Archive | ข่าว

ผู้เชี่ยวชาญฯ เผยเทคนิคการเลือกซื้อเพชรและตรวจสอบง่ายๆ ด้วยหลัก 4Cs ได้เพชรแท้ น้ำงาม เสริมราศีผู้สวมใส่

Posted on 07 มีนาคม 2024 by admin

 “เพชร” อัญมณีล้ำค่า คุณค่าสูงส่ง ความหมายดี มีมูลค่าสูง หายาก และด้วยเพชรเป็นสิ่งหายากนี่เองจึงมีค่าและราคาแพง ดังนั้นใครก็ตามที่มีเพชรไว้ในครอบครอง ยังบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมของชนชั้นสูง ความมั่งคง  มีฐานะและรสนิยมที่ดีของผู้ครอบครองอีกด้วย อีกทั้งเพชรยังมีความหมายดีๆ ส่งเสริมพลังบวก สร้างแรงบัลดาลใจให้กับผู้สวมใส่อีกด้วย  ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นมีเพชรแท้เพชรปลอมออกมาวางขายกันมากมาย ในฐานะผู้บริโภคก็ต้องการที่จะได้เพชรแท้ น้ำงาม ไว้สวมใส่เสริมราศีให้ดูเลอค่า แต่ก็เกรงว่าจะได้เพชรปลอมไม่สมราคาที่จ่ายไป จะทำอย่างไรดี? วันนี้เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรที่จะมาเผยเทคนิคการเลือกซื้อเพชร และวิธีการตรวจสอบเพชรง่ายๆ ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ให้เราเข้าใจด้วยหลัก 4Cs ให้ได้เพชรแท้น้ำงาม มาฝากกัน….

นาย ชเนนทร์กันต์ จักรวาลวิบูลย์  Head of gems laboratory บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด  “NGG JEWELLERY” อาณาจักรเครื่องประดับแท้จากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับทั้ง เพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ที่ได้รับความไว้วางใจและอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี  เผยเทคนิคการเลือกซื้อเพชร และการตรวจสอบให้ได้เพชรแท้น้ำงาม ว่า “เพชรถือว่าเป็นอัญมณีที่มีมูลค่าสูง มีความหายาก และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนบนโลกส่วนใหญ่รู้จักเพชร จากองค์ประกอบทางเคมีหลักที่แสนจะเรียบง่าย เพชรมีองค์ประกอบหลักเป็นธาตุ คาร์บอน ที่เกิดภายใต้แรงดันและความร้อนที่สูงจากใต้โลก การประเมินราคาของเพชรนั้นจึงใช้หลักง่ายๆ คือ  4Cs  คือ 1. Clarity(ความสะอาด) 2. Color (สี) 3. Cut (การเจียระไน) 4. Carat (น้ำหนัก)

  • Clarity (ความสะอาด) ความสะอาดในเพชรคืออะไร? หลายท่านอาจสงสัย เป็นที่ทราบกันดีว่าเพชรเป็นอัญมณีที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จึงทำให้มีโอกาสที่จะมีแร่ชนิดอื่นเกิดขึ้นร่วมกัน หรือมีรอยแตกต่างๆ ซึ่งจะถูกเรียกว่า Inclusions เพชรที่มี Inclusions น้อยจะยิ่งมีความหายาก และราคาสูง การจัดระดับความสะอาดจะมีชื่อเรียกต่างๆ ตามระดับความสะอาด เช่น Flawless, internal flawless, VVS1, VS1 เป็นต้น ซึ่งชื่อเหล่านี้จะเป็นตัวบอกถึงปริมาณ และตำแหน่งของ Inclusions ของเพชรเม็ดนั้นๆ การจัดระดับความสะอาดนั้น จำเป็นจะต้องใช้นักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญในการจัดระดับ เพื่อให้ได้มาตรฐานจะใช้นักอัญมณีศาสตร์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปในการจัดระดับ และจะต้องให้เกรดตรงกัน สองในสาม จึงจะถือว่าเกรดนั้นถูกต้อง
  • Color (สี) การจัดระดับสีเพชร เป็นการจัดระดับสีของเพชรว่า เพชรมีสีใสไม่มีสี ถึงสีเหลืองมากน้อยเพียงใด เพชรที่มีเกรดดีที่สุดคือ สี D หรือ น้ำร้อย คือเป็นเพชรที่ใสไม่มีสีมากที่สุด การจัดระดับสีเพชร นักอัญมณีศาสตร์ จะนำเพชรสีมาตรฐานมาเปรียบเทียบกับเพชรที่ต้องการจัดระดับว่าตรงกับช่วงสีใด ภายใต้แสงไฟ และสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม เพื่อให้ได้สีที่ถูกต้อง จะถูกทำการจัดระดับเช่นเดียวกับการจัดระดับความสะอาด คือต้องให้นักอัญมณีศาสตร์ทำการจัดระดับสีเพชรให้ตรงกันอย่างน้อยสองในสามสี จึงจะถือว่าเกรดนั้นถูกต้อง
  • Cut (การเจียระไน) เหลี่ยมเจียระไนที่เป็นที่นิยมมากสำหรับเพชรนั้นคือการเจียระไนแบบ Brilliant cut หรือเหลี่ยมเกสร และรูปร่างที่เป็นที่นิยมคือรูปร่างกลม การเจียระไน คือการทำให้เพชรที่คุณค่ามากขึ้น ทำให้เพชรได้ส่องประกายได้อย่างสวยงาม การที่จะทำให้เพชรมีประกายสวยงามได้ จะต้องมีการเจียระไนที่มีสัดส่วน สมมุติ และการขัดเงาที่ถูกต้อง การจัดระดับการเจียระไน จะเป็นการวัดสัดส่วน องศา ของเหลี่ยมต่างๆ การใช้นักอัญมณีศาสตร์ อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ จึงมีการใช้เครื่องมือวิเคราะห์หาสัดส่วน ตรวจสมมุติต่างๆของเพชร จากนั้นนักอัญมณีศาสตร์ จะมาตรวจดูความเรียบร้อยของการขัดเงา ซึ่งได้ผลการจัดระดับที่ถูกต้อง จะทำเช่นเดียวกับการจัดระดับของความสะอาด และสี
  • Carat(น้ำหนัก) คำว่า กะรัต มาจากเมล็ดพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Carob เป็นพืชที่มีอยู่ในแถบตะวันออกกลาง ในสมัยก่อนที่จะมีเครื่องชั่งที่เป็นมาตรฐาน เมล็ด Carob ถูกนำมาใช้แทนตุ้มน้ำหนักในการชั่งอัญมณี น้ำหนัก1กะรัตเท่ากับ 2 กรัม การซื้อขายเพชรนอกเหนือจากเรื่องคุณภาพความสะอาด และสี น้ำหนักถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อด้านราคาเช่นกัน เนื่องจากราคาของเพชรที่มีน้ำหนักมาก เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วจะมีราคาที่สูงกว่าเพชรที่มีน้ำหนักน้อย สมมุติว่าเพชรน้ำหนัก 1 กะรัต มีราคา สามแสนบาทต่อกะรัต เพชร 2 กะรัตที่มีคุณภาพเท่ากัน ราคาสี่แสนบาทต่อกะรัต เนื่องจากยิ่งเพชรที่มีน้ำหนักมาก ยิ่งหายาก ราคาต่อหน่วยจึงยิ่งสูง จึงทำให้หลายๆคนชอบเพชรที่มีน้ำหนัก 0.97 – 0.99 กะรัต เนื่องจากจะมีขนาดใกล้เคียงกับเพชรน้ำหนัก 1 กะรัต แต่ได้ราคาที่ถูก

นอกจากหลัก 4Cs แล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือความเป็นธรรมชาติของเพชร หรือเป็นเพชรธรรมชาติ ไม่ใช่เพชรสังเคราะห์ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าเพชรคือ แร่ที่มีองค์ประกอบหลักเป็นคาร์บอน ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยที่ไม่มีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้อง เกิดภายใต้ความร้อนและแรงดันที่สูง

ส่วนเพชรปลอม หรือที่เราเรียกว่า เพชรสังเคราะห์ คือเพชรที่มีองค์ประกอบหลักคือธาตุคาร์บอนเช่นเดียวกับธรรมชาติ  แต่การเกิดมีมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยวทำให้เกิดเป็นผลึกขึ้นมา มีวิธีการสังเคราะห์หลักอยู่สองวิธี คือ HPHT และ CVD เพชรสังเคราะห์มีชื่อเรียกได้หลากหลายชื่อ เช่น เพชรHPHT, เพชร CVD, Synthetic diamond, Lab grown diamond, Laboratory grown diamond, Vegan diamond เพชรสังเคราะห์จะมีการเกิดที่ไม่เหมือนกับเพชรธรรมชาติ การแยกแยะเพชรธรรมชาติกับเพชรสังเคราะห์ออกจากกัน ไม่สามารถที่จะใช้ตาเปล่า หรือกล้องส่องกำลังขยาย 10 เท่าที่เรียกกันว่า ลูป แม้กระทั้งกล้องไมโครสโคปกำลังขยาย 45 – 60 เท่า ไม่สามารถที่จะเห็นความแตกต่างของเพชรธรรมชาติกับเพชรสังเคราะห์ ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่ใช้ในการแยกแยะ ทั้งเครื่องมือขนาดเล็กที่มีผลบอกว่าเพชรเม็ดนี้ผ่านหรือไม่ผ่าน ซึ่งเครื่องเหล่านั้นจะมีความแม่นยำของผลอยู่ที่ไม่เกิน 90% แต่เครื่องมือที่ทางห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณี ของ “NGG JEWELLERY”  ใช้นั้นเป็นเครื่องมือเฉพาะเจาะจงในการดูลักษณะร่องรอยการเจริญเติบโตของผลึกเพชรที่จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนได้ผลการตรวจสอบ 100%  แต่การตรวจสอบนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือเฉพาะเพื่อดูถึงโครงสร้าง และจำเป็นที่จะต้องใช้นักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญโดยเฉพาะถึงจะสามารถแยะแยะได้ ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้ทางห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณี ของ “NGG JEWELLERY”  ตรวจสอบเพชรทุกเม็ดทุกกะรัต  เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเพชรทุกเม็ดได้ผ่านเครื่องมือ และนักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญทุกเม็ด จึงทำให้เพชรของ NGG มีคุณภาพที่ตรง และทำให้ผู้ชื้อมั่นใจได้ล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเพชรธรรมชาติอย่างแน่นอน

เพียงนำเทคนิคง่ายๆไปลองใช้กัน ต่อไปเราก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าโดนหลอกให้ซื้อเพชรปลอม หรือจะให้แน่ใจ ก็เลือกซื้อจากร้านที่มีใบเซอร์ ฯ GIA เชื่อถือได้และมีห้องแล็บที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย ผสานเทคโนโลยีที่แม่นยำ และยิ่งมีนักอัญมณีศาสตร์ที่มีความชำนาญมาช่วยตรวจสอบทุกเม็ด พร้อมใบรับประกันคุณภาพ แค่นี้เราก็จะได้เพชรแท้ น้ำงาม มาสวมใส่ ได้อย่างเชิดฉาย….

Comments (0)

“นิวซีแลนด์” ยังคงเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาตินิยมไปเรียนต่อเป็นอันดับต้นๆ ของโลก!

Posted on 27 กุมภาพันธ์ 2024 by admin

          ชื่อเสียงด้านการศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์ยังคงแข็งแกร่งในหมู่นักเรียนต่างชาติ และสร้างประโยชน์ให้กับผู้เรียน ทั้งในแง่วิชาการและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยคุณภาพการศึกษาของนิวซีแลนด์มีมาตรฐานการศึกษาเป็นที่ยอมรับในอันดับต้นๆของโลก ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา อีกทั้งยังมีสถาบันติดอันดับโลก มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของ ติดอันดับท็อป 3% ของโลก นอกจากนี้นักศึกษาที่เรียนจบระดับปริญญาในนิวซีแลนด์ยังมีโอกาสได้รับ Post Study Work Visa (อนุญาตให้อยู่ทำงานในนิวซีแลนด์อย่างถูกกฎหมายนานสูงสุด 3 ปี) มีนักเรียนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ ทำให้สังคมการศึกษาในนิวซีแลนด์มีความหลากหลายในเรื่องของเชื้อชาติ สัญชาติ วัฒนธรรม และดีต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน

          ชื่อเสียงด้านการศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์ยังคงแข็งแกร่งในหมู่นักเรียนต่างชาติ และสร้างประโยชน์ให้กับผู้เรียน ทั้งในแง่วิชาการและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยคุณภาพการศึกษาของนิวซีแลนด์มีมาตรฐานการศึกษาเป็นที่ยอมรับในอันดับต้นๆของโลก ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา อีกทั้งยังมีสถาบันติดอันดับโลก มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของ ติดอันดับท็อป 3% ของโลก นอกจากนี้นักศึกษาที่เรียนจบระดับปริญญาในนิวซีแลนด์ยังมีโอกาสได้รับ Post Study Work Visa (อนุญาตให้อยู่ทำงานในนิวซีแลนด์อย่างถูกกฎหมายนานสูงสุด 3 ปี) มีนักเรียนต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ ทำให้สังคมการศึกษาในนิวซีแลนด์มีความหลากหลายในเรื่องของเชื้อชาติ สัญชาติ วัฒนธรรม และดีต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน

รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์ จากการสำรวจประสบการณ์ของนักเรียนต่างชาติที่ต่อการศึกษาในนิวซีแลนด์ ประจำปี 2566 จำนวน 4,755 คน จากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก พบว่า 84% นักเรียนต่างชาติให้คะแนนประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนต่อในนิวซีแลนด์ในเชิงบวกสูงถึง 83% และ 78% ยังบอกด้วยว่าพวกเขาจะแนะนำนิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกในการมาศึกษาต่อให้กับเพื่อนๆ ทั้งนี้ผลการสำรวจยังระบุด้วยว่า ประเทศนิวซีแลนด์เป็นตัวเลือกแรกของจุดหมายปลายทางการศึกษาสำหรับผู้ตอบแบบสอบถาม 78% นอกจากนี้ 64% ของนักเรียนต่างชาติที่ตอบแบบสอบถาม ยังบอกว่าประสบการณ์การศึกษาต่อของพวกเขาในประเทศนิวซีแลนด์เป็นไปอย่างที่คาดคิด หรือเกินความคาดหมาย

รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์ จากการสำรวจประสบการณ์ของนักเรียนต่างชาติที่ต่อการศึกษาในนิวซีแลนด์ ประจำปี 2566 จำนวน 4,755 คน จากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก พบว่า 84% นักเรียนต่างชาติให้คะแนนประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนต่อในนิวซีแลนด์ในเชิงบวกสูงถึง 83% และ 78% ยังบอกด้วยว่าพวกเขาจะแนะนำนิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกในการมาศึกษาต่อให้กับเพื่อนๆ ทั้งนี้ผลการสำรวจยังระบุด้วยว่า ประเทศนิวซีแลนด์เป็นตัวเลือกแรกของจุดหมายปลายทางการศึกษาสำหรับผู้ตอบแบบสอบถาม 78% นอกจากนี้ 64% ของนักเรียนต่างชาติที่ตอบแบบสอบถาม ยังบอกว่าประสบการณ์การศึกษาต่อของพวกเขาในประเทศนิวซีแลนด์เป็นไปอย่างที่คาดคิด หรือเกินความคาดหมาย

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ENZ ก็ได้ทำการสำรวจประสบการณ์ของชาวนิวซีแลนด์ จำนวน 1,100 คน ที่มีต่อนักเรียนต่างชาติที่มาศึกษาต่อในนิวซีแลนด์เมื่อเดือนธันวาคม 2566 พบว่า 75% ของชาวนิวซีแลนด์ที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมดเชื่อว่าการมีนักเรียนต่างชาติมาเรียนจะส่งผลดีกับประเทศนิวซีแลนด์ โดย 81% ของผู้ตอบแบสอบถามเผยว่า นักเรียนต่างชาติช่วยให้นักเรียนท้องถิ่นได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอื่นๆ ที่แตกต่างจากตัวเอง และ 80% บอกว่า นักเรียนต่างชาติช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ ซึ่งสูงกว่าผลสำรวจเมื่อปี 2559 ที่พบว่า มีคนท้องถิ่นเพียง 57% ที่เชื่อว่านักเรียนต่างชาติมีส่วนช่วยเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์

          นายเจฟฟ์ บิลโบรห์ (Geoff Bilbrough) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของ ENZ เปิดเผยว่า  “การศึกษาต่างประเทศของนิวซีแลนด์ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่น่ายินดีที่นิวซีแลนด์ ยังคงเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติให้การยอมรับและสามารถได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพสูง ในขณะเดียวกันก็สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเพลิดเพลินกับกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะช่วยพัฒนาและส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ รวมถึงการใช้ชีวิตของนักเรียนต่างชาติได้เป็นอย่างดี”

นอกจากนี้  นายเจฟฟ์ บิลโบรห์ ยังระบุด้วยว่า “นักเรียนต่างชาติมีส่วนสำคัญต่อสังคมและเศรษฐกิจในประเทศนิวซีแลนด์มาโดยตลอด รวมทั้งภาครัฐยังส่งเสริมความตระหนักรู้และให้การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างนักเรียนต่างชาติกับนักเรียนท้องถิ่น รวมถึงการมีส่วนร่วมของชาวนิวซีแลนด์และชุมชนของเรากับนักเรียนต่างชาติเป็นอย่างดี”

การศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์ถือเป็นภาคบริการส่งออกรายใหญ่ของนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนในภูมิภาคเอเชีย ในปี 2019 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 79% ที่มาเรียนที่นิวซีแลนด์มาจากประเทศในภูมิภาคเอเชียสูงถึง 89,862 คน รวมถึงนักเรียนไทยกว่า 3,000 คน โดยรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูการศึกษานานาชาติ โดยมีการเชื่อมโยงพันธมิตรกับสถาบันต่างๆทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการมุ่งพัฒนารูปแบบการนำเสนอบทเรียนในรูปเเบบใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายและยั่งยืน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ดูได้ที www.studywithnewzealand.govt.nz

Comments (0)

depa เปิดรับสมัครหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ รุ่นที่ 4 (SCL#4) ร่วมพัฒนาผู้บริหารภาครัฐ-เอกชน ต่อยอดสร้างเมืองอัจฉริยะ

Posted on 22 กุมภาพันธ์ 2024 by admin

เปิดหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Smart City Leadership Program: SCL) รุ่นที่ 4 โดยเนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมแนวทางการสร้างโครงการเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกมิติทั้งบริบทภาครัฐและเอกชน รวมถึงการขับเคลื่อนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่ผู้นำเมืองควรรู้ นำโดยผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 20 คน พร้อมการถอดแบบการเรียนรู้จากองค์กรในประเทศ เปิดรับสมัครแล้วถึง 19 เมษายน นี้ ดูรายละเอียดได้ทาง https://www.depa.or.th/th/article-view/4-smart-city-leadership-program-4-scl-4

               ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า เมืองอัจฉริยะเป็นแผนของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 พ.ศ. 2566-2570 โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและดีป้าเป็นเลขาฯในการขับเคลื่อน และมีเป้าหมายเป็นการสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคมที่เริ่มจากเมือง นั่นหมายถึงว่าพื้นที่เมืองใดๆในประเทศสามารถจะเป็นเมืองอัจฉริยะได้ หรืออย่างน้อยเป็นเมืองที่ฉลาดในการเลือกใช้เทคโนโลยีมาตอบโจทย์และสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนในเมืองได้

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) จึงได้เปิดหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Smart City Leadership Program: SCL) เป็นรุ่นที่ 4 เพื่อเดินหน้ายกระดับศักยภาพผู้บริหารระดับสูงภาครัฐ-เอกชน เพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเป็นการสร้างเครือข่ายในการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ เนื้อหาหลักสูตรครอบคลุมแนวทาง หลักเกณฑ์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ประเทศไทย การจัดทำแผนเมืองอัจฉริยะด้วยวิธีการคิดเชิงออกแบบ ความรู้เรื่องการออกแบบและพัฒนาเมือง การส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้จากเมืองอัจฉริยะที่ทำได้จริง ที่ผ่านมามีผู้จบการศึกษาสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ รุ่นที่ 1-3 จำนวนกว่า 150 คน

สำหรับหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Smart City Leadership Program: SCL) รุ่นที่ 4 เปิดอบรมระหว่างวันที่ 7-21 พฤษภาคม 2567 สัปดาห์ละ 2-3 วัน รวม 42 ชั่วโมง โดยผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 20 ราย เช่น ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ depa คุณภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) คุณพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช รศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์เมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (UDDC-CEUS) ผศ.ดร.รัชนี กุลยานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม KMITL คุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย รองคณบดีฝ่ายนวัตกรรมและองค์กรสัมพันธ์ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น ม.ขอนแก่น เป็นต้น รวมถึงการดูงานถอดแบบการเรียนรู้จากองค์กรในประเทศ อาทิ Huawei Thailand, ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ., ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน, ศูนย์ KMITL Interactive Digital Center (KIDC)

ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมอบรมในหลักสูตรฯ รุ่นที่ 4 ได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 19 เมษายน 2567 โดยสามารถดูรายละเอียดหลักสูตรฯ และดาวน์โหลดใบสมัครเข้าร่วมการอบรมได้ทาง https://bitly.ws/3943X ค่าลงทะเบียนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้สูงสุด 250% สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และส่งใบสมัครได้ที่ Email: depasclp@gmail.com หรือ โทร 083 116 6581

Comments (0)

depa มอบสัมฤทธิบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 1

Posted on 04 กุมภาพันธ์ 2024 by admin

            ดีป้า จัดพิธีมอบสัมฤทธิบัตรแก่ 55 ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 1 และกิจกรรมนำเสนอผลงานของผู้เข้ารับการอบรม ส่งมอบผู้บริหารรุ่นใหม่คุณภาพ ต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้พัฒนาธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศต่อไป…

            พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบสัมฤทธิบัตรแก่ ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 1 จำนวน 55 ราย ที่จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ก่อนร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานของผู้เข้ารับการอบรมร่วมกับคณะผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคส่วน อาทิ หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน คุณวิทยา ผิวผ่อง วุฒิสมาชิกและ รองประธานกรรมการคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง คุณโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย คุณธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล คุณเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร พล.ท.ธงชัย รอดย้อย รองเสนาธิการทหารบก คุณบุปผา กวินวศิน  รองผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) คุณจารุพรรณ อินทรรุ่ง  ผู้ช่วยเลขาธิการ  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พล.ต.นพ.โชคชัย ขวัญพิชิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ คุณเสกสรรค์ จันทร์ขวาง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน กก.บริหาร ธ.ไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) และอดีตนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย คุณปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ฯลฯ

พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนะและมอบข้อเสนอแนะ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผลงาน ซึ่งจะสามารถต่อยอดไปสู่เครื่องมือเปลี่ยนผ่านประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมดิจิทัลในอนาคต

พลอากาศเอก ประจิน เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลโดยสมบูรณ์ ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจของทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และหลักสูตร Digital Jumpstart เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนการบูรณาการของผู้บริหารรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลที่มาจากต่างองค์กร หลากหลายอุตสาหกรรม แต่ร่วมมือกันระดมสมอง เพื่อค้นหาแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นในหลากหลายบริบท ซึ่งคาดหวังว่า ผู้นำรุ่นใหม่จากหลักสูตร Digital Jumpstart จะเป็นบุคลากรสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศในอนาคต

1261623_0_resize

ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ depa กล่าวว่า หลักสูตร Digital Jumpstart มีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้บริหารรุ่นใหม่ในทุกมิติ เน้นต่อยอดองค์ความรู้ การบริหารจัดการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ในการจัดทำนโยบายและแผนของหน่วยงานในอนาคต รวมถึงการสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจสังคมยุคใหม่ เพื่อสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารรุ่นใหม่ขององค์กรภาครัฐและเอกชนที่เป็นเครือข่ายอันเข้มแข็งในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

พร้อมกันนี้ ผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชนที่ร่วมศึกษาในหลักสูตร Digital Jumpstart รุ่นที่ 1 (DJS#1) จำนวน 55 ท่าน อาทิ  นายเกริกกุล โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อี.คิว.รับเบอร์ จำกัด นายเกียรติชัย ประกายเกียรติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด นายคชพงษ์ สุภาเพิ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซอฟต์เวย์ คอนซัลติง จำกัด นายครองภาคย์ ศุขรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกฎเกณฑ์และวินัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดร.คุณานันท์ สุขพาสน์เจริญ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ดร.จอมพล ทองแป้น นักพัฒนานโยบาย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) นายจักรทอง ตั้งจิตรเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักแผนเทคโนโลยีดิจิทัล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นางสาวจารุวรรณ ภูวจรูญกุล ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบงานดิจิทัล การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายฉัตรชัย ลิ้มสังคมเลิศ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ IT Solutions ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายชวรัส เกรอต นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ สำนักงานประกันสังคม นายชาคริต คนธรรพ์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิค อโกรเทค จำกัด นายชาตรี วงษ์วิบูลย์สิน รองนายกเทศมนตรีนครราชสีมา เทศบาลนครราชสีมา รศ.นพ.ไชยวัฒน์ ช่วยชูสกุล ผู้ช่วยคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายณภัทร รัตนกุล Chief IT Advisor, MEDS Venture นายณัฐวัฒก์ ฤทธิ์เรืองนาม ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลดิจิทัล การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายทวีศักดิ์ หินอ่อน ผู้จัดการอาวุโส-โครงสร้างพื้นฐาน แพลตฟอร์ม ดิจิทัล บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) นายธนวัฒก์ บุญปัญญา Head of Investment บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด พญ.ธัญนุช สัญชาติ นายแพทย์เชี่ยวชาญ สถาบันโรคทรวงอก นายธีวินท์ นิ่มกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีที บราเธอร์ส จำกัด นายนพัชธวัช วงษ์เจริญสิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสินเชื่อ บริษัท เจริญสิน แคปปิตอล จำกัด นายนิติ สุขานนท์สวัสดิ์ ที่ปรึกษาอาวุโส ผู้พัฒนาทักษะและศักยภาพบุคลากร บริษัท บียอนด์ เทรนนิ่ง จำกัด นายนิธิรุจน์ จิระปรีชาสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นายบัณฑิต ปานแก้ว นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต นางสาวปาร์ย อรรถพิสาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) นายพจน์ รงค์นพรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลและ เทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นางสาวพัชรพร พงษ์ทัดศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นางสาวพัชรินทร์ นิสยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย IT บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

นายพิสิษฐ์ ดวงดีกมลทัศน์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อัลติเมท ไซเบอร์ เทคโนโลยี จำกัด เรือโทภูวิภพ ทองท่าฉาง นักบริหาร 13 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือฯ การท่าเรือแห่งประเทศไทย นายมหิศร ว่องผาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด พญ.มัลลิกา ชวนเสงี่ยม ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสุขภาพ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นางสาวเมทินี หัตถิ หัวหน้ากองบริหารผู้มีส่วนได้ส่วนเสียลูกค้า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายยศพล มาลีมงคล Business Development Assistant to CEO บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแท๊กซ์ อินคอเปอร์เรชั่น จำกัด นางสาวลลิล อนันต์บัญชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เอ็กซ์ซี จำกัด นางสาวละออศรี มัทธุรนนท์ ที่ปรึกษา บริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด นางสาววิภารัตน์ ทองบุญเมือง ประธานกรรมการฝ่ายบัญชีการเงิน บริษัท อีซี่ (2018) จำกัด นายวุฒิชัย ปรีพุทธรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนลิเจนท์ ออโตเมชั่น จำกัด นางสาวศรัณย์ญา ยงค์สงวนชัย ผู้บริหาร บริษัท กิตตินครเพลส บางบ่อ 2 จำกัด นายศรุต อุดมการณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด นางสาวศศิธร พำนัก หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและสารสนเทศ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นายษณกร กี่สิ้น รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต นายสดุดี ลิ่มวิไลกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คูโบต้า ลิ้มเจี๊ยบฮง จำกัด นางสาวสวรรณกมล จันทรมะโน หัวหน้าส่วนงาน ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและศูนย์ข้อมูลพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นายสิทธา อาภาศิริกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายสิทธิชัย เทพไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี บัสซ์ จำกัด

นางสาวสินีลาภิศ ธีรพิทยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการ Digital Banking ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นางสาวสิริกัญญ์ เจริญศิริ กรรมการบริหาร บริษัท แอค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด นางสาวสิริมน เทพชะนะกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ปิยสยาม กรุ๊ป (2001) จำกัด นายสุดเขต ยงค์เจริญชัย รองประธานฝ่ายขาย บริษัท จีไอเอส จำกัด นายสุพศิน เข็มทอง ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมเครื่องหอมไทย-จีน จำกัด นายอภิรมย์ คำแสง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเมล จำกัด นายอมฤต ฟรานเซน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สพญ.อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีเจน สมาร์ทซิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด นางสาวอิสริยา บวรเศรษฐวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออล แอดวานซ์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด

ทั้งนี้ depa มุ่งมั่นเสริมแกร่งผู้นำดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารรุ่นใหม่ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่สนใจเข้ารับการอบรมในหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 2 สามารถติดตามกำหนดการเปิดรับสมัครได้ที่ www.depa.or.th

Comments (0)

ENZ เปิดรับสมัครโครงการอบรมบุคลากรการศึกษา-บุคคลทั่วไป พัฒนาองค์ความรู้แบบไฮบริด พร้อมประสบการณ์จริงที่นิวซีแลนด์

Posted on 01 กุมภาพันธ์ 2024 by admin

           หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ประจำสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยลินคอร์น (Lincoln University) ขอเชิญบุคคลากรการศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมโครงการอบรม พัฒนาองค์ความรู้แบบไฮบริดพร้อมประสบการณ์จริงที่ประเทศนิวซีแลนด์

           นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยลินคอร์น (Lincoln University) ประเทศนิวซีแลนด์ จัดโครงการอบรมพิเศษ “English language training plus Circulars Economics Workshop” เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับการศึกษาและอบรมองค์ความรู้ Circulars Economics (เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน)  สำหรับบุคลากรการศึกษา และบุคคลทั่วไป โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เข้าร่วมพัฒนาองค์ความรู้แบบไฮบริด ทั้งในรูปแบบออนไลน์ พร้อมการเดินทางไปศึกษาดูงานสัมผัสประสบการณ์จริงที่ประเทศนิวซีแลนด์

“นับเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้จากประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งในประเทศที่มีแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่แข็งแกร่ง และพัฒนาองค์ความรู้กับมหาวิทยาลัยลินคอร์น ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่เก่าแก่เป็นอันดับ 3 ของประเทศนิวซีแลนด์ และติดอันดับ 18 ของโลก ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ เป็นหนึ่งในประเทศ ที่คนไทยเลือกบินไปเรียนภาษาอังกฤษมากเป็นอันดับต้นๆของโลก เนื่องจากนิวซีแลนด์ จัดเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลก ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในชีวิตประจำวัน อีกทั้ง ยังมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประเทศสวยงาม ผู้คนเป็นมิตร ค่าครองชีพสมเหตุสมผล” นางสาวช่อทิพย์ กล่าวและเสริมว่า

โครงการอบรมพัฒนาองค์ความรู้แบบไฮบริด “English language training plus Circulars Economics Workshop” ระยะเวลาอบรมทั้งสิ้น 6 สัปดาห์ เป็นการเรียนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทาง online  4 สัปดาห์ (เริ่มเรียน 1 มีนาคม 2567) และเดินทางไปอบรม ณ ประเทศนิวซีแลนด์อีก 2 สัปดาห์ ( 20 เมษายน – 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567)  โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับใบประกาศนียบัตร จากมหาวิทยาลัย Lincoln University ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อจบโครงการอบรม (ค่าใช้จ่ายในการอบรมและการเดินทาง 133,000 บาทต่อท่าน)

บุคลากรการศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจ สามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้-10 กุมภาพันธ์ 2567 (รับจำนวนจำกัด) สอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมและสมัครได้ที่  086-688 1022 หรือ 086-368 6300 หรือ Line ID: @kiwicentreth หรือ Line ID: kiwicentre

Comments (0)

รร.เด็กพิเศษฯ เชิญสัมผัสความสุขไร้เสียง กับละครใบ้หน้าขาวสุดพิเศษ! ผ่านน้องๆนักแสดงบกพร่องทางสติปัญญาและออทิสติก

Posted on 14 ธันวาคม 2023 by admin

       ศูนย์พัฒนาการเด็กพิเศษ และโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ ขอเชิญทุกท่านร่วมสัมผัสความสุขในโลกเงียบกับ “ละครใบ้หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ” ที่ได้รับการฝึกสอนจากทีมมืออาชีพประเทศฮังการี เพื่อนำรายได้ซ่อมแซมห้องดนตรี และห้องศิลปะสำหรับเด็กพิเศษในการเรียนการสอน พร้อมชมโชว์มายากล ที่ฝึกสอนโดย ทีมทักซิโด้ พัทยา และการแสดงดนตรีน้องๆ มูลนิธิพระมหาไถ่พัทยา วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 ณ โรงละครอัลคาซ่าร์ คาบาเร่ต์โชว์ พัทยา  จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนการแสดงด้วยการบริจาค หรือซื้อบัตรเข้าชม “ละครใบ้ หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ” ได้ที่ เลขที่บัญชี 591-6-00135-5 ชื่อบัญชี โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ นำไปลดหย่อนภาษี ได้  2 เท่า 

       นางสาววรรณวนัช  กันพรม ผู้จัดการโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ กล่าวว่า โรงเรียนฯเป็นหน่วยงานภายใต้การบริหารงานของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2550 เพื่อบริหารจัดการศึกษาและฝึกอาชีพเด็กพิเศษ ซึ่งได้แก่ เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญาและออทิสติก ที่มีอายุระหว่าง 7-30 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้บริการช่วยเหลือคนพิการในทุกมิติทุกเรื่อง ได้มีทักษะทางด้านวิชาชีพ และทักษะทางสังคมซึ่งปัจจุบันมีเด็กพิเศษที่มารับบริการ การศึกษาขั้นพื้นฐานและฝึกอาชีพกว่าจำนวน 170 คน

ล่าสุด ศูนย์พัฒนาการเด็กพิเศษพระมหาไถ่ ในมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้เปิดโครงการศิลปะการแสดง “ละครใบ้หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ” ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมพัฒนาการ การเรียนรู้และฟื้นฟูเด็กพิเศษกลุ่มต่างๆ ที่มารับบริการให้มีทักษะด้านศิลปะการแสดงอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมโครงการแสดงออกในทักษะด้านศิลปะการแสดง “ละครใบ้หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ” ได้อย่างเต็มศักยภาพและมีประสิทธิภาพ และเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านศิลปะการแสดงแก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งร่วมรณรงค์หารายได้เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในศูนย์พัฒนาการเด็กพิเศษฯอีกด้วย “ละครใบ้หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ”  นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กพิเศษได้แสดงออก ซึ่งทักษะความสามารถทางด้านศิลปะการแสดงนี้ โดยสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการกระตุ้นพัฒนาการ สำหรับเด็กพิเศษทางด้านต่างๆ มาโดยตลอด  ทั้งนี้ได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาการทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญา เน้นการฝึกปฏิบัติจริง ตอบสนองความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียนเป็นหลัก

สำหรับโครงการศิลปะการแสดง “ละครใบ้หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ” นับเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเด็กพิเศษและนำไปสู่การสื่อสารที่ดี เป็นการแสดงที่ใช้สีหน้าและท่าทางในการสื่อสารแทนคำพูด เป็นละครที่ทุกเพศทุกวัย ทุกชาติ สามารถเข้าใจได้ เนื่องมาจากทางโรงเรียนเด็กพิเศษพ่อเรย์ได้รับการสนับสนุนจากทีมอาสาสมัครจากประเทศ Hungary (ฮังการี) มาเป็นวิทยากรฝึกสอน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการและบำบัดฟื้นฟูเด็กพิเศษกลุ่มที่มารับบริการ ให้มีการพัฒนาด้านสติปัญญา การเรียนรู้ อารมณ์ สังคม และทักษะความสามารถด้านศิลปะการแสดง

“โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์  มองว่าศิลปะการแสดง เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งในงานศิลปกรรม เป็นงานที่สร้างรากฐานของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะเห็นว่าแต่ละชุมชน สังคม จะขาดซึ่งงานทางด้านศิลปะเสียมิได้ เนื่องจากงานศิลปะการแสดงเป็นตัวบ่งบอกถึงวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่สะท้อนภาพวิถีการดำเนินชีวิตและยกระดับจิตใจของคนในสังคม ซึ่งในขณะเดียวกัน “ศิลปะ” ยังเป็นเครื่องมือหนึ่งในการนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตของคนพิเศษ ในต่างประเทศมีการใช้ในการบำบัด มานานนับร้อยปี ทั้งสำหรับบุคคลที่มีความต้องการพิเศษหรือคนที่ได้รับผลกระทบจากบาดแผลในอดีต

การนำเอาศิลปะการแสดงในรูปแบบของการเล่นสมมุติ ที่ได้ผ่านกระบวนการจัดเตรียมข้อมูลและวางแผนการเล่นให้เหมาะสมกับวัย และพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เล่น นับว่าเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเด็กพิเศษและนำไปสู่การสื่อสารที่ดีนั้นก็คือ “การแสดงละครใบ้” ศิลปะที่มากกว่าการแสดงละครใบ้ หรือ Pantomime เป็นการแสดงที่ใช้สีหน้าและท่าทางในการสื่อสารแทนคำพูด ละครที่ทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติ สามารถเข้าใจได้ สามารถแสดงออกมาให้คนดูเข้าใจและสร้างเสียงหัวเราะผ่านทางสีหน้าและท่าทางได้เป็นอย่างดี และยังคงเป็นศาสตร์ในการแสดงที่ต้องเข้าใจบทละครอย่างถ่องแท้ ก่อนจะมาแสดงให้คนดูสนุกได้โดยไม่มีบทสนทนา

ผู้จัดการโรงเรียนฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ศูนย์พัฒนาการเด็กพิเศษ และโรงเรียนเด็กพิเศษพ่อเรย์ จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนการแสดงด้วยการบริจาคและซื้อบัตรเข้าชม “ละครใบ้ หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ” ได้ที่ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 591-6-00135-5 ชื่อบัญชี โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้  2 เท่า  โดยจะจัดแสดงละครใบ้หน้าขาวโดยเด็กพิเศษ” ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 เวลา 13.00น.-15.00 น. ณ โรงละครอัลคาซ่าร์ คาบาเร่ต์โชว์ พัทยา  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่คุณอัจจิมา 081-723-5949, 083-411-1384


Comments (0)

รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย คว้ารางวัลออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ จากโครงการพัฒนาทักษะโค้ดดิ้ง นิวซีแลนด์-เอเชียเทค 2023

Posted on 12 ธันวาคม 2023 by admin

          นักเรียนจากรร.สวนกุหลาบวิทยาลัย คว้ารางวัลชนะเลิศการเขียนโปรแกรมโค้ดดิ้งและการสร้างเว็บไซต์ จากการแข่งขันในโครงการค่ายพัฒนาทักษะโค้ดดิ้งนิวซีแลนด์-เอเชียเทค ประจำปี 2023 (2023 #NZASIATECH CODE CAMP) จากทั้งหมด 6 ประเทศในทวีปเอเชีย ซึ่งได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)

          นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการแคมป์พัฒนาทักษะโค้ดดิ้ง นิวซีแลนด์-เอเชียเทค ประจำปี 2023 (2023 #NZASIATECH CODE CAMP จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยความร่วมมือของ ENZ ร่วมกับ Code Avengers ซึ่งเป็นเป็นบริษัทเทคโนโลยีการศึกษาออนไลน์ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อสร้างเวทีให้นักเรียนและเยาวชนไทยได้มีส่วนในการเข้าร่วมกิจกรรมระดับนานาชาติ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เทคนิคการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบแบบแผน การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ผ่านประสบการณ์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และการทำงานร่วมกับนักเรียนต่างชาติผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมในค่ายสอนโค้ดดิ้งในรูปแบบออนไลน์ ฝึกฝนการสร้างทีมเวิร์ค การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมโค้ดดิ้ง และประกวดการสร้างเว็บไซต์ ร่วมกับนักเรียนมัธยมศึกษาจากประเทศนิวซีแลนด์ และอีก 6 ประเทศในทวีปเอเชีย ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และไทย

การประกวดสร้างเว็บไซต์ในปี 2023 นี้ เป็นการพัฒนาและออกแบบเว็บไซต์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติลำดับที่ 13: การดำเนินการด้านสภาพอากาศ” (United Nations Sustainable Development Goal 13)  นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ NZASIATECH CODE CAMP ต้องสร้างเว็บไซต์เพื่อส่งเสริมการดำเนินการเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบในประเทศของตน ซึ่งน้องๆ จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง และได้รับมอบใบประกาศเกียรติคุณจาก ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ได้แก่  ด.ช.อภิชพัฒน์ เต็มบุญศรัณย์ (พีค) ม.2 , ด.ช.นับวัน แสงศิริ (นาซ่า) ม.2 , ด.ช.ธรรศ บรรเทิงจิตต์ (ธรรศ) ม.3, ด.ช. ศุภฤกษ์ เสรีสันติวงศ์ (ซัน) ม.3 และด.ช.ชยธร เจริญรัตน์วุฒิกาล (ไอค์) ม.3

น้องๆ เล่าว่า การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ได้รับประสบการณ์ต่างๆมากมาย  รวมทั้งได้พัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ และมิตรภาพกับเพื่อนๆ นักเรียนต่างชาติอีกด้วย ซึ่งในการนำเสนอการสร้างเว็บไซต์ SDG (Sustainable Development Goals) Goal ที่ 13: Climate Action น้องๆ ได้นำเสนอเกี่ยวกับการจัดการกับปัญหาโลกร้อนของประเทศไทย ใน 3 ด้านหลักๆ คือ พลังงานทางเลือก การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น และการจัดการขยะและของเสีย โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ประกอบไปด้วย ทีม UX/UI ทำหน้าที่ออกแบบและวิเคราะห์ข้อมูลของเว็บไซต์  และ ทีม developers ทำหน้าที่เขียนโค้ดของเว็บไซต์ มีการสร้างตารางเวลาเพื่อจัดระเบียบการทำงาน การเตรียมตัวเขียนบทและฝึกซ้อมร่วมกันก่อนการแข่งขัน ทำให้ได้ฝึกการเรียนรู้วิธีการนำเสนอให้สั้นกระชับและได้ใจความ และมีการนำพร็อปต่างๆ มาใช้ระหว่างการนำเสนอ ประกอบไปกับการที่เว็บไซต์ของทีมเรามีความสวยงามและรูปแบบเนื้อหาที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงปัญหาโลกร้อนและมีการนำเสนอความคิดริเริ่มต่างๆที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมคำนึงถึงการจัดการกับปัญหาโลกร้อนของประเทศไทย ส่งผลให้เราได้รับรางวัลชนะเลิศครั้งนี้

“พวกเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง พวกเราทุกคนได้พยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้ความรู้ผู้คนเกี่ยวกับการจัดการปัญหาโลกร้อน และได้ใช้ความสามารถของพวกเราอย่างถึงที่สุด พวกเราจึงภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลนี้ การที่พวกเรามาได้ถึงขนาดนี้มาจากความพยายาม ความสามัคคีและการจัดการวางแผนที่ดีในทีมของเรา หากขาดสิ่งเหล่านี้ทีมของพวกเราก็คงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ และเราก็อยากขอบคุณ คุณครูทุกๆ คนที่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือพวกเรา และ ผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้มอบโอกาสนี้ให้พวกเราครับ”ด.ช.ธรรศ บรรเทิงจิตต์ (ธรรศ) กล่าว

น้องๆ ยังเล่าอีกว่า จากการทำงานร่วมกัน นอกจากจะได้ประสบการณ์การออกแบบ UX/UI เว็บไซต์โดยการทำความเข้าใจว่าผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ควรจะได้รับข้อมูลแบบใด ตามลำดับใด ยังทำให้เราได้เรียนรู้วิธีการจัดการงาน การบริหารหน้าที่ในแต่ละส่วน อย่างเช่น การจัดการ การทำงานระหว่างตัวแอปที่ดีไซน์ไว้จากทีม UX/UI กับทีม developer การสื่อสารให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน หรือการนำเสนอการเปลี่ยนแปลงต่างๆ กับครูอาจารย์ การเข้าแข่งขันครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานอย่างเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ฝึกการสื่อสารของแต่ละคนด้วย

Comments (0)

เทศบาลตำบลโพธิ์ชัยร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย จัดพิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2566 เพื่อสืบสานเอกลักษณ์วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย ส่งเสริมสาวงามผู้เข้าประกวดนางนพมาศเทศบาลตำบลโพธิ์ชัยประดิษฐ์กระทงลายกนกก้นหอยเอกลักษณ์ 1 เดียวจังหวัดหนองคาย !!

Posted on 11 ธันวาคม 2023 by admin

นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทง “เทศบาลตำบลโพธิ์ชัย ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ร่วมลอยกระทงกนกก้นหอย เพื่อสืบสาน เอกลักษณ์ วัฒนธรรมอีสานจังหวัดหนองคาย ” เพื่อส่งเสริมประเพณีอันดีงามของชาวจังหวัดหนองคาย ในการขอขมาพระแม่คงคาในวันเพ็ญเดือนสิบสอง โดยใช้วัสดุจากใบตองธรรมชาติและย่อยสลายง่าย

ในการนี้นายทองปน วรคันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย และ นายณัฐปคัลภ์  ไชยมุติ นายกสมาคมส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม หนองคาย ได้พาสาวงามผู้เข้าประกวดนางนพมาศเทศบาลตำบลโพธิ์ชัย ประจำปี 2566 ประดิษฐ์กระทงลายกนกก้นหอยเพื่อสืบสานวัฒนธรรมกระทงลายกนกก้นหอยซึ่งเป็นลวดลายเอกลักษณ์ดั่งเดิมของจังหวัดหนองคาย

ทั้งนี้เทศบาลตำบลโพธิ์ชัยจังหวัดหนองคายได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย และ นายทองปน วรคันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ชัย ได้กล่าวคำบูชาอธิษฐานในการลอยกระทงร่วมกับประชาชนชาวเทศบาลตำบลโพธิ์ชัยจังหวัดหนองคาย ที่มาร่วมกิจกรรม ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมการประกวดนางนพมาศ และ ประกวดการประดิษฐ์กระทงสวยงาม, การแสดงโปงลางนาฏศิลป์ศิลปะวัฒนธรรม และ การแสดงมหรสพหมอลำเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทยอีสานท้องถิ่นสร้างความสนุกสนานให้ประชาชาชนตลอดทั้งคืน ณ สวนสาธารณะหนองแดง เทศบาลตำบลโพธิ์ชัยจังหวัดหนองคาย

Comments (0)

“NGG JEWELLERY” อาณาจักรเครื่องประดับแท้ ผู้นำแถวหน้าเมืองไทย รุกตลาดพร้อมจัดโปรส่งท้ายปี ชูคุณภาพระดับเวิลด์คลาสในทุกมิติ

Posted on 08 ธันวาคม 2023 by admin

       NGG JEWELLERY  อาณาจักรเครื่องประดับแท้จากธรรมชาติ เพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ที่ได้รับความไว้วางใจและอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี เดินหน้าทำตลาดเครื่องประดับฯ เต็มร้อย ชูจุดแข็งครบวงจร โดดเด่น ทั้งด้านดีไซน์และเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย  สินค้าผลิตจากวัสดุธรรมชาติ มีห้องปฏิบัติการ (Lab) ระดับมาตรฐานสากล พร้อมนักอัญมณีศาสตร์ควบคุมอย่างใกล้ชิด รวมถึงการรับประกันสินค้าแท้ 100% ชี้เป็นจุดแข็งทำให้ NGG JEWELLERY เป็นที่ไว้วางใจของลูกค้ามาอย่างยาวนาน พร้อมโชว์ความน่าเชื่อถือด้วยมาตรฐานระดับสากล ในทุกขั้นตอนการผลิตและจัดจำหน่าย ด้วยกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ 100% ภายใต้การบริหารมืออาชีพทั้งประสบการณ์และความรู้ตามมาตรฐานสากล ด้วยสินค้าคุณภาพระดับเวิลด์คลาสในทุกมิติ ประกาศเดินหน้ารุกตลาดทุกช่องทางการจำหน่าย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษส่งท้ายปี เน้นบริการครบวงจรเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า

        นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยว่า  “NGG JEWELLERY” (NGG : natural glamour gift) อาณาจักรเครื่องประดับแท้ของขวัญจากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับ ทั้งเพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่จำหน่ายสินค้าครบวงจรทั้ง 3 อุตสาหกรรม  ทองคำ  เครื่องประดับ และนาฬิกา แบรนด์ชั้นนำของโลก โดยเรามุ่งมั่นให้ความสำคัญในทุกมิติ ภายใต้คอนเซปต์ design the happiness to represent your success ทั้งด้านดีไซน์ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ULTIMATE MASTER PIECES ด้วยการรังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องประดับอันงดงาม ที่รวมเอาความเหมาะสมและโอกาสในการใช้งาน เข้ากับสรีระร่างกาย ผ่านการออกแบบโดยใช้ศาสตร์แห่ง Physi เป็นแนวความคิด  ด้านคุณภาพการผลิต  ได้รับการยกย่องให้เป็น Expert มีความเชี่ยวชาญอันเหนือชั้นที่เป็นทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้จัดจำหน่ายเป็นที่ยอมรับจากบริษัทชั้นนำระดับโลกและภายในประเทศ โดยเรามีโรงงานผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สินค้าทุกชิ้นผลิตจากวัสดุธรรมชาติ 100% ผ่านการตรวจสอบด้วยห้องปฏิบัติการระดับมาตรฐานสากล ควบคุมโดยนักอัญมณีศาสตร์ที่ชำนาญการ และมีประสบการณ์สูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าสินค้าทุกชิ้นมีความถูกต้อง 100%  ด้านการรับประกัน สินค้าทุกชิ้นมีการรับประกันระดับเวิลด์คลาส (E – Certificate) พร้อมทั้งยังเป็น LUXURY EXPERIENCE ศูนย์บริการการซื้อ ขายและการแลกเปลี่ยน พร้อมบริการหลังการขายอีกด้วย

NGG JEWELLERY รวมเครื่องประดับแท้ระดับเวิลด์คลาสพร้อมรุกทุกช่องทางการจำหน่าย

ผู้นำด้านเครื่องประดับ NGG JEWELLERY แหล่งรวมแห่งอาณาจักรเครื่องประดับแท้ มีสินค้ามากมายหลากหลายให้เลือกไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ NGG Jewellery, CHARMMY, TARIZ, 24K Jewelry, GEMALYN, ZOULLINK, GEMRARITY, DIAMOND TODAY และแบรนด์อื่นๆอีกมากมาย รวมถึงคอลเลกชั่นสุดพิเศษที่มีเฉพาะ NGG เท่านั้น ให้คุณเป็นเจ้าของได้ก่อนใครโดยท่านสามารถเลือกชมและเลือกซื้อสินค้าได้ที่สาขาต่างๆ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ , เซ็นทรัล ระยอง, เซ็นทรัล เชียงใหม่ ,  เซ็นทรัล อยุธยา,  เซ็นทรัล ศรีราชา,  เทอมินอล 21 พัทยา ,  ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, จังซีลอน ภูเก็ต,  สยามเซ็นเตอร์  , เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (Westville)  และ เซ็นทรัล พระราม2  รวมทั้งช่องทางการจำหน่ายสินค้ามีหน้าสาขาทั้งหมด  อีกทั้งยังมีด้าน Online เช่น ทาง website NGG ,  Shopee ,  Lazada และ Allonline เป็นต้น ให้ครอบคลุมทุกช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

NGG JEWELLERY อาณาจักรเครื่องประดับแท้ ครบทุกมิติ

NGG JEWELLERY ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่นมาที่เดียวครบจบทุกความต้องการ ดังนี้

  • Perfect Life คัดสรร Fine jewelry ระดับพรีเมียม และอัญมณีเม็ดใหญ่หายาก อาทิ เพชรแฟนซี เซ็ตมรกต ไข่มุกเซาต์ซี และเซ็ตเครื่องประดับทับทิมสุดหายาก
  • Perfect Love ตอบโจทย์คู่รัก และความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ด้วยแหวนแต่งงานหลากหลายดีไซน์ และสัญลักษณ์ของความรัก ทั้งแหวนเพชรเม็ดชูมาตรฐานสากล GIA, แหวนแถว และแหวนหมั้นดีไซน์เรียบหรู
  • Perfect Moment เอาใจสายแฟชั่นและสายมู กับเครื่องประดับชาร์มทองคำแท้ 9%, กำไลหิน, เครื่องประดับสายมูเสริมโชคลาภ มีทั้ง พระพิฆเนศ, นาคเกี้ยว, กิมตุ้ง และอีกหลากหลายคอลเลกชั่น ให้เลือกช้อปตามไลฟ์สไตล์ตามความต้องการ
  • Perfect Gold ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบทองคำ มีทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ 5% และ 99.9% รวมถึง Art and Decorate Jewelry เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสวยงามและความประณีตของช่างฝีมือคนไทยที่มีรูปปั้นพระพุทธรูปต่าง ให้ได้ชมและเลือกซื้อกันได้อีกด้วย
  • Perfect Timepieces เป็นผู้แทนจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ระดับโลก (authorized dealer )  เช่น โรเล็กซ์
    ชุนโต้ ภายใต้มาตรฐานสากล (International) ด้วยความเป็นมืออาชีพ (Professional)

นอกจากนี้ ล่าสุด NGG JEWELLERY ได้ร่วมกับแบรนด์ระดับโลก จับมือ ELLE เปิดตัวแบรนด์ เครื่องประดับ “GEMALYN” (เจมมาลิน) ออกคอลเลกชั่นสุดพิเศษ ‘DE PARIS COLLECTION’ เครื่องประดับที่มีความงดงามของพลอยแท้จากธรรมชาติ ตั้งแต่ออกแบบ คัดเลือกสีพลอย จนรังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องประดับที่รวมสีพลอยไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ได้รับแรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์ ซิกเนเจอร์ ELLE และ Paris Signature กับลวดลายของ Eiffel Tower ผสมผสานช่วงเวลาสุดโรแมนติกของกรุงปารีส ดีไซน์เรียบหรูและสีสันอันโดดเด่นของอัญมณี ที่แมทช์ได้กับทุกลุค ทุกโอกาส ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว  ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้งยังมี Service และการจัดโปรโมชั่นต่างๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบแทนและคืนกำไรให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันยังได้สร้างสรรค์ Innovation ที่โดดเด่นให้กับตลาดอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

NGG JEWELLERY พร้อมรุกตลาดจัดโปรโมชั่นส่งท้ายปี

นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในโอกาสรับเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะมาถึง NGG JEWELLERY ได้จัดงานฉลอง Let’s Celebrate the Perfect Gift ให้ลูกค้าได้เลือกช้อปเครื่องประดับเพื่อมอบเป็นของขวัญให้ตัวเอง คนที่คุณรัก ญาติผู้ใหญ่ หรือคู่ค้าด้านธุรกิจ ฯลฯ ได้แล้ววันนี้ที่ NGG Jewellery  ทุกสาขาทั่วประเทศ

นอกจากนี้ NGG JEWELLERY ยังได้รุกตลาดด้วยการจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษส่งท้ายปี ร่วมส่งต่อช่วงเวลาสุดล้ำค่า ด้วยการมอบของขวัญให้กัน เพียงเลือกช้อปเครื่องประดับชิ้นโปรดชิ้นใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยข้อมือ แหวน ต่างหู หรือสร้อยคอ ฯลฯ พร้อมให้ทุกท่านมาแมทซ์ตามสไตล์ที่ชอบ ช้อปครบ 35,900  บาทขึ้นไป รับทันที! ของขวัญสุดพรีเมี่ยม เครื่องทำความสะอาดเครื่องประดับด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ultrasonic jewelry cleaner) 1 เครื่อง เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึง 7 มกราคม  2567

สำหรับท่านที่สนใจ สามารถสั่งซื้อสินค้าและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02- 821-5983 เว็บไซต์ www.nggjewellery.com  Facebook: NGG Jewellery  และ LINE OA: @nggjewellery

Comments (0)

ปิดเทอมใหญ่ไปเปิดประสบการณ์ซัมเมอร์นิวซีแลนด์ ENZ ชวนพัฒนาภาษาอังกฤษ เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน

Posted on 29 พฤศจิกายน 2023 by admin

          หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ชวนน้องๆเยาวชนไทย ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่กับโครงการเรียนซัมเมอร์นิวซีแลนด์ (New Zealand Summer Camp) ประจำปี พ.ศ. 2567   เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ทั้งจากในและนอกห้องเรียนกับนักเรียนนิวซีแลนด์ ฝึกภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน

ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนเดือนมีนาคม พ่อแม่ผู้ปกครองมักจะหากิจกรรมเสริมประสบการณ์ให้น้องๆ ซึ่งมีทั้งกิจกรรมซัมเมอร์ที่น่าสนใจมากมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ  ซึ่งนิวซีแลนด์ ถือเป็นอีกหนึ่งในประเทศยอดนิยมของนักเรียนไทย โดยในปีพ.ศ. 2566 พบว่า ตัวเลขนักเรียนไทยไปศึกษาต่อที่นิวซีแลนด์มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการบินไปเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลก ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษทั้งจากในห้องเรียนและการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่สนใจให้น้องๆไปเรียนซัมเมอร์นิวซีแลนด์ มีรายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย แจ้งว่าโครงการซัมเมอร์นิวซีแลนด์ New Zealand Summer Camp 2024  ประกาศเปิดรับสมัครแล้ว สำหรับน้องๆเยาวชนไทย อายุระหว่าง 11-17 ปี เพื่อไปเรียนนิวซีแลนด์ระยะสั้นตั้งแต่ 3 สัปดาห์- 1 เทอม ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน เริ่มเรียนตั้งแต่เดือนมีนาคม และเมษายน 2566 ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567  (ขึ้นอยู่กับหลักสูตรของแต่ละโรงเรียน) นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้หลายจุดหมายปลายทาง มีเมืองและระยะเวลาให้เลือกมากมาย อาทิ เมืองChristchurch, Auckland, Napier, Palmerston North, Leeston, Franklin, Paraparaumu และ Te Puke

โครงการเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์ เป็นโครงการพัฒนาภาษาอังกฤษระยะสั้นในช่วงปิดภาคเรียน  จะช่วยให้น้องๆได้เปิดประสบการณ์มากมาย ได้เรียนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาเรียนพื้นฐานในระบบการเรียนการสอนจริง สภาพแวดล้อมห้องเรียนนิวซีแลนด์จริงๆ ใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้ทุกอย่างไม่ต่างจากนักเรียนนิวซีแลนด์ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับกิจกรรมทัศนศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียน พักกับครอบครัวนิวซีแลนด์ที่ดูแลนักเรียนเหมือนคนในครอบครัวจริง ดูแลความปลอดภัย และมีกิจกรรมให้ทำร่วมกัน อีกทั้งยังมีระบบบัดดี้ช่วยฝึกภาษา ได้ฝึกภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาในชีวิตประจำวันกับครอบครัวนิวซีแลนด์ พบมิตรภาพจากเพื่อนนิวซีแลนด์ และทำให้ได้ฝึกภาษาอังกฤษอย่างก้าวกระโดด

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดโปรแกรมกับตัวแทนแนะแนวการศึกษาชั้นนำที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ที่ช่วยทั้งการสมัครเรียน รวมทั้งขอวีซ่าและจองรายการต่างๆ และที่พักให้ รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.learnenglishnewzealand.com/nzsummer หรือ สอบถามได้ที่ Line ID:@NZEnglish

Comments (0)

หลักสูตร Digital Jumpstart#1 เยือนSEA (Thailand) เสริมประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต

Posted on 26 พฤศจิกายน 2023 by admin

            ดร.ปรีสาร รักวาทิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ depa  นายวาฤทธิ์ ศิริพิทยาโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ depa นำคณะผู้บริหารเข้าอบรมหลักสูตร Digital Jumpstart รุ่นที่ 1 (DJS#1) เข้าศึกษาดูงาน SEA (Thailand) โดยมี ดร.ศรุต วานิชพันธุ์ Senior Director, Sea Thailand (Shopee, Garena, ShopeePay) ให้การต้อนรับ พร้อมแชร์ประสบการณ์ในหัวข้อ “Game and Esports Marketing: How to Capture the Young Generation” และ “E-commerce: Better Meet the User’s Needs with Data” ให้ DJS#1 พร้อมนำเยี่ยมชมดูงานห้อง E-Sport ซึ่งกีฬาอีสปอร์ต (eSports) เป็นกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งกำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก ซึ่งกีฬาชนิดนี้เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันได้มีทีมกีฬาและการแข่งขัน eSports เกิดขึ้นมากมายในระดับโลก เช่น World Cyber Games championship ซึ่งเปรียบได้กับโอลิมปิคของเกม และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งรายการเหล่านี้มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก  งานนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

พร้อมกันนี้ ผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชนที่ร่วมศึกษาในหลักสูตร Digital Jumpstart รุ่นที่ 1 (DJS#1) จำนวน 55 ท่าน อาทิ  นายเกริกกุล โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท
อี.คิว.รับเบอร์ จำกัด นายเกียรติชัย ประกายเกียรติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ธัญ-ออริซ่า จำกัด นายคชพงษ์ สุภาเพิ่ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซอฟต์เวย์ คอนซัลติง จำกัด นายครองภาคย์ ศุขรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกฎเกณฑ์และวินัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดร.คุณานันท์ สุขพาสน์เจริญ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ดร.จอมพล ทองแป้น นักพัฒนานโยบาย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) นายจักรทอง ตั้งจิตรเจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักแผนเทคโนโลยีดิจิทัล ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นางสาวจารุวรรณ ภูวจรูญกุล ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบงานดิจิทัล การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายฉัตรชัย ลิ้มสังคมเลิศ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์-IT Solutions ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายชวรัส เกรอต นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ สำนักงานประกันสังคม นายชาคริต คนธรรพ์สกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีวิค อโกรเทค จำกัด นายชาตรี วงษ์วิบูลย์สิน รองนายกเทศมนตรีนครราชสีมา เทศบาลนครราชสีมา รศ.นพ.ไชยวัฒน์ ช่วยชูสกุล ผู้ช่วยคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายณภัทร รัตนกุล Chief IT Advisor, MEDS Venture นายณัฐวัฒก์ ฤทธิ์เรืองนาม ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลดิจิทัล การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายทวีศักดิ์ หินอ่อน ผู้จัดการอาวุโส-โครงสร้างพื้นฐาน แพลตฟอร์ม ดิจิทัล บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) นายธนวัฒก์ บุญปัญญา Head of Investment บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด พญ.ธัญนุช สัญชาติ นายแพทย์เชี่ยวชาญ สถาบันโรคทรวงอก นายธีวินท์ นิ่มกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีที บราเธอร์ส จำกัด นายนพัชธวัช วงษ์เจริญสิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสินเชื่อ บริษัท เจริญสิน แคปปิตอล จำกัด นายนิติ สุขานนท์สวัสดิ์ ที่ปรึกษาอาวุโส ผู้พัฒนาทักษะและศักยภาพบุคลากร บริษัท บียอนด์ เทรนนิ่ง จำกัด นายนิธิรุจน์ จิระปรีชาสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นายบัณฑิต ปานแก้ว นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต นางสาวปาร์ย อรรถพิสาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) นายพจน์ รงค์นพรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นางสาวพัชรพร พงษ์ทัดศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

นางสาวพัชรินทร์ นิสยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย IT บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด นายพิสิษฐ์ ดวงดีกมลทัศน์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อัลติเมท ไซเบอร์ เทคโนโลยี จำกัด เรือโทภูวิภพ ทองท่าฉาง นักบริหาร 13 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือฯ การท่าเรือแห่งประเทศไทย นายมหิศร ว่องผาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชจี โรโบติกส์ จำกัด พญ.มัลลิกา ชวนเสงี่ยม ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสุขภาพ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ นางสาวเมทินี หัตถิ หัวหน้ากองบริหารผู้มีส่วนได้ส่วนเสียลูกค้า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายยศพล มาลีมงคล Business Development Assistant to CEO บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแท๊กซ์ อินคอเปอร์เรชั่น จำกัด นางสาวลลิล อนันต์บัญชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เอ็กซ์ซี จำกัด นางสาวละออศรี มัทธุรนนท์ ที่ปรึกษา บริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด นางสาววิภารัตน์ ทองบุญเมือง ประธานกรรมการฝ่ายบัญชีการเงิน บริษัท อีซี่ (2018) จำกัด นายวุฒิชัย ปรีพุทธรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนลิเจนท์ ออโตเมชั่น จำกัด นางสาวศรัณย์ญา ยงค์สงวนชัย ผู้บริหาร บริษัท กิตตินครเพลส บางบ่อ 2 จำกัด นายศรุต อุดมการณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด นางสาวศศิธร พำนัก หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและสารสนเทศ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นายษณกร กี่สิ้น รองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เทศบาลเมืองป่าตอง จังหวัดภูเก็ต นายสดุดี ลิ่มวิไลกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คูโบต้า ลิ้มเจี๊ยบฮง จำกัด นางสาวสวรรณกมล จันทรมะโน หัวหน้าส่วนงาน ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและศูนย์ข้อมูลพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน นายสิทธา อาภาศิริกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายสิทธิชัย เทพไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี บัสซ์ จำกัด นางสาวสินีลาภิศ ธีรพิทยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการ Digital Banking ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นางสาวสิริกัญญ์ เจริญศิริ กรรมการบริหาร บริษัท แอค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด นางสาวสิริมน เทพชะนะกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ปิยสยาม กรุ๊ป (2001) จำกัด นายสุดเขต ยงค์เจริญชัย รองประธานฝ่ายขาย บริษัท จีไอเอส จำกัด นายสุพศิน เข็มทอง ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมเครื่องหอมไทย-จีน จำกัด นายอภิรมย์ คำแสง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเมล จำกัด นายอมฤต ฟรานเซน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สพญ.อังคนางค์ ชากีร่า บำรุงสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีเจน สมาร์ทซิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด นางสาวอิสริยา บวรเศรษฐวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออล แอดวานซ์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด

Comments (0)

วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา ชวนทำบุญรับปีใหม่ ร่วมแบ่งปันความสุขเพื่อน้องผู้พิการ โครงการ “น้องอิ่มท้อง พี่อิ่มบุญ สุขคูณสอง”

Posted on 22 พฤศจิกายน 2023 by admin

          วิทยาลัยเทคโนโลยี พระมหาไถ่ พัทยา สถานศึกษาเพื่อคนพิการ ชวนทำบุญรับเทศกาลปีใหม่กับ  โครงการ “น้องอิ่มท้อง พี่อิ่มบุญ สุขคูณสอง” เพื่อให้น้องนักศึกษาผู้พิการได้ท้องอิ่ม ได้มีการศึกษาพร้อมฝึกทักษะวิชาชีพ สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืนโดยไม่เป็นภาระต่อสังคม ดังนั้นจึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา สถานประกอบการร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)  เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ด้วยการมอบทุนอาหาร ทุนการศึกษา สิ่งของเครื่องใช้แก่น้องๆ นักศึกษาคนพิการที่อยู่ในความดูแลของวิทยาลัยฯ กว่า 160 คน ให้ได้อิ่มท้องครบ 3 มื้อ เริ่มต้นเพียงมื้อละ 5,000 – 20,000 บาท นับเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ในสิ่งดีๆด้วยการทำบุญช่วยเหลือผู้พิการ สามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ออมทรัพย์เลขที่บัญชี 3424736274 นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

          นายคำพันธุ์ ราชดา  ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา เปิดเผยว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินงานด้านการจัดการศึกษา การฝึกอาชีพและการส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการ นอกจากนั้นยังรณรงค์และผลักดัน  เพื่อการเข้าถึงสวัสดิการ การปรับสภาพแวดล้อม และบริการสาธารณะที่มีต่อคนคนพิการ รวมไปถึงการสร้างเจตคติเชิงสร้างสรรค์ของสังคม ที่มีต่อคนพิการผ่านสื่อทุกรูปแบบ โดยตลอดระยะเวลากว่า 35 ปีของการดำเนินงาน สามารถช่วยเหลือคนพิการมาแล้วมากกว่า  5,000 คน  ซึ่งการดำเนินงานของวิทยาลัยฯ จำเป็นต้องดูแลทั้งในเรื่องที่พัก อาหาร งานพยาบาล การจัดการศึกษา  และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจากคนพิการ

เทศกาลปีใหม่นี้ ขอเชิญชวนทุกท่านเริ่มต้นด้วยสิ่งดีๆกับการทำบุญใน โครงการ “น้องอิ่มท้อง พี่อิ่มบุญ สุขคูณสอง” เพื่อให้น้องๆได้ท้องอิ่มในระหว่างการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ และฝึกอาชีพสู่การมีงานทำ มีคุณภาพชีวิตที่ดีสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ผู้มีจิตศรัทธา สถานประกอบการสามารถร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)  เพื่อต่อลมหายใจให้ คนพิการ ด้วยการมอบทุนอาหาร ทุนการศึกษา สิ่งของเครื่องใช้แก่นักเรียนและนักศึกษาคนพิการที่อยู่ในความดูแล ซึ่งจะทำให้วิทยาลัยฯ มีงบประมาณทั้งในด้านการจัดการศึกษา ด้านสาธารณูปโภค ด้านบริหารจัดการและบริการอื่นๆ เพื่อให้นักศึกษาพิการ ได้เรียนหนังสือจนมีทักษะความรู้ทางวิชาการ ทักษะทางวิชาชีพ รวมถึงทักษะทางชีวิต จนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและช่วยเหลือครอบครัวได้อย่างยั่งยืน ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนของวิทยาลัยฯมีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรให้ทันต่อความต้องการของตลาดแรงงานอยู่ตลอดเวลา  ปัจจุบันมีหลักสูตรวิชาชีพที่เปิดการเรียนการสอน ได้แก่ หลักสูตร ปวช. สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ หลักสูตร ปวส. สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล นอกจากนั้นยังเปิดสอนหลักสูตรระยะสั้น คอมพิวเตอร์และสำนักงาน รวมถึงเปิดหลักสูตรเตรียมวิชาชีพ สำหรับคนพิการที่ไม่ได้เรียนหนังสือ

นับเป็นการเปิดโอกาสให้คนพิการได้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากการจัดการเรียนการสอนทางด้านวิชาการแล้ว  น้องๆยังได้รับการฟื้นฟูด้านการแพทย์และกายอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งการฟื้นฟูให้นักเรียนยอมรับตนเองและอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข และวิทยาลัยฯยังได้ส่งเสริมให้นักเรียนเป็นผู้ที่มีจิตสาธารณะและทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกด้วย

สำหรับท่านผู้มีจิตศรัทธา หรือสถานประกอบการที่ต้องการมาทำกิจกรรมส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) สร้างวิถีสังคมแห่งการแบ่งปันและเห็นคุณค่า สามารถให้การสนับสนุนช่วยเหลือน้องๆคนพิการด้วยการเลี้ยงอาหารเริ่มต้นมื้อละ 5,000 – 20,000 บาท หรือการมอบทุนการศึกษาให้น้องๆ ฯลฯ ซึ่งเรามั่นใจว่าสถานประกอบการที่ร่วมกิจกรรมกับโครงการ “น้องอิ่มท้อง พี่อิ่มบุญ สุขคูณสอง” ทำให้มีภาพลักษณ์ ที่ดีมีความรับผิดชอบต่อสังคมพนักงานมีจิตอาสาและมีความภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม  “สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่ เลขที่บัญชี 3424736274 ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ออมทรัพย์ นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า หรือ โทร 038 196 494 , 089 403 5950 ร่วมทำบุญด้วยการให้ ทุนอาหาร ทุนการศึกษา ฯลฯ ถือเป็นมหากุศลที่ยิ่งใหญ่”  ผู้อำนวยการฯ  กล่าวในท้ายสุด

Comments (0)

จัดโบว์ลิ่งการกุศล… สภาทนายความฯ และมูลนิธิพระมหาไถ่

Posted on 18 พฤศจิกายน 2023 by admin

          สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิพระมหาไถ่ เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้จัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล  ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์  เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจกรรมละโครงการของหน่วยงาน พร้อมสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม  สู่การขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิด้านกฎหมายแก่คนพิการ การแข่งขันโบว์ลิ่งในครั้งนี้มี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ ประธานเปิดงาน ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์  เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ  นายสัมฤทธิ์ ชาภิรมย์ กรรมการและรองเลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ  นายมานพ เอี่ยมสอาด ผู้จัดการ บริษัท เรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หน่วยงานภายใต้มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ  ร่วมงานฯ ตลอดจนคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทั้ง2 ฝ่าย รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมการแข่งขัน ณ Blu-O Rhythm & Bowl เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน เมื่อเร็วๆนี้

โดยการแข่งขันแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ทีมกิตติมศักดิ์ และทีมทั่วไป ด้านรางวัลการแข่งขันแบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ ประเภททีม ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ   รางวัลรองชนะเลิศ ประเภททีม ถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก  นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความฯ  และประเภทบุคคลชนะเลิศสามเกมสูงสุด ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ   จากนายสัญญาภัชระ สามารถ  อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ เป็นต้น สำหรับการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลฯ นี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งและบรรยากาศในการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจาก ผู้เข้าร่วมแข่งขัน นักกีฬา ฯลฯ

ทั้งนี้ เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ท่านสามารถช่วยเหลือน้องๆผู้พิการได้ที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ  ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเลขที่ 342-3-04066-0 ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่  โทร. 089 9367598

Comments (0)

เปิดใจ “ศิษย์เก่ามูลนิธิมหาไถ่ฯ” นักขายมือโปรวงการประกันฯ ประสบความสำเร็จ ด้วยหัวใจนักสู้ ชีวิตนี้ไม่มีคำว่า “ท้อ”

Posted on 10 พฤศจิกายน 2023 by admin

1695987127809_0_resize

        ไม่มีอุปสรรคใดๆ บนโลกนี้ที่จะมาขัดขวางความตั้งใจ ความพยายามของคุณได้ หากหัวใจคุณมั่นคงและใช้ความพยายามให้เต็มที่ เพราะนั่น… คือความสำเร็จงดงามที่รอคุณอยู่ แม้จะล้มบ้าง นั่นคือรสชาติของชีวิตในโลกใบนี้ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ด้านคนพิการระดับสากล ที่ให้ความช่วยเหลือเยาวชนคนพิการมาโดยตลอดกว่า40ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้ดำเนินการจัดการศึกษาการฝึกอาชีพ การจัดหางาน เพื่อให้คนพิการได้พึ่งพาตนเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัว และอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม มูลนิธิฯ ได้ช่วยฝึกอาชีพให้ผู้พิการเหล่านี้ให้มีความชำนาญ สามารถทำงานได้เกือบทุกประเภทเหมือนคนปกติ อาทิ นักกฎหมาย ศิลปิน นักบัญชี นักวิเคราะห์ทางการเงิน วิศวกร เกษตรกร เป็นต้น

และวันนี้เรามี ศิษย์เก่ามูลนิธิมหาไถ่ฯ 2 นักขายมือโปร ที่มาเล่าประสบการณ์แห่งความสำเร็จแม้ร่างกายอาจไม่สมบูรณ์ แต่… หัวใจนักสู้มันพุ่งอยู่ในกายตลอดเวลา ดังนั้นไม่มีคำว่า”ท้อ”

นายทนงศักดิ์ เล่นทัศน์ ชาวนครศรีธรรมราช เป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แม้กายจะป่วยแต่ก็พยายามเรียนจบ ป.6 และต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านประมาณ 6 ปี “ผมเป็นผู้พิการมาตั้งแต่เด็ก แต่ในใจไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหา ยิ่งไม่สมบูรณ์ ยิ่งต้องพยายาม ให้ความพิการเป็นแรงผลักดันให้เราต้องก้าวต่อไป หลังเรียนจบ ป.6 ผมเข้ารับการฝึกอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าในปี 2535 จากกรมประชาสงเคราะห์ เพราะอยากมีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ และผมโชคดีอีกครั้งเพราะในปี 2536 ได้รับการผ่าตัดและกลับมาเดินได้อีกครั้ง ดีใจสุดๆ มันคือรางวัลชีวิต และผมตั้งมั่นว่า ชีวิตผมโอกาสมันเข้ามาแล้ว มันต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ผมเรียนต่อทันที เพราะเชื่อว่าการศึกษาสำคัญมากหากคุณต้องการมีอนาคตที่ดีขึ้น ผมเข้าเรียนที่ กศน. แล้วสมัครเรียนที่โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา และต้องขอบคุณโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ฯ ที่ให้การศึกษาให้อาชีพกับผมได้ยืนหยัดอย่างแข็งแรงทุกวันนี้ ปี 2541 ผมจบประกาศนียบัตรหลักสูตรวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จากโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา”

1695987245742-1_resize

“และหลังจากที่ผมเรียนจบ ผมได้เข้าทำงานตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ที่ บริษัท วีสทีออน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และยังหาอาชีพเสริมด้วยการเป็นตัวแทนประกัน
วินาศภัย บมจ.มิตรแท้ประกันภัยอีกด้วย และปี 2548 ผมลาออกจากงานประจำ แล้วมาเปิดสำนักงานตัวแทนออนไลน์ บมจ.มิตรแท้ประกันภัย และได้รับการโปรโมทในตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายและขยายงาน บมจ.มิตรแท้ประกันภัย ในปี2561 ผมก็ก่อตั้งบริษัท ชัวร์ แอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด เพื่อบริหารการตลาด และจัดการสำนักงานตัวแทนให้กับ บมจ.มิตรแท้ประกันภัยครับ”

แม้ผมจะพิการเป็นโปลิโอขาทั้งสองและแขนขวาอ่อนแรง  เดินได้บ้างนิดหน่อย ต้องใช้ไม้ค้ำยัน หรือรถไฟฟ้า แต่หัวใจมันสู้มันบอกให้ผมต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิ ผมจะให้ความสำคัญกับการศึกษามาก และผมเรียนจบปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาการจัดการทั่วไปจากม.เวสเทิร์น ปัจจุบัน ผมเป็นเจ้าของกิจการสำนักงานตัวแทน บมจ.มิตรแท้ประกันภัย สาขาแหลมฉบัง  เจ้าของกิจการสำนักงานตัวแทน บมจ.มิตรแท้ประกันภัย สาขาตะเคียนเตี้ย และเจ้าของกิจการ บจก.ชัวร์ แอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด มีผลงานประกันวินาศภัย ส่ง บมจ.มิตรแท้ประกันภัยมากกว่า 100 ล้าน/ปี ต่อเนื่อง 3 ปี (2563-2565)

อยากฝากถึงน้องๆทุกคน ที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ แม้ร่างกายเราจะพิการแต่ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเอามาเป็นปัญหาหรืออุปสรรคในการเรียนหรือทำงาน ขอส่งกำลังใจให้กับน้องๆนักเรียนให้ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด มีเป้าหมายในการเรียนและมีงานทำที่ชัดเจนที่สุด เพื่ออนาคตของเราเอง  ทุกวันนี้ผมระลึกถึงมูลนิธิฯเสมอ ผมมีชีวิตที่ดีก็เพราะการได้รับโอกาสจากมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ผมก็ตอบแทนได้ด้วยการบริจาคเงินช่วยเหลือและเข้าไปแชร์ข้อมูลแนะนำ ประสบการณ์ให้กับรุ่นน้อง ผมอยากให้สถาบันฯเป็นที่พึ่งของผู้พิการด้อยโอกาส เปลี่ยนชีวิตให้มีอาชีพ ช่วยเหลือตนเอง ไม่เป็นภาระต่อครอบครัว ต่อสังคมครับ”

ส่วนทางด้าน คุณชุดารัตน์ ชินจันทึก สาวมั่นจาก จ.นครราชสีมา ทุกวันนี้ประสบความสำเร็จกับอาชีพนักขาย  กับผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายและได้ขยายงาน บมจ.มิตรแท้ประกันภัย และเจ้าของบริษัท ชัวร์ แอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด บริหารการตลาด และจัดการสำนักงานตัวแทนให้กับ บมจ.มิตรแท้ประกันภัย   เธอแขนขวาขาดเหนือศอก เนื่องจากประสบอุบัติเหตุไฟฟ้าช๊อต เมื่อปี 2535 ในขณะที่เข้ามาทำงานใน กทม. ทำให้ต้องพักรักษาตัวนานถึง  11 เดือนเป็นศิษย์เก่าของมูลนิธิมหาไถ่ฯ ที่วันนี้ประสบความสำเร็จมาก แม้ร่างกายอาจไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่นแต่หัวใจนักสู้ของเธอมันพุ่งอยู่ในกายตลอดเวลา คำว่าท้อเลย

1695987330382_0_resize

จบ กศน. ม.ต้น ที่นครราชสีมา แล้วมาสมัครเรียนที่โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา จนจบ ประกาศนียบัตรหลักสูตรวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จากโรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา ในปี 2541 และได้มาทำงานตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ ที่บริษัท วีสทีออน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ แต่เราไม่ได้ทิ้งการเรียนยังเรียนควบคู่กับทำงาน จนสำเร็จการศึกษาระดับ ปวส. คอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนพัทยาบริหารธุรกิจ (ภาคเสาร์-อาทิตย์) และเรียนต่อจบ ป.ตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์สาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ซึ่งขณะที่เรียนอยู่เราก็มีอาชีพเสริมเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย บมจ.มิตรแท้ประกันภัย จนในปี 2554  ได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และมาเปิดสำนักงานตัวแทนออนไลน์ บมจ.มิตรแท้ประกันภัย จนได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายและขยายงาน บมจ.มิตรแท้ประกันภัย และเมื่อปี 2561 จึงได้ก่อตั้งบริษัท ชัวร์ แอดวานซ์ เซอร์วิส จำกัด บริหารการตลาด และจัดการสำนักงานตัวแทนให้กับ บมจ.มิตรแท้ประกันภัยอีกด้วย”

“ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าร่างกายพิการมันก็คืออุปสรรคอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน แต่มันอยู่ที่ความคิดของเรา หัวใจของเรา ใช้ความพิการของเรามาเป็นพลังเพื่อต่อสู้กับทุกสิ่ง อีกทั้งต้องรู้จักเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เข้ามาเกี่ยวกับการตลาดยุคใหม่  เช่น เฟสบุค ติ๊กตอก ที่เป็นเครื่องมือในการศึกษาหาความรู้ได้และต้องขอบคุณมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ที่ให้โอกาส ทุกวันนี้เราได้กลับไปช่วยมูลนิธิฯ เพราะตระหนักดีว่ามูลนิธิฯ เป็นองค์กรการกุศล เมื่อเราประสบสำเร็จเราก็กลับมาให้ เพื่อมูลนิธิฯ จะได้ไปช่วยเหลือน้องๆผู้พิการต่อไป เช่น โอนเงินค่าอาหารกลางวัน หรือมาเป็นวิทยากรให้น้อง อยากฝากถึงน้องๆ ให้ตั้งใจเรียน เก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุด ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี วันข้างหน้าต้องสดใส”

Comments (0)

เปิดรับด่วน! 3หลักสูตรสุดฮิต สถาบันอาชีพคนพิการนานาชาติฯ ฝึกทักษะ พร้อมหนุนสร้าง – ส่งเสริมอาชีพ

Posted on 10 พฤศจิกายน 2023 by admin

          สถาบันอาชีพคนพิการนานาชาติ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ประกาศ! เปิดรับคนพิการฝึกอาชีพฟรี! ฝึกแล้วมีฝีมือ รับประกันมีงานทำกับ 3 หลักสูตรสุดฮิตเป็นที่ต้องการของตลาด คือ หลักสูตรนักกีฬาคนพิการ หลักสูตรพัฒนาสารสนเทศ และหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง รุ่นที่ 3 มีอาหาร 3 มื้อพร้อมที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวกคนพิการ มีค่าตอบแทนระหว่างฝึกงานอีกด้วย เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2566 ติดต่อสอบถามได้ที่ อ.สุเมธ โทร. 0868431205เผย!เจตนารมณ์ของสถาบันอาชีพคนพิการคนพิการนานาชาติเพื่อการจัดการศึกษาสู่การมีงานทำ ฝึกทักษะอาชีพเพื่อเป็นศูนย์บ่มเพาะส่งเสริมอาชีพคนพิการในพื้นที่และเครือข่ายทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างครบวงจร

นายสุเมธ พลคะชา ผู้อำนวยการ โครงการสถาบันอาชีพคนพิการนานาชาติคนพิการ ภายใต้ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ กล่าวว่า อาชีพไม่ใช่เพียงเพื่อหารายได้หรือ  เพื่อการยังชีพเท่านั้นแต่ อาชีพยังหมายถึงการแสดงคุณค่าและศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ ทุกคนก็ต้องการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพไม่ว่าจะอยู่ในสถานะที่ยากลำบาก ยากดีมีจน หรือร่ำรวยเพียงใดก็ตาม คนพิการจึงต้องการอาชีพ ต้องการพึ่งพาตนเองมีคุณค่าต่อตนเองครอบครัวและสังคมด้วยเพราะความด้อยพลังอำนาจและขาดโอกาสมายาวนานส่งผลให้คนพิการส่วนมากมีพื้นฐานการศึกษาต่ำและอายุเกินเกณฑ์ การศึกษาขั้นพื้นฐานจึงเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาในระบบ

นอกจากนี้ การศึกษาในระบบจำเป็นต้องมี ระยะเวลาและงบประมาณที่ไม่สอดคล้องต่อความต้องการของตลาดแรงงานที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ความผันผวน ความเปลี่ยนแปลงในหลากมิติ ( Disruption) ของเศรษฐกิจและสังคม สถาบันอาชีพของคนพิการจึงก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายข้างต้น เป็นสถาบันที่จัดการศึกษาด้านอาชีพ ฝึกทักษะการทำงานเป็นที่ทำงานและศูนย์กลางส่งเสริมอาชีพคนพิการในระดับภูมิภาคอาเซียน

สำหรับในปีการศึกษา 2566-2567 นี้ ทางสถาบันทำการเปิดรับสมัครคนพิการเข้าศึกษาต่อ และเปิดอบรม3 หลักสูตร โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดการศึกษาสู่การมีงานทำ (Education to Employment) ฝึกทักษะอาชีพ หรือฝึกงาน (Internship) เป็นศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการบริการสถานที่ทำงานร่วม  (Co-working space)  และพื้นที่จัดตั้งสำนักงาน (Office space) หรือดำเนินธุรกิจต่างๆ และเพื่อส่งเสริมอาชีพคนพิการในพื้นที่และเครือข่ายทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างครบวงจร อีกทั้งยังช่วยให้คนพิการและครอบครัวมีอาชีพและการทำงานที่ยั่งยืน อันนำไปสู่การสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและความเจริญก้าวหน้าและกินดีอยู่ดีของประชาชนต่อไป

โดยเปิดรับ 3 หลักสูตร คือ…

          1.)หลักสูตรนักกีฬาคนพิการ  เปิดรับสมัครคนพิการทางร่างกาย อายุ 18-45 ปี ไม่จำกัดวุฒิ ที่สนใจเล่นกีฬา เพื่อเตรียมสู่นักกีฬาคนพิการอาชีพ

          2.)หลักสูตรพัฒนาสารสนเทศ  รับสมัครคนพิการ อายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่จำกัดวุฒิ ที่สนใจงาน งานพัฒนาสารสนเทศ /งานสำนักงาน /กราฟิก

          3.)หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง รุ่นที่ 3 รับสมัครคนพิการ อายุ 18-60 ปี ไม่จำกัดวุฒิ สามารถดูแลตนเองได้หรือ    มีผู้ปกครองคอยดูแล สามารถทำงานกลางแจ้งได้ และหากสามารถเดินทางไป-กลับ จะพิจารณาเป็นพิเศษโดยทั้ง 3หลักสูตรนี้จะเปิดกว้างให้คนพิการที่เป็นคนไทยหรือในภูมิภาคอาเซียนที่สนใจสามารถสมัครเข้าเรียนได้ที่สถาบันฯ โดยเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2566 ติดต่อสอบถามได้ที่ อ.สุเมธ โทร 0868431205

ทั้งนี้ การจัดการศึกษาสู่การทำงานนั้นจะออกแบบหลักสูตรโดยเน้นความต้องการของตลาดเป็นตัวตั้ง โดยมีเนื้อหาสาระด้าน “ความพิการศึกษา”(Disability Study) และทักษะการดำรงชีวิตอิสระ โดยไม่จำกัดวุฒิการศึกษา อายุ และเพศของคนพิการที่สมัครเข้าเรียนแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังจัดให้มีการรับรองหลักสูตร โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือมีความน่าเชื่อถือ เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน บริษัท ไมโครซอฟท์ สถาบันการศึกษาหรือภาคธุรกิจเอกชนอื่นๆ เป็นต้น

“ด้วยจุดแข็งของสถาบันที่มีประสบการณ์ของทีมงานทั้งด้านคนพิการและการฝึกอาชีพของคนพิการ ด้านธุรกิจและเทคโนโลยีดิจิทัล มากกว่า 30 ปี มีเครือข่ายการทำงานทั้งภาครัฐเอกชน ภาคประชาสังคม และองค์กรด้านคนพิการ ขณะเดียวกันก็มีผลงานและความน่าเชื่อถือของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ทั้งนี้สถาบันฯ ยังได้ส่งเสริมอาชีพคนพิการต่างๆ อาทิ เป็นสถานที่ศึกษาดูงานด้านการส่งเสริมอาชีพคนพิการแบบครบวงจร บริการจัดการงานสำหรับคนพิการและให้คำปรึกษาสถานประกอบการในการรับคนพิการเขาทำงาน (Job matching & job placement services) ศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการส่งเสริมอาชีพ อีกทั้งยังเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าและบริการผลิตภัณฑ์จากคนพิการอีกด้วย” นายสุเมธ พลคะชา กล่าวในท้ายสุด

ทั้งนี้ ต้องการสนับสนุน ช่วยเหลือน้องๆผู้พิการสามารถโอนเงินผ่านที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเลขที่ 342-3-04066-0 นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 089 9367598  หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์มูลนิธิฯที่  www.mahatai.org

Comments (0)

คณะผู้บริหาร Digital Jumpstart รุ่น 1 ศึกษาดูงาน EEC Automation Park

Posted on 08 พฤศจิกายน 2023 by admin

          ดร.ปรีสาร รักวาทิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ depa พร้อมด้วย นายวาฤทธิ์ ศิริพิทยาโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ depa นำคณะผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่1 จำนวน55 คน อาทิ ดร.คุณานันท์ สุขพาสน์เจริญ ดร.จอมพล ทองแป้น รศ.นพ.ไชยวัฒน์ ช่วยชูสกุล นายณัฐวัฒก์ ฤทธิ์เรืองนาม นายทวีศักดิ์ หินอ่อน  นายพจน์ รงศ์นพรัตน์  เรือโทภูวิภพ ทองท่าฉาง  พญ.มัลลิกา ชวนเสงี่ยม ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์  สพญ.อังคนางค์  ชากีร่า บำรุงสรณ์ นายฉัตรชัย  ลิ้มสังคมเลิศ นางสาวจารุวรรณ ภูวจรูญกุล นายจักรทอง ตั้งจิตรเจริญ นายศรุต อุดมการณ์ เป็นต้น ศึกษาดูงาน เพื่อที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาองค์กร

โดยมี นายยุทธศักดิ์ พรมแดง วิศวกรพัฒนาธุรกิจ ออโตเมชั่น พาร์ค ให้การต้อนรับ และบรรยายในหัวข้อ “Data Center กับการส่งเสริมเศรษฐกิจ EEC”   ณ EEC Automation Park บางแสน จ. ชลบุรี  เมื่อเร็วๆนี้

ทั้งนี้ EEC Automation Park เป็นศูนย์การเรียนรู้และพัฒนากำลังคนด้านออโตเมชั่นและหุ่นยนต์ ตั้งอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับทุนสนับสนุนการจัดตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC เพื่อเสริมสร้างทักษะ ยกระดับเทคโนโลยีการผลิตในประเทศไทยก้าวสู่ Industry 4.0 เป็นหนึ่งในศูนย์เครือข่ายการพัฒนาบุคลากรเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC NETs)

Comments (0)

สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ จัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล… ระดมทุน สู่การขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อคนพิการ

Posted on 31 ตุลาคม 2023 by admin

          สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ มูลนิธิพระมหาไถ่ เพื่อการพัฒนาคนพิการ จัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล  ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ  เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจกรรมและโครงการของหน่วยงาน พร้อมสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม สู่การขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เผย เพื่อส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิด้านกฎหมายแก่คนพิการ ประกาศขอความอนุเคราะห์จากผู้มีจิตกุศลร่วมสนับสนุนการแข่งขัน และส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 พ.ย.นี้ ณ Blu-O Rhythm & Bowl เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน  สนใจสมัครและโอนเงินช่วยเหลือผู้พิการได้ที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้ที่  ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเลขที่ 342-3-04066-0 ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 089 9367598

          ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับมูลนิธิพระมหาไถ่ เพื่อการพัฒนาคนพิการ เห็นควรให้จัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล  ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ  ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ใน พระบรม ราชูปถัมภ์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจกรรมและโครงการของหน่วยงาน เพื่อสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม สู่การขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ  เพื่อส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิด้านกฎหมายแก่คนพิการ และเพื่อให้การแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลบรรลุวัตถุประสงค์ทางคณะกรรมการผู้จัดการแข่งขันขอความกรุณาจากท่านสนับสนุนจัดการแข่งขัน และส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน

ทั้งนี้ การแข่งขันจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่  5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00-14.00 น. ณ Blu-O Rhythm & Bowl เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ชั้น 4 โดยจะเปิดซ้อมก่อนการแข่งขัน 5 นาที สำหรับค่าสมัครแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ทีมกิตติมศักดิ์ทีมละ 8,000 บาท และทีมทั่วไปทีมละ 5,000 บาท ซึ่งรูปแบบการแข่งขัน จัดแข่งขันทีมละ 3 คนๆละ 3 เกมส์ ส่วนประเภทการแข่งขันนั้นจะแบ่งออกเป็น 1.ประเภททีมละ3คนไม่จำกัดเพศและอายุ 2.ประเภททีมและประเภทบุคคล โดยมีกติกาการแข่งขันคือ 1.  แข่งขันประเภท ทีมละ 3 เกม 2. แข่งขันระบบพินล้ม เหลือคู่เป็น STRIKE   เหลือคี่เป็น SPARE  (*กรณีลูกตกราง จะคิดคะแนนเป็น0) 3. แข่งขัน 3 เกม นับคะแนนพินล้มสูงสุด  (*กรณีคะแนนเท่ากันจะพิจารณาเกมสุดท้ายเป็นเกมตัดสิน) 4.ไม่มีการฟาล์วในระหว่างการแข่งขันและ5.การตัดสินของคณะกรรมการจัดการแข่งขันถือเป็นที่สิ้นสุด

ด้านรางวัลการแข่งขันแบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ ประเภททีม จะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์  รางวัลรองชนะเลิศ ประเภททีม ถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก  นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประเภทบุคคลชนะเลิศสามเกมสูงสุดจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศจากนายสัญญาภัชระ สามารถ  อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความฯ

นอกจากนี้ ยังมีรางวัลอื่นๆ อาทิ รองชนะเลิศอันดับ1 ชนะเลิศเกมเดียวสูงสุดรองชนะเลิศอันดับ1 ชนะเลิศสุภาพบุรุษ สามเกมสูงสุด   รองชนะเลิศอันดับ1 ชนะเลิศสุภาพสตรี สามเกมสูงสุด รองชนะเลิศอันดับ 1 รวมทั้งรางวัลบู้บี้ นอกจากนี้ยังมีของรางวัลเล่นเกมระหว่างแข่งขัน อาทิ บริการเครื่องดื่ม Soft Drink เสิร์ฟ ตลอดงาน  และอาหารด้วย รวมทั้งมอบถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน เป็นต้น

          ทางด้าน อาจารย์สัมฤทธิ์ ชาภิรมย์ กรรมการและรองเลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ  กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ระหว่างสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กับ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและประโยชน์สาธารณะ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ และภารกิจร่วมกัน 4 อย่างคือ 1.) พัฒนากฎหมายและนโยบายสาธารณะ เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และทำให้สิทธิคนพิการเป็นจริงตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (Convention on the Right of People with Disability, CRPD) 2.) เชิญชวนคนพิการทั่วประเทศเข้าใช้บริการ 1479 สายด่วนคนพิการ และ NiNa 1479Platform เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายบุคคลในทุกด้านและทุกมิติ 3.) ให้คำปรึกษาทางกฎหมายและปฏิบัติงานทางคดี ให้แก่คนพิการหรือองค์กรด้านคนพิการ  รวมถึงการจัดฝึกอบรมหรือสัมมนาเพื่อให้ความรู้ทางกฎหมาย 4.) รณรงค์เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สังคมรับทราบถึงภารกิจและการดำเนินงานของทั้งสองฝ่าย ตลอดจนการสื่อสารสาธารณะเพื่อให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนและคนพิการ

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติตามขอบเขตข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวข้างต้น ทั้งสองฝ่ายจะตั้งคณะทำงานเพื่อทำงานร่วมกัน จัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงานประจำปี โดยใช้งบประมาณ บุคลากรและทรัพยากรของแต่ละฝ่ายตามภารกิจหลัก ทั้งนี้อาจร่วมกันเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกตามความเหมาะสม

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนการแข่งขันและส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลครั้งนี้ได้ที่ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ สามารถโอนเงินค่าสมัครได้ที่ ชื่อบัญชีมูลนิธิพระมหาไถ่ เพื่อการพัฒนาคนพิการ  ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเลขที่ 342-3-04066-0 ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณทรงศักดิ์ รีฮุง โทร. 089 9367598 คุณทิพยุดา ขุนฤทธิ์ โทร. 098 2282996 และคุณพิมพ์ปวีณ์ ยอดสิงห์ โทร. 086 3278803

Comments (0)

มอบเงินมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ

Posted on 26 ตุลาคม 2023 by admin

          คุณชัชชฎา ก้องธรนินทร์  เยี่ยมชมการดำเนินงาน พร้อมมอบเงินให้กับน้องๆ ผู้พิการมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้น้องๆ ซึ่งการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต ช่วยให้น้องๆสามารถก้าวนำไปสู่การมีงานทำที่มั่นคงหรือประกอบอาชีพมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ โดยมีนายสมปอง จันทร์พวง ผู้แทน มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เป็นผู้รับมอบ ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเงินหรือสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือคนพิการได้ โดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี 342-3-04066-0 นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ ดูข้อมูลมูลนิธิฯที่  www.mahatai.org หรือสอบถามรายละเอียดที่โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8300 หรือ 089-936-7598 (คุณทรงศักดิ์ รีฮุง)

Comments (0)

ENZ ตอบโจทย์เทรนด์คนรุ่นใหม่อยากเรียนแพทย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์

Posted on 25 ตุลาคม 2023 by admin

            ใครอยากเรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์นิวซีแลนด์ยกมือขึ้น? หลักสูตรเรียนต่อแพทย์ วิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถือเป็นหลักสูตรยอดฮิตของคนรุ่นใหม่ และเป็นความใฝ่ฝันของน้องๆหลายคน แต่การที่จะเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรเหล่านี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังติดท็อปของโลก

โอกาสมาแล้วสำหรับน้องๆที่อยากเรียนต่อทางด้านวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย แจ้งว่า ENZ ได้ผนึกความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยโอทาโก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งแรกของนิวซีแลนด์และติดอันดับท็อป 1% ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ที่มีชื่อเสียงทางด้านหลักสูตรการแพทย์ สุขภาพ วิทยาศาสตร์  การวิจัย และธุรกิจ การท่องเที่ยว ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรทางลัดเตรียมปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์ (New Zealand Joint Foundation Programme) ขยายหลักสูตรให้ครอบคลุม 3 หลักสูตรยอดฮิตที่ตอบโจทย์ทุกคณะ ได้แก่ หลักสูตรธุรกิจ หลักสูตรวิทยาศาสตร์ และหลักสูตรวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้น้องๆ เยาวชนไทยเข้าถึงการศึกษาต่างประเทศในหลักสูตรทางด้านวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยความร่วมมือของศูนย์การเรียนรู้ไทยนิวซีแลนด์ของไทย

หลักสูตรเตรียมปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์ เป็นหลักสูตรพิเศษที่พัฒนาขึ้นสำหรับน้องๆนักเรียนไทยโดยเฉพาะ เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนก่อนเรียนปริญญาตรีปี 1 ที่นิวซีแลนด์ เรียนจบใน 8 เดือน โดยเรียนที่ไทย 2 เดือน (6 พ.ค. – 14 มิ.ย. 67) ณ ศูนย์การเรียนรู้ไทย-นิวซีแลนด์ TNZC กรุงเทพฯ และไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์อีก 2 เทอม (24 มิ.ย. – 4 ต.ค. 67 และ 14 ต.ค.67 – 9 ก.พ.68) เรียนจบจะได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตรพื้นฐานในสาขาที่เลือก สามารถนำไปยื่นเข้าศึกษาต่อปริญญาตรีได้ทุกที่ในนิวซีแลนด์ในหลากหลายสาขา ได้แก่ พาณิชยศาสตร์,  วิทยาศาสตร์,  ศิลปศาสตร์, วิทยาศาสตร์การแพทย์, และสาขาศิลปศาสตร์และพาณิชยศาสตร์  (เรียนต่อปริญญาตรีนิวซีแลนด์อีกเพียง 3 ปี ,  เรียนต่อแพทย์ 6 ปี  และเรียนต่อทันตแพทย์ 5 ปี)

สำหรับน้องๆที่สนใจสมัครเรียน ต้องมีวุฒิการศึกษาตั้งแต่ ม. 5 หรือ ม.6 และมีผล IELTS อย่างน้อย 5.0 สามารถสมัครเรียนได้แล้วตั้งแต่วันนี้  พร้อมรับสิทธิ์ทุนการศึกษา มูลค่ากว่า 10,000 NZD  สมัครด่วน รับจำนวนจำกัด คลิ๊ก https://bit.ly/NZhybridDegree

หากต้องการรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม ขอเชิญร่วมงานสัมมนาออนไลน์ (ฟรี) New Zealand Joint Foundation Programme Webinar ในวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 – 11.00 น. ทาง Zoom webinar ขอรับคำปรึกษากับตัวแทนจากฝ่ายการศึกษา สถานทูตนิวซีแลนด์ และตัวแทนมหาวิทยาลัยโอทาโก พูดคุยรายละเอียดวิชาเรียนของแต่ละสาขา การทำงานหลังเรียนจบ พร้อมรับสิทธิ์ทุนการศึกษาปริญญาตรีจาก University of Otago มูลค่า 10,000 NZD และรับฟรีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์จากมหาวิทยาลัยโอทาโก 8 สัปดาห์ ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี  คลิ๊ก https://bit.ly/NZhybridDegree

Comments (0)

ENZ หนุนนวัตกรรุ่นเยาว์พัฒนาทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษ จัดแข่งขัน Best English Pitching Presentation Awards

Posted on 18 ตุลาคม 2023 by admin

          เด็กไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก มีหลายเวทีที่เด็กไทยได้มีโอกาสไปแข่งขันในเวทีโลกและสามารถคว้าชัยชนะกลับมาอย่างน่าชื่นชม การสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนไทยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตและพัฒนาทักษะในด้านต่างๆอย่างเหมาะสม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเวทีโลกอย่างมีประสิทธิภาพ

หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลนิวซีแลนด์ ที่มีความสัมพันธ์กับประเทศไทยมายาวนานโดยเฉพาะด้านการศึกษาระหว่างประเทศ เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษให้แก่เยาวชนไทย นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในการเตรียมทักษะนักเรียนสู่อนาคตในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จาก The Economist Intelligence Unit ในปี 2019

          นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ)  สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า  ENZ ได้จัดอบรมเทคนิคการสื่อสารภาษาอังกฤษออนไลน์ และส่งเสริมการแข่งขันการนำเสนอผลงาน TIA Awards 2023 ในภาคภาษาอังกฤษ (Education New Zealand’s Best English Pitching Presentation Awards)  ให้กับน้องๆนักนวัตกรรุ่นเยาว์ในโครงการประกวดนวัตกรรมแห่งประเทศไทย TIA Awards 2023 (Thailand Innovation Awards 2023) ขึ้นเป็นปีแรกเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทย มีการฝึกฝนทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและความเป็นเลิศของเยาวชนไทยในด้านต่างๆให้พัฒนาผลงานสู่ความเป็นธุรกิจนวัตกรรม และการนำเสนอผลงานในภาคภาษาอังกฤษ

“รางวัล Education New Zealand’s Best English Pitching Presentation Awards นี้ไม่เพียงแค่การยกย่องแนวคิดนวัตกรรมและผลงานวิจัยที่โดดเด่นของน้องๆเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความสามารถในการสื่อสารแนวคิดอย่างมีประสิทธิภาพ การสื่อสารภาษาอังกฤษที่เชี่ยวชาญมีความสำคัญอย่างยิ่งในเวทีโลกที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น” นางสาวช่อทิพย์ กล่าวและเสริมว่า

การแข่งขันการนำเสนอผลงานเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ และพิธีประกาศผลรางวัล Education New Zealand’s Best English Pitching Presentation Awards จัดขึ้นในงานแข่งขันการนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายของน้องๆนักนวัตกรรุ่นเยาว์ในโครงการ TIA Awards 2023 ที่เข้ารอบ  8 ทีมสุดท้าย โดยมี  ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานมอบเงินรางวัล และใบประกาศเกียรติคุณ  ณ อุทยานนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)  เมื่อเร็ว ๆนี้

สำหรับรายชื่อทีมที่ได้รับรางวัลการนำเสนอผลงานเป็นภาษาอังกฤษดีเด่น Education New Zealand’s Best English Pitching Presentation Awards  ได้แก่

  • รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม EIPCA เครื่องมือเพื่อช่วยคัดกรองโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยน้องๆ ม.6 โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่ ประกอบด้วย นางสาวพัชรดา เทวาดิเทพ (นิหน่า), นาย พีรพัฒน์ วัฒนกิจ (พี), นายคุณาสิน สุขศรี (หมี)  และนายสีทันดร สอาดอาวุธ(จั๊มพ์) โดยนำเสนอผลงาน EIPCA (Electrocardiogram Interpretation Pattern for Cardiovascular Abnormalities prediction) เครื่องมือเพื่อช่วยคัดกรองโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้วยการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาด้วยปัญญาประดิษฐ์ ช่วยเพิ่มอัตราการเข้าถึงการคัดกรองโรคหัวใจ

          นางสาวพัชรดา เทวาดิเทพ (นิหน่า) หนึ่งในทีม กล่าวว่า การนำเสนอภาษาอังกฤษถือว่าเป็น 1 ในความท้าทายที่ยากที่สุด แต่ก็สนุกมาก เพราะนอกจากเราต้องเข้าใจงานของเราแล้ว เราต้องทำให้ผู้ฟังเข้าใจเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย โดยเฉพาะช่วงตอบคำถามต้องเข้าใจในสิ่งที่กรรมการต้องการสื่อแล้วคิดหาคำตอบในเวลาที่จำกัด คำตอบต้องกระชับ เข้าใจง่าย ตรงประเด็น ความตื่นเต้นและความกดดันอาจจะทำให้ลืมคำศัพท์ไปบ้าง แต่ถ้าเราสื่อสารอย่างเต็มที่ กรรมการก็จะเข้าใจค่ะ ซึ่งการที่เราใช้ภาษาอังกฤษได้ทำให้เราได้เปรียบในการนำไปต่อยอดในระดับนานาชาติค่ะ ทำให้มีคนรู้จักผลงานของเรามากขึ้น รางวัลนี้จึงเป็นเกียรติและความภูมิใจสำหรับทีม EIPCA พวกเราได้ใช้ภาษาอย่างเต็มที่มากๆค่ะ รู้สึกภูมิใจค่ะ เราซ้อมกันเยอะมากๆเลย ได้ใช้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้ฝึกการเล่าเรื่อง พอได้รางวัลนี้มา พวกเราเลยมีความสุขกันมากๆค่ะ ขอขอบคุณ Education New Zealand ที่ให้ทุนสนับสนุน ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของเด็กๆ ที่ได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย”

  • รางวัลรองชะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีมบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพบรรจุอาหาร โดยน้องๆ ม.5 โรงเรียน.กำเนิดวิทย์ ประกอบด้วย นางสาววิชญาพร วุฒิภาพ (หยก) และนางสาวธันยนันท์ พูนบันดาลสิน (วิว) โดยนำเสนอผลงาน บรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพทนต่อน้ำจากเปลือกทุเรียน และชะลอการเติบโตของแบคทีเรียด้วยสารสกัดจาก สมุนไพรไทย พร้อมตัวบ่งชี้การเน่าเสียของอาหารสดจากดอกต้อยติ่ง ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพนี้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

          นางสาววิชญาพร วุฒิภาพ (หยก) บอกว่า การสื่อสารภาษาอังกฤษมีความสำคัญในเวทีระดับประเทศและระดับนานาชาติ การแข่งขันนี้ทำให้ได้ฝึกความมั่นใจ ทักษะการนำเสนอให้ดูน่าสนใจ การวางท่าทางขณะนำเสนอ และทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ และการเลือกใช้คำศัพท์ในการนำเสนอให้ผู้ฟังเข้าใจ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษของหนูเลยค่ะ ได้ฝึกประสบการณ์ในการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษจริงๆ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของหนูที่ได้นำเสนอเป็นภาษาอังกฤษในเวทีที่ใหญ่ขนาดนี้ ทำให้หนูได้เรียนรู้ว่าการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถึงแม้เราจะมั่นใจในผลงานเราขนาดไหน เราก็ต้องฝึกซ้อมนำเสนอไปก่อนเพื่อให้ลดความตื่นเต้นในวันจริงและทำให้การนำเสนอของเราออกมาเต็มความสามารถที่สุด”

          นางสาวธันยนันท์ พูนบันดาลสิน (วิว) กล่าวว่า การนำเสนอผลงานเป็นภาษาอังกฤษสำคัญมากๆเพราะจะเปิดโลกทางไอเดียให้กับนวัตกรรมของเราได้ บางครั้งการนำเสนอนวัตกรรมกับชาวต่างชาติ หรือคนที่หลากหลายก็จะทำให้เราได้ไอเดียข้อเสนอคำถามใหม่ๆที่จะนำไปต่อยอดนวัตกรรมของเราได้ การได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นประสบการณ์ที่สำคัญมากๆ เพราะได้ฝึกการพูดและการ pitching โดยมีครูคอยให้คำแนะนำ ซึ่งคำแนะนำในการพูดเหล่านี้นอกจากเอาจะสามารถใช้ในการแข่งขันนี้ยังสามารถฝึกติดตัวใช้เป็นทักษะในอนาคตได้อีกมาก

“ทักษะภาษาอังกฤษสำคัญมากๆ สามารถเปิดโลกอีกใบให้เราเห็นอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยได้เห็น รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ และเราเหมือนได้ปลดล็อกความรู้และโอกาสที่เราสามารถหาได้เมื่อเรารู้ภาษาอังกฤษ จากใจคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษมาตลอดแล้วพึ่งมาเรียนภาษาอังกฤษค่ะ สำหรับมุมมองด้านการศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์ ถือเป็นการศึกษามาตรฐานโลก ด้วยความที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักมีสถาบันการศึกษาที่ติดอันดับระดับโลกและมีสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะกับการศึกษา นิวซีแลนด์จึงเป็นประเทศที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาในระดับต่อไป”

  • รางวัลรองชะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม SVMR หุ่นยนต์ช่วยในการแจ้งเตือนและดูแลผู้สูงอายุในเรื่องของการรับประทานยา โดยน้องๆ ม.6 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ประกอบด้วย  นายชัชชพล เวสสะโรจน์กิจ  (จีโอ้) นาย ชวิศ อรรถสุขวัฒนา  (อู๋) และ 3. นายณชพล สุขขำ  (บอส)  โดยนำเสนอ ผลงาน หุ่นยนต์ช่วยในการแจ้งเตือนและดูแลผู้สูงอายุในเรื่องของการรับประทานยา หุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ในการจ่ายให้ผู้สูงอายุเมื่อถึงเวลาทานยา และมีแอปพลิเคชันที่ใช้ในการควบคุมหุ่นยนต์สำหรับให้ผู้ดูแลใช้ โดยตัวหุ่นจะมีฟังก์ชันเสริมต่างๆ เช่น  Video Call, ระบบขับเคลื่อน,AI

          นายชัชชพล เวสสะโรจน์กิจ  (จีโอ้) กล่าวว่า ประสบการณ์ที่พวกผมได้จากงานนี้คือ ทักษะในด้านของการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ, การออกเสียงเมื่อพูด, Body Language ของเวลานำเสนอผลงาน และในเรื่องของการทำสไลด์พรีเซนต์เตชั่นให้ดูน่าสนใจและครอบคลุมจุดต่างๆของผลงาน นอจากนี้ผมคิดว่าการที่จัดการแข่งขันประกวดเป็นภาษาอังกฤษช่วยให้ผลงานนั้นแพร่กระจายทำให้คนทั่วโลกรู้จักผลงานนั้นได้มากขึ้น และผมคิดว่ามันจะช่วยต่อยอดทักษะการนำเสนอของเราได้ เมื่อในอนาคตเราจำเป็นต้องไปนำเสนอผมงานของเราให้กับบริษัทหรือคนอื่นๆที่ไม่ได้พูดภาษาเดียวกับเรา

.       ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที studywithnewzealand.govt.nz

Comments (0)

เรื่องล่าสุด