพระชนมชีพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจมากมายเพื่อแบ่งเบาพระราชภาระพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีโครงการในพระอุปถัมภ์มากมายหลายร้อยโครงการ ทั้งด้านการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การแพทย์และการสาธารณสุข การต่างประเทศ การศาสนาและอื่น ๆ

ทรงมีความสนพระทัยงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขเป็นพิเศษ ด้วยทรงมีพระดำริว่า ปัญหาสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลเป็นเรื่องสำคัญ จึงทรงรับสืบทอดงานทางด้านการแพทย์สาธารณสุขจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี คือ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) หรือ หมอกระเป๋าเขียว รวมทั้งมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ซึ่งมูลนิธิโรคไตฯได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเกี่ยวกับค่ายาค่ารักษาพยาบาล ในโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการผ่าตัดเปลี่ยนไตอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งทรงร่วมกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีก่อตั้งขึ้นมา โดยทรงลงพระนามขอจดทะเบียนก่อตั้งมูลนิธิด้วยพระองค์เอง และพระราชทานเงินประเดิมร่วมกับที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระราชทานในการก่อตั้งมูลนิธิขาเทียมฯ เพื่อจัดทำขาเทียมและพระราชทานแก่ผู้พิการขาขาดผู้ยากไร้ในชนบทโดยไม่คิดมูลค่า และค้นคว้า วิจัย พัฒนาชิ้นส่วนขาเทียมจากวัสดุภายในประเทศเพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ อันเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ในประเทศและลดมูลค่าการขาดดุลการค้าลงด้วย และทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิถันยรักษ์ในพระบรมราชูประถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังได้ทรงรับมูลนิธิและกองทุนการกุศลต่างๆ ทางด้านสาธารณสุขไว้ในพระอุปถัมภ์อีกหลายหน่วยงาน ได้แก่ กองทุนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเพื่อพัฒนาการพยาบาล  ศิริราชมูลนิธิ มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ มูลนิธิช่วยการสาธารณสุข มูลนิธิส่งเสริมสวัสดิภาพสตรีและเยาวชน มูลนิธิเด็กโรคหัวใจ มูลนิธิช่วยการสาธารณสุข สมาคมพยาบาลสาธารณสุขไทย มูลนิธิเพื่อโรงพยาบาลราชานุกูล มูลนิธิสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มูลนิธิโรงพยาบาลเลิดสิน เป็นต้น

พระกรณียกิจด้านการศึกษา เป็นอีกด้านที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงสนพระทัยเป็นอย่างมาก เพราะทรงเล็งเห็นว่า การศึกษาจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

เนื่องจากทรงจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทรงมีความเชี่ยวชาญภาษาฝรั่งเศส สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจึงทรงแนะนำให้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ใช้ความรู้ทางภาษาให้เป็นประโยชน์ จึงทรงรับตำแหน่งเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาต่างประเทศในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยเฉพาะที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระองค์ทรงเป็นพระอาจารย์ประจำนานถึง 8 ปี และทรงเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาต่างประเทศ ทรงดูแลและจัดทำหลักสูตรการสอนของอาจารย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทรงจัดทำหลักสูตรปริญญาตรีสาขาภาษาและวรรณคดีฝรั่งเศสสำเร็จ ด้วยการผสมผสานความรู้ด้านภาษาและวรรณคดีให้เข้ากันอย่างเหมาะสม โดยทรงได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น ศาสตราจารย์พิเศษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2521

นอกจากนี้ยังทรงสนพระทัยโครงการจัดส่งเยาวชนไทยไปร่วมแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ตั้งแต่ปี พ.ศ 2532 โดยได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ และเงินกองทุนสมเด็จย่าสนับสนุนโครงการ ทรงติดตามความเคลื่อนไหวทุกขั้นตอนการแข่งขัน พระราชทานกำลังใจ และทรงแสดงความยินดีแก่เยาวชนไทยที่ได้รับรางวัลและใบประกาศเกียรติคุณจากการแข่งขันในทุก ๆครั้ง ทรงเป็นองค์พระอุปถัมภ์ ”มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ” (สอวน.) ทำให้บรรดาเยาวชนไทยได้ค้นพบตัวเองและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยติดต่อกันมายาวนานหลายปี ตั้งแต่ปีแรกที่มีการส่งเยาวชนร่วมแข่งขัน

ทุกครั้งที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เสด็จเยี่ยมราษฏรในพื้นที่ห่างไกลกับหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)  พระองค์มักจะเสด็จเยี่ยมโรงเรียนต่างๆ สอบถามครูถึงแนวทางการเรียนการสอน โดยเฉพาะโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน อีกทั้งยังทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จาก”ทุนการกุศลสมเด็จย่า” และ “ทุนการกุศล กว.” ให้แก่โครงการพระเมตตาสมเด็จย่า ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนงานการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งทางด้านการศึกษา สาธารณสุขของประชาชนผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดารและบนพื้นที่สูง เพื่อสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ และเล็งเห็นถึงความเสียสละของครูที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ในปี พ.ศ.2552 หลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ โครงการพระเมตตาสมเด็จย่า จึงก่อตั้งโครงการครูดีเด่น “รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละความสุขส่วนตัว โดยการคัดเลือกครูจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)  หน่วยงานละ 3 รางวัลรวมปีละ 9 รางวัล โดยพิธีการมอบ“รางวัลครูเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” กำหนดเป็นวันที่ 6 พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ

นอกจากงานด้านการศึกษาแล้วแล้ว ยังทรงส่งเสริมงานแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม เช่น ดนตรีคลาสสิก ละครอุปรากร โดยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของวงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงดุริยางค์เยาวชนไทย และทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก เป็นต้น

                ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ขอเชิญปวงพสกนิกรชาวไทยได้ร่วมสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงพระกรณียกิจในด้านต่างๆ เพื่อความสุขแก่พสกนิกรชาวไทยทั่วไปทุกคน

Comments (0)

SIBA รับรางวัลเชิดชูเกียรติแห่งปีฯ

Posted on 04 พฤษภาคม 2021 by admin

Thailand Master Youth - 1_resize

          นางพิริยาภรณ์ ธรรมมารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร และดร.เบญจมาภรณ์ คุณะรังษี ผู้อำนวยการ SIBA วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปถัมภ์ฯ ร่วมแสดงความยินดีกับ  นายสัญชัย สามารถ นักศึกษารับรางวัลเชิดชูเกียรติ “เยาวชนต้นแบบ” สาขา “ทักษะ ฝีมือ และอาชีพ” ในงานประกาศรางวัลเกียรติยศ เชิดชูเกียรติเยาวชนไทย หรือ THAILAND MASTER YOUTH 2020-2021 เป็นรางวัลเพื่อเชิดชูหน่วยงาน องค์กร บุคคล และเยาวชนคนเก่ง คนดี มีความสามารถ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก-เยาวชนเป็นต้นแบบที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศต่อไป เป็นการคัดเลือกของชมรมสร้างสรรค์ พัฒนา เด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย  ณ ห้องอัลตร้าอรีน่า ชั้น5  ศูนย์การค้าโชว์ดีซี เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

ลงนามความร่วมมือระหว่าง มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ และสภาทนายความ

Posted on 04 พฤษภาคม 2021 by admin

S__30318621_resize

บาทหลวงภัทรพงศ์ ศรีวรกุล, C.Ss.R. ประธานมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ว่าที่ร้อยตรี ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายและปฏิบัติงานทางคดี รวมทั้งพัฒนากฎหมายและนโยบายสาธารณะ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และทำให้สิทธิคนพิการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ ณ ห้องประชุมสภาทนายความ  เมื่อเร็วๆนี้

S__30318617_resize

Comments (0)

เรื่องล่าสุด