Posted on 27 เมษายน 2022 by admin
เปิดหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Smart City Leadership Program: SCL) รุ่นที่ 1 โดยเนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมแนวทางการสร้างโครงการเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกมิติทั้งบริบทภาครัฐและเอกชน รวมถึงการขับเคลื่อนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่ผู้นำเมืองควรรู้ นำโดยผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 20 คน พร้อมการถอดแบบการเรียนรู้จากองค์กรในประเทศ
ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า เมืองอัจฉริยะเป็นวาระแห่งชาติและอยู่ในหมุดหมายที่ 8 ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2566-2570) ซึ่งทุกเมืองในประเทศไทยมีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะตามแนวทางของคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและมีดีป้าเป็นเลขานุการ โดยมีกลไกสนับสนุนจากภาครัฐและแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลแก่ภาคเอกชน และการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้นำเมืองและประชาชนไปพร้อมๆกัน และเพื่อให้มีแนวทางที่ชัดเจนคณะกรรมการขับเคลื่อนฯได้กำหนดนิยามคำว่าเมืองอัจฉริยะว่า หมายถึง เมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง ลดค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรของเมืองและประชากรเป้าหมาย โดยเน้นการออกแบบที่ดีและการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคประชาชนในการพัฒนาเมือง ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขอย่างยั่งยืน และแบ่งประเภทของการพัฒนาครอบคลุม 7 ด้าน ประกอบด้วย สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) ขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance)
ทั้งนี้ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มีภารกิจในการส่งเสริม สนับสนุน และ ดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรขององค์กรปกครองท้องถิ่นให้มีความรู้ความเข้าใจในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล สามารถนำองค์ความรู้และทักษะด้านดิจิทัลไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร สังคมและเศรษฐกิจ ตามบริบทของเมืองอัจฉริยะ และเพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและบรรลุตามวัตถุประสงค์ของแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ในการนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมกับบริษัท โนเนม ไอเอ็มซี จำกัด ได้ร่วมจัดอบรม หลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Smart City Leadership Program: SCL) รุ่นที่ 1 ให้ผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชนที่อยู่ในส่วนกลางและภูมิภาค โดยโครงสร้างเนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมแนวทางการสร้างโครงการเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ประเทศไทย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกมิติทั้งบริบทภาครัฐและเอกชน รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ได้แก่
Module 1 : ความเข้าใจเบื้องต้น โครงการเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ประเทศไทย (Smart City Thailand Essentials)
Module 2 :
การจัดทำแผนเมืองอัจฉริยะประเทศไทย ด้วยวิธีการคิดเชิงออกแบบ
และแผนภาพโครงการธุรกิจ (Design Thinking and Business Model Canvas for
Smart City Promotion)
Module 3 : ความรู้ขั้นสูงเรื่องการออกแบบและพัฒนาเมือง (Advanced Knowledge in Smart City Design and Development)
Module 4 : การส่งเสริม สนับสนุนและให้ความรู้การจัดทำโครงการพัฒนาโครงการนำร่องเมืองอัจฉริยะในพื้นที่จริง (Smart City Project Piloting and Mentoring)
Module 5 : การศึกษาดูงานโครงการเมืองอัจฉริยะในประเทศ (Smart City Best Practice Study Visit and On-Site Workshop with Experts)
ระยะเวลาการอบรมเป็นหลักสูตรระยะสั้น
6 วัน ระหว่างวันที่ 11-26 พฤษภาคม 2565 สัปดาห์ละ 2 วัน รวม 36 ชั่วโมง
มีรูปแบบการอบรม Hybrid ทั้งรูปแบบออนไลน์ และ ออฟไลน์
รวมทั้งการดูงานถอดแบบการเรียนรู้จากองค์กรในประเทศ อาทิ Microsoft, Huawei
Thailand, Future Tales Lab , Samyan Smart City โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิกว่า
20 คน เช่น คุณภุชพงค์ โนดไธสง, ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์,
คุณพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ, ดร.ชาลี วรกุลพิพัฒน์, ดร.สันติสุข
ลิ้มปีติเจริญโชติ, ดร.รพีสุภา หวังเจริญรุ่ง, ดร.พงษ์พิศิษฐ์ หุยากรณ์
เป็นต้น
Posted on 20 เมษายน 2022 by admin
รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ)
สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย แจ้งว่า
นิวซีแลนด์ได้เปิดรับนักเรียนต่างชาติล็อตแรก จำนวน 5,000 คนแล้ว
เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์
หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก
สำหรับนักเรียนไทยในช่วงแรกนี้
การศึกษานิวซีแลนด์ได้เปิดรับผู้สนใจสมัครเข้าเรียนในหลักสูตร English
Pathway เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ
เหมาะสำหรับน้องๆนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการเตรียมพร้อมเข้ามหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์แต่ยังไม่ผ่าน
IELTS
รวมถึงวัยทำงานที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจและการทำงาน
ผู้สนใจสามารถสมัครเรียนได้แล้ววันนี้
และพร้อมบินไปเรียนที่นิวซีแลนด์ได้ทันทีกับสถาบันภาษาชั้นนำของนิวซีแลนด์
ผู้สนใจสามารถสมัครเรียนหลักสูตร English Pathway
ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รับนักเรียนจำนวนจำกัด สมัครก่อนได้สิทธิก่อน
โดยนักเรียนสามารถเลือกชำระค่าเล่าเรียนผ่านบัตรเครดิต KTC และสะสมคะแนนได้
4 เท่าอีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม:learnenglishnewzealand.com
สถาบันภาษานิวซีแลนด์ ที่เข้าร่วมโครงการ English Pathway ที่สามารถเดินทางไปเรียนได้เลยในครั้งนี้ ได้แก่
1.) Languages International
สถาบันภาษาอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์ เป็นสถาบันระดับสูงสุด
Category 1 จากรัฐบาลนิวซีแลนด์ ตั้งอยู่ที่สวนอัลเบิร์ต เมืองโอ๊คแลนด์
ทำให้นักเรียนได้มีโอกาสพบปะผู้คนจากทั่วโลก
อาจารย์ที่เป็นมิตรเข้าถึงนักเรียน มีหลักสูตรที่น่าสนใจคือ General
English, Conversation และ English for University
2.) ICL Education Group สถาบันภาษาที่มีมาตรฐานในระดับ Category 1 มี Auckland English Academy และ Bridge International College เป็นสถาบัน และโรงเรียนในเครือ โดย Auckland English Academy มีคอร์สที่น่าสนใจ คือ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและการสอบ IELTS ส่วน Bridge International College เปิดสอนหลากหลายหลักสูตรเน้นทางด้าน Academic purposes อาทิ IELTS preparation, APA และ Postgraduate Diploma programmes ทั้งนี้อาคารเรียน ICL Education Centre ตั้งอยู่บนถนนลอร์น ใจกลางเมืองย่านศูนย์กลางธุรกิจ ไม่ไกลจากโอ๊คแลนด์สกายทาวเวอร์ อีกทั้งยังใกล้กับหอศิลป์โอ๊คแลนด์ สวนสาธารณะ อัลเบิร์ตพาร์ค และหอสมุดกลางเมืองโอ๊คแลนด์
นอกจากนี้
ยังมีทางเลือกสำหรับนักเรียนที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษกับหลักสูตร
Communication English เพื่อใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน ร่วมกิจกรรมต่างๆ
เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเพื่อนจากหลากหลายชาติอีกด้วย
สำหรับหลักสูตรออนไลน์มี New Zealand Certificate in English Language
(NZCEL) สำหรับนักเรียนที่ต้องการเตรียมความพร้อม
เพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น สำหรับเรียนต่อ เรียน 16 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถาบันสอนภาษาของมหาวิทยาลัย เช่น University of
Auckland, AUT, Linclon University and University of Otago
จะเริ่มเปิดทำวีซ่านักเรียนใหม่ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
นิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1
ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต
จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางจากการจัดอันดับของ Worldwide
Educating for the Future Index 2019
อีกทั้งยังเป็นประเทศมีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ปลอดภัย ผู้คนเป็นมิตร
ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนในนิวซีแลนด์สามารถทำงานนอกเวลาได้ 20 ชั่วโมง
และสำหรับนักเรียนที่เรียน ระดับปริญญาตรีขึ้นไปอย่างน้อย 1 ปี
ในนิวซีแลนด์ยังสามารถสมัครวีซ่าทำงานหลังการศึกษาได้อีกด้วย
ทำให้นิวซีแลนด์เป็นจุดหมายปลายทางในลำดับต้นๆของนักศึกษาต่างชาติ
Posted on 19 เมษายน 2022 by admin
โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ยังขาดแคลนงบประมาณจำนวนมาก ส่งผลถึงน้องๆนักเรียนตาบอดโดยตรง
จึงจัดกิจกรรมสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ด้วยการขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาของผู้พิการ
เพื่อยกคุณภาพชีวิต สู่การศึกษาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมจัดหาทุนซื้ออุปกรณ์การเรียนและหารายได้จัดหาค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น
ค่าอาหาร ค่าน้ำ-ค่าไฟ และปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสถานศึกษา
ท่านสามารถเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีฯ ในครั้งนี้ได้ กองบุญละ 59 บาท
จำนวน 1 แสนกอง หรือบริจาคโดยตรงได้ที่ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา
ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพัทยาสาย 2 เลขบัญชี
669-2-10787-4 ชื่อบัญชี “ทุนบรมราชกุมารีเพื่อคนตาบอด (2536)” ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
นายชิด สุขหนู ผู้อำนวยการ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดเผยว่า โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ เป็นโรงเรียนการศึกษาพิเศษฯ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เปิดสอนระดับอนุบาล 1 -มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนและนักศึกษาซึ่งเป็นคนพิการในความดูแลที่อาศัยอยู่ประจำ เป็นองค์กรการกุศล ซึ่งจัดการศึกษาและฟื้นฟูพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับนักเรียนตาบอดและตาบอดพิการซ้อน พร้อมขยายโอกาสทางการศึกษาโดยการจัดการศึกษานอกระบบ มีโครงการเรียนรวมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันเป็นนักเรียนอยู่ประจำมีทั้งหมด 102 คน
ทั้งนี้ โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมต่างๆเพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กตาบอดและเด็กตาบอดพิการซ้อนด้วยกระบวนการต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมทางด้านความมั่นคงทางอารมณ์ สังคม สติปัญญา ทักษะการดำรงชีวิตอิสระสำหรับคนตาบอด เช่น การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล การปฏิบัติกิจวัตรในชีวิตประจำวัน การเคลื่อนไหวและการเดินทาง การอ่าน การเขียนอักษรเบรลล์ นันทนาการ ตลอดจนการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในสังคมเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและความรู้สึกเป็นสมาชิกของสังคม นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริม การสร้างความเป็นเลิศด้านการกีฬา ดนตรี งานนวดและงานฝีมือ เพื่อเป็นการสร้างความก้าวหน้าในอนาคต ทั้งหมดนี้มูลนิธิฯดูแลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือคนพิการในทุกๆ เรื่องเพื่อให้พวกเขาเหล่านี้มีวิชาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง ครอบครัว และอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม
ปัจจุบันโรงเรียนฯยังขาดแคลนงบประมาณเป็นอย่างมาก
ดังนั้นโรงเรียนจึงร่วมกับคณะกรรมการอุปถัมภ์โรงเรียนฯ
ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะครู
จัดโครงการทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาหารายได้ขึ้น โดยงานจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 19 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2565 ณ
โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยได้รับเกียรติจาก
พระครูปัญญาพัฒนาภรณ์ (ปัญญา ปุญฺญจโย) เจ้าอาวาสวัดโพธิสัมพันธ์
ประธานฝ่ายสงฆ์ และพลตำรวจตรี จักรทิพย์ – นางศรีนรัตน์ – นายพุทธวัฒน์
ศคพิมลศักดิ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โครงการทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีฯ
จัดขึ้นเพื่อจัดหาทุนซื้ออุปกรณ์การเรียน เพื่อจัดหาค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น
ค่าอาหาร ค่าน้ำ-ค่าไฟ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในสถานศึกษา
จึงขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตอันเป็นกุศลร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีฯ
ร่วมเป็นเจ้าภาพฯได้ กองบุญละ 59 บาท จำนวน 1 แสนกอง
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ครูประทีป โทร. 0878334198 หรือบริจาคโดยตรงได้ที่
โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพัทยาสาย 2 เลขบัญชี
669-2-10787-4 ชื่อบัญชี “ทุนบรมราชกุมารีเพื่อคนตาบอด(2536)”
ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
Posted on 12 เมษายน 2022 by admin
บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด โดยโครงการ “ชลิต อินดัสทรี ขับขี่ปลอดภัย ตรวจเช็คก่อนสตาร์ท” ร่วมสนับสนุนกิจกรรม “อาชีวะอาสา รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน” วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร เปิดให้บริการตรวจเช็คสภาพรถ ซ่อมแซมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และยานพาหนะในเบื้องต้นให้กับประชาชน ฟรี โดยทีมช่างอาสานักเรียนอาชีวะจากวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ที่มีทักษะทางด้านช่างและมีจิตอาสา ดำเนินการร่วมกับ อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร และเครือข่ายองค์กรต่างๆช่วยรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 ในช่วง 7 วันอันตราย 11-17 เมษายน 2565 ที่หลายคนเตรียมตัวเดินทางไกลกลับบ้าน หรือเดินทางท่องเที่ยวกันมากกว่าปกติเนื่องจากมีวันหยุดยาว เปอร์เซ็นต์การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนก็มากตามไปด้วย
ทั้งนี้ นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “POP” ได้มอบวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการตรวจซ่อมบำรุงรถยนต์และรถจักรยานยนต์เบื้องต้น เพื่อบริการให้กับประชาชน ฟรี โดยมี นายสมเกียรติ ภูมิชัยสุวรรณ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร เป็นผู้รับมอบ และ ร้อยตรี ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ให้เกียรติเป็นประธาน เปิดงาน ณ ศูนย์อาชีวะอาสาร่วมด้วยช่วยประชาชน จุดบริการถนนพระราม 2 กม. ที่ 41 บริเวณหน้าปั๊มปตท อิสรีรุ่งเรืองบริการ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งดำเนินการโดย แผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ร่วมกับ อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน สถานีตำรวจ ตำบล บางโทรัด โรงพยาบาลสมุทรสาคร อบต.บางโทรัด และชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมออกหน่วยให้บริการประชาชน ฟรี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2565 ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น.
บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “POP” ผลิตภัณฑ์ไทยคุณภาพที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T MARK) ระบบบริหารงานด้านคุณภาพสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (IATF 16949: 2016 Automotive Quality Management System Standard) และการรับรองมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO9001) จนได้รับการยอมรับและความไว้วางใจอย่างกว้างขวาง จากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ยางแท่นเครื่อง, ยางแท่นเกียร์, ยางกันกระแทก,ยางเพลากลาง, บู๊ชปีกนก และ บูชโช๊คอัพล่าง เป็นต้น โดยบริษัทฯมีส่วนช่วยสร้างงานให้คนในชุมชนมีงานทำ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายให้ความสำคัญในการพัฒนาชุมชนและตอบแทนสังคม ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมขององค์กรต่างๆ รวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆ เพื่อการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง
นายชวิศ ยงเห็นเจริญ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า โครงการ “ชลิต
อินดัสทรี ขับขี่ปลอดภัย ตรวจเช็คก่อนสตาร์ท”
เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่บริษัทฯ
จัดขึ้นเพื่อร่วมรณรงค์ช่วยเหลือประชาชนขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนน
โดยได้ร่วมสนับสนุน “โครงการอาชีวะอาสา รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนน”
ที่ทางวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาครได้ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายอาชีวะอาสาร่วมด้วยช่วยประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง
เป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชน
และสอดคล้องกับนโยบายเพื่อสังคมของบริษัทฯ