Archive | ข่าว

ม.ดัง นิวซีแลนด์ เปิดรับนักศึกษาต่างชาติหลักสูตรออนไลน์ พร้อมประกาศมอบทุนนักศึกษาต่างชาติทุกคนระดับ ป.ตรี-ป.โท

Posted on 29 กันยายน 2020 by admin

          โอกาสดีของคนอยากเรียนต่อต่างประเทศ มหาวิทยาลัยชื่อดังระดับท็อปของนิวซีแลนด์หลายแห่งประกาศมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับนักเรียนไทยและต่างชาติทุกคน ทั้งผู้ที่เรียนต่อในนิวซีแลนด์ และผู้ที่เรียนทางออนไลน์ ในระดับป.ตรี-ป.โท ประจำปีการศึกษา 2564  และนับเป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างโอทาโก ประกาศมอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ  สูงถึง 10,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือกว่า 210,000 บาท  พร้อมเปิดรับสมัครหลักสูตรออนไลน์แล้ววันนี้ 

          น.ส.ช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้จัดการตลาด หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งของนิวซีแลนด์ได้เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2564 แล้ว รวมทั้งหลักสูตรออนไลน์สำหรับนักศึกษาต่างชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติรวมทั้งนักศึกษาไทยได้ศึกษาต่อเนื่องในมหาวิทยาลัยที่มีระบบการศึกษาติดอันดับต้นๆของโลก ไม่ว่าจะเป็น Auckland University of Technology, The University of Auckland, University of Otago, University of Canterbury, Massey University, The University of Waikato, Victoria University of Wellington และ Lincoln University ซึ่งมหาวิทยาลัยทุกแห่งของนิวซีแลนด์ ล้วนติดอันดับท็อป 3% ของโลกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก QS ปีพ. ศ. 2561

“ปีนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆของนักศึกษาต่างชาติ รวมทั้งนักศึกษาไทย เพราะนอกจากทางสถาบันการศึกษาได้เตรียมข้อเสนอพิเศษสำหรับนักศึกษาต่างชาติแล้ว มหาวิทยาลัยหลายแห่งของนิวซีแลนด์ยังได้ประกาศมอบทุนการศึกษาพิเศษแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับนักศึกษาต่างชาติทุกคน ทั้งผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในนิวซีแลนด์ และผู้ที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรออนไลน์” น.ส.ช่อทิพย์ กล่าวและเสริมว่า

ตัวอย่างทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ของมหาวิทยาลัยต่างๆ  ได้แก่

          – มหาวิทยาลัยโอทาโก (University of Otago) ได้มอบข้อเสนอพิเศษและทุนการศึกษามูลค่าสูงถึง 10,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือกว่า 210,000 บาท สำหรับนักศึกษาต่างชาติทุกคน ทั้งผู้ที่เรียนอยู่ในนิวซีแลนด์ และผู้ที่เรียนทางออนไลน์ที่ต่างประเทศ ในระดับปริญญาตรี และ ระดับปริญญาโท สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่ในนิวซีแลนด์ และผู้ที่ได้รับการตอบรับให้เริ่มศึกษาระดับปริญญาตรีเต็มเวลาในปี 2564 เป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ รวมทั้งผู้ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาโท หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต (postgraduate diploma)ในนิวซีแลนด์ และผู้ที่ได้รับการตอบรับเรียนหลักสูตรที่เปิดสอนทางออนไลน์และผู้ที่มีผลการเรียนดี (เกรด A ขึ้นไป) ข้อเสนอของทุนการศึกษานี้ ยังรวมถึงการรับประกันด้านที่พักภายในมหาวิทยาลัยโอทาโก หรือ UniFlat สำหรับนักศึกษาที่ไม่สามารถเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงฤดูร้อน และเตรียมเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่โอทาโกในปี 2564

นอกจากนี้ นักศึกษาต่างชาติที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการสมัครเรียน แต่อยู่ต่างประเทศ และต้องการเรียนโปรแกรมที่ไม่มีเปิดสอนทางออนไลน์ ก็ยังคงมีสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโอทาโกด้วยเช่นกันทั้งนี้ มหาวิทยาลัยโอทาโก กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาต่างชาติ เรียนหลักสูตรออนไลน์ ภาคการศึกษาที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ทั้ง 4 สาขาของวิทยาศาสตร์ธุรกิจ  วิทยาศาสตร์สุขภาพ ( Health sciences) และหลักสูตรมนุษยศาสตร์

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุนการศึกษา ดูได้ทางเว็บไซต์ otago.ac.nz

          – มหาวิทยาลัยไวกาโต (The University of Waikato) ได้มอบข้อเสนอพิเศษและทุนการศึกษาจำนวนมากสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่เริ่มเรียนที่ ในปี 2563 และ 2564 โดยลดค่าธรรมเนียม 20% และมอบทุนการศึกษาสำหรับการเดินทาง 2,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ สำหรับนักเรียนต่างชาติทุกคนที่เริ่มเรียนหลักสูตรออนไลน์ โดยจะได้รับการลดค่าธรรมเนียม 20% สำหรับการเรียนออนไลน์ และทุนการศึกษาการเดินทาง 2,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ เมื่อต้องเดินทางมาเรียนที่นิวซีแลนด์

นอกจากนี้ Waikato ยังมีข้อเสนอด้านทุนการศึกษาอีกมากมายสำหรับนักศึกษาต่างชาติ มีมูลค่าสูงถึง 10,000 NZD ได้แก่ ทุนสำหรับนักศึกษาที่สมัครเรียนหลักสูตรปกติในห้องเรียน ทั้งที่ Waikato และวิทยาเขต Tauranga ในปี 2564, ทุนการฝึกปฏิบัติงานวิศวกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต สำหรับนักศึกษาที่เริ่มต้นเรียนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ มหาบัณฑิตในปี 2564 และทุนการศึกษา Master of Applied Finance สำหรับนักศึกษาที่เริ่มต้นปริญญาโทสาขาการเงินประยุกต์ในปี 2564 เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุนการศึกษา ดูได้ทางเว็บไซต์ waikato.ac.nz

          – มหาวิทยาลัยลินคอล์น (Lincoln University) มีทุนการศึกษาและข้อเสนอมากมายสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษ ประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาโท ได้แก่

              – ทุนหลักสูตรภาษาอังกฤษ 5,460 NZD สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรเตรียมพร้อมเพื่อการสอบ(EAP) อย่างน้อย 12 สัปดาห์ และลงทะเบียนเรียนการศึกษาแบบประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญาด้านการศึกษา หรือระดับปริญญาตรี

              – ทุนหลักสูตรประกาศนียบัตรของมหาวิทยาลัยหรืออนุปริญญา มอบทุนการศึกษา 2,500 NZD สำหรับนักศึกษาใหม่ที่ต้องการเข้าศึกษาในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย (ต้องผ่านตามข้อกำหนดทางด้านวิชาการและภาษาอังกฤษ)

              – ทุนหลักสูตรปริญญาตรี มอบให้สำหรับนักศึกษาใหม่ที่กำลังศึกษาหลักสูตรระดับปริญญาตรี มี 2 ทุนการศึกษา ได้แก่ ทุนการศึกษารองอธิการบดีระหว่างประเทศ (International Vice-Chancellor) 5,000 NZD และทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีสำหรับนักเรียนต่างชาติ (International Undergraduate) 5,000 NZD ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษาต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดทางด้านวิชาการและภาษาอังกฤษ

              – ทุนหลักสูตรปริญญาโท นักเรียนต่างชาติที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษา 7,000-10,000 NZD ขึ้นกับหลักสูตรที่เลือกเรียน (ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับทุนต้องมีเกรดเฉลี่ยอย่างน้อย B+ ขึ้นไป ในปีสุดท้ายของการศึกษาระดับปริญญาตรี)

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุนการศึกษา ดูได้ทางเว็บไซต์ Lincoln.ac.nz

Comments (0)

คณะผู้บริหารดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่ 3 ศึกษาดูงาน PWC

Posted on 17 กันยายน 2020 by admin

          นางสาววิไลพร ทวีลาภพันทอง หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PWC Consulting (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ คณะผู้บริหารที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร ผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 3 อาทิ นายดุสิต เต็งไตรรัตน์ นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์  นายศักรินทร์ ร่วมรังสี ดร.นพ.ตุลวรรธน์ พัชราภา นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ นายพิศุทธิ์ อารีมิตร เพื่อศึกษาดูงานกรณีศึกษา PWC Digital Transformation และการรับมือกับความท้าทายของบุคลากรยุคหลัง COVID-19 เพื่อที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กรตัวเอง ซึ่งคณะผู้บริหารต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ณ บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

“ชลิต อินดัสทรีฯ” รวมใจ จิตอาสา อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนบางขุนเทียน

Posted on 10 กันยายน 2020 by admin

           นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ กรรมการ และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “POP” พร้อมด้วย นางสาวชัญญา ยงเห็นเจริญ และคณะผู้บริหาร นำทีมพนักงานร่วมกิจกรรมโครงการ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า” เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ร่วมเป็นจิตอาสา  ร่วมแรง ร่วมใจปลูกป่าชายเลนบางขุนเทียนและคืนพื้นที่สีเขียวให้กับทะเลกรุงเทพฯ การปลูกป่าในใจคนตามรอยศาสตร์พระราชา ร่วมอนุรักษ์และการพัฒนาป่าชายเลน เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติ โดยมี นายมานะชัย  กฤตอำไพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาด เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ฯ ตลอดจนคณะครู และน้องๆ นักเรียน จากโรงเรียนคลองพิทยากรณ์ มาร่วมกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ด้วย ณ  ป่าชายเลนบางขุนเทียน กรุงเทพฯ  เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) บรรยายพิเศษ

Posted on 09 กันยายน 2020 by admin

          รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) บรรยายพิเศษในหัวข้อ “แนวทางปรับเปลี่ยนให้เป็นองค์กรดิจิทัล”  เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริหารระดับสูงทั้งจากภาครัฐและเอกชน ที่เข้าอบรมหลักสูตร  “ผู้นำการส่งเสริมดิจิทัล ด้านธุรกิจเกษตร” รุ่นที่ 2 โดยมี  ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ให้การต้อนรับในวันเสาร์ที่12 กันยายน 2563 เวลา 15.00 – 16.45 น. ณ ห้องประชุมเจ้าพระยาบอลรูม โรงแรมรามาดา บายวินแดม เจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก

Comments (0)

“ดีป้า” ปฐมนิเทศ หลักสูตรผู้นำการส่งเสริมดิจิทัลด้านธุรกิจเกษตร รุ่น 2

Posted on 31 สิงหาคม 2020 by admin

          นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมปฐมนิเทศและกิจกรรมหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมดิจิทัลด้านธุรกิจเกษตร  รุ่น 2 โดยมีอาทิ มรว.จัตุมงคล โสณกุล นายสมศักดิ์ จังตระกูล พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์  นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย  นายเสกสรรค์ จันทร์ขวาง นายกิติกร ลิมปนพงศ์เทพ  นายชวิศ ยงเห็นเจริญ นายณัฐสรณ์  ดําเนินชาญวนิชย์  นายสมัย ลี้สกุล  นางสาวอรวรรณ ติลกเรืองชัย  นายนราพัฒน์ แก้วทอง  นายเกรียงไกร วัฒนาสว่าง นางสาวศลิษา หาญพานิช  นายอาณัติ กลิ่นส่ง นางทัศนีย์ ทองมี  เป็นต้น ร่วมด้วย  ณ รร.เดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน ชลบุรี เมื่อเร็วๆนี้

พร้อมกันนี้ ยังได้มาศึกษาดูงานที่โรงงานผลิตยารังสิต1 ขององค์การเภสัชกรรม บริษัท เด็นโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด  และ Smart Farm ที่ Res Q Farm  ด้วย  ล้วนเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลอันทันสมัยและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในองค์กรตัวเอง  ซึ่งคณะผู้บริหารต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

Comments (0)

“ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า” สานต่อโครงการพระราชดำริฯนำทีมจิตสาธารณะปลูกป่าชายเลนบางขุนเทียน ร่วมอนุรักษ์และพัฒนาป่าชายเลนทะเลกรุงเทพฯ

Posted on 21 สิงหาคม 2020 by admin

ป่าชายเลนบางขุนเทียน ทะเลกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่เดียวที่มีพื้นที่ป่าชายเลนอยู่ติดกับทะเลอ่าวไทย มีแนวชายฝั่งทะเลรวมความยาวกว่า 4.7 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันบางขุนเทียนประสบปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะ ทำให้ที่ดินเดิมของชายทะเลกรุงเทพหายไปกว่า 3,000 ไร่ ซึ่งส่งผลต่อระบบนิเวศน์ แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 70 ชนิดและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ด้วย

จากปัญหาดังกล่าว กรุงเทพมหานคร ได้น้อมนำแนวพระราชดำริด้านการอนุรักษ์และพัฒนาป่าชายเลน ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลนและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในพื้นที่เขตบางขุนเทียน ด้วยการริเริ่มโครงการ “ปลูกป่าในใจคน ตามศาสตร์พระราชา” ตั้งแต่ 2559 ที่ผ่านมากรุงเทพฯได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในการสนับสนุนโครงการฯ จนถึงปัจจุบันสามารถปลูกต้นโกงกางไปแล้ว 210 ไร่ ใช้ต้นกล้าโกงกาง จำนวน 168,000 ต้น และจะส่งเสริมให้มีการปลูกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายปลูกให้ได้ 3,000 ไร่

เพื่อร่วมสืบสานพระราชดำริ โครงการ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า” โดย บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ได้ตระหนักดีถึงความสำคัญในการพัฒนาชุมชนและตอบแทนสังคม โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมงานสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่เกิดจากปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะแนวชายฝั่งทะเลกรุงเทพ ในเขตบางขุนเทียน

โดยเมื่อเร็วๆนี้ นายมานะชัย  กฤตอำไพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ กรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม  นางสาวชัญญา ยงเห็นเจริญ กรรมการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด นำทีมพนักงาน ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน โครงการ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า” เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นจิตอาสา  ร่วมแรง ร่วมใจปลูกป่าชายเลนบางขุนเทียนและคืนพื้นที่สีเขียวให้กับทะเลกรุงเทพฯ ตามรอยศาสตร์พระราชา นับเป็นการช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติ โดยได้ความร่วมมือจากจากคณะครู และน้องๆนักเรียนโรงเรียนคลองพิทยากรณ์ โรงเรียนในชุมชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตบางขุนเทียนร่วมกิจกรรมปลูกป่าฯ ในครั้งนี้ด้วย ณ ป่าชายเลนบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ  กรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “โครงการ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า” เป็นอีกหนึ่งโครงการฯ เพื่อสังคมของบริษัทที่สานต่อเจตนารมณ์และนโยบายเพื่อสังคมของบริษัท พวกเราตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเริ่มจากสังคมเล็ก ๆ ของพวกเราร่วมเป็นกิจกรรมจิตสาธารณะ ร่วมแรง ร่วมใจปลูกป่าชายเลนบางขุนเทียนและคืนพื้นที่สีเขียวให้กับทะเลกรุงเทพฯ ตามรอยศาสตร์พระราชา อันเป็นการช่วยสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนแห่งนี้ให้กลับมาเป็นทะเลกรุงเทพฯ ที่มีความสมบูรณ์และสวยงามต่อไป…

ด้าน นายมานะชัย  กฤตอำไพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พื้นที่ป่าชายเลนบางขุนเทียนเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิต โดยจัดให้มีศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนฯ เพื่อให้นักเรียน-นักศึกษา นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวและศึกษาเรียนรู้ในด้านการอนุรักษ์-พัฒนาป่าชายเลน  ตลอดจนขั้นตอนการดำเนินงานฟื้นฟูระบบนิเวศและการบำรุงรักษาทะเลกรุงเทพให้กลับคืนสู่สภาพเดิมที่มีความสมดุลของระบบนิเวศด้วย ซึ่งเรามีกิจกรรมสนุกๆกับ “ปั่น ไปปลูกป่าชายเลนบางขุนเทียน”  อีกด้วย และขอบคุณโครงการ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์น้ำ ปลูกป่า” ที่นำทีมจิตอาสามาร่วมปลูกป่าชายเลนในครั้งนี้”

สำหรับผู้สนใจ ต้องการร่วมสืบสานพระราชดำริฯ  อันดีงามและการมีส่วนร่วมอนุรักษ์และพัฒนาป่าชายเลนทะเลกรุงเทพ สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมดีๆสนุกๆได้แล้วที่ป่าชายเลนบางขุนเทียนแห่งนี้

Comments (0)

“ชลิตฯ” จับมือ มจธ. มอบรางวัลวิจัยดีเด่น “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2020”

Posted on 17 สิงหาคม 2020 by admin

การศึกษา…มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างคนให้มีความรู้ ความสามารถ และพัฒนาตนเอง มีการพัฒนาที่สมดุลทั้งสติปัญญา จิตใจ ร่างกายและสังคม ให้มีความพร้อมที่จะประกอบการงานอาชีพ รวมทั้งยังสามารถช่วยแก้ปัญหาหลายๆด้าน ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของชีวิตและภายใต้กระแสความเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้การศึกษายิ่งมีบทบาทและความจำเป็นมากขึ้นเพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในหลายๆด้านทั้งการพัฒนาตนเองและประเทศชาติต่อไป…

เพื่อสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษา บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” จึงจัดตั้งโครงการ “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2020”  (Chalit Industry Award 2020)” โดยความร่วมมือของภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เพื่อช่วยส่งเสริมและเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับน้องๆเยาวชนไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและประเทศชาติ

โดยเมื่อเร็วๆนี้ ผศ.นิธิ บุรณจันทร์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมด้วย นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ และทีมผู้บริหารบริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด มอบรางวัลวิจัยดีเด่นและใบประกาศเกียรติคุณฯ โครงการ  “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2020” โครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่นด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ประจำปี 2563 สำหรับนักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4  โดยมี รศ.ดร.บวรโชค ผู้พัฒน์  หัวหน้าศูนย์ศูนย์วิจัยและบริการวิศวกรรมการเชื่อมฯ ร่วมแสดงความยินดีฯ ณ ห้องประชุม ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ  มจธ.เมื่อเร็วๆนี้

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมสนับสนุนด้านการศึกษาเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับน้องๆ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการคณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการศึกษาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กับการเรียนรู้เสมอ เหมือนที่น้องๆได้มีการเรียนรู้ วิจัยและพัฒนาโครงงานฯอย่างสร้างสรรค์ โดยนำมาใช้ได้จริง

ทั้งนี้โครงการ “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2020”  จึงนับเป็นอีกหนึ่งโครงการฯที่ช่วยสานต่อเจตนารมณ์และนโยบายเพื่อสังคมของบริษัทฯ โดยเล็งเห็นว่า ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ฯ ได้มีความมุ่งมั่นในการสร้างบุคลากรด้านวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตฯ ให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรมการผลิตที่ดีเยี่ยมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

ทางด้าน ผศ.นิธิ บุรณจันทร์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) มีวิสัยทัศน์ที่สำคัญคือ มุ่งมั่นในการเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีบทบาทโดดเด่นด้านการวิจัย พัฒนาและเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมะกับสมกับทางเศรษฐกิจและสังคมไทย ซึ่งงานวิจัยในสาขาของภาควิชาวิศวกรรม
อุตสาหการ เป็นงานที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับภาคอุตสาหกรรมมากที่สุดสาขาหนึ่งของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งนักศึกษานับเป็นนักวิจัยคนรุ่นใหม่ที่จะนำความรู้ไปสู่การปฏิบัติและต่อยอดได้อย่างดี และเป็นเรื่องดีที่ได้มีการร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมภายนอก อย่างบริษัทชลิต อินดัสทรีฯ ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยได้โจทย์วิจัยใหม่ๆ เพื่อการวิจัยและการพัฒนาต่อไปที่เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมจริงๆ

ทั้งนี้ โครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่นด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ประจำปี 2563 ที่ได้รับรางวัล ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2020 ประกอบด้วย 4  โครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่นด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ทางด้านต่างๆ ได้แก่

1.) ด้านเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ เกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพของเนื้อโลหะเชื่อมในวัสดุอลูมิเนียมผสมโดยใช้กระบวนการเชื่อมแบบผสมของกระบวนการเชื่อมอาร์กโลหะแกสคลุมและกระบวนการเชื่อมอาร์กทังสเตนแกสคลุม โดยนางสาววรรณรัตน์  สุขเกษมทรัพย์,นางสาวศุภนิดา พรหมมา และนายพิชชากร เจียนระลึก

2.) ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีComputer vision และ Machine Learning ซึ่งเป็นการศึกษาการใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์และการเรียนรู้จักรกลในงานตรวจสอบงานเชื่อมต้านทานแบบจุด โดย นายวัชนันท์ พิริยบรรเจิด, นางสาวธัญญารัตน์  สาคำไมย์ และนายรุ่งโรจน์  แก้วศรี

3.) ด้านการเพิ่มผลผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มผลผลิตของกระบวนการผลิตชิ้นส่วน Shaft ใน อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยนางสาวสุณัฐชา หนูแก้ว และนางสาวปฐมธร ขำวงศ์

4.) ด้านการพัฒนาอุปกรณ์ทดสอบในอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นการใช้เครื่องทดสอบโช๊คอัพในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยนายพิสิษฐ์ ทองใส,นายวิศิษฐ์ บุญพรม และนางสาวณัฏฐริดา บุทธยักษ์

ทั้งนี้ โครงการ “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2020 (Chalit Industry Award 2020)” เป็นต้นแบบของรางวัล และเป็นกำลังใจอีกทางหนึ่ง ซึ่งคาดว่านักศึกษาเหล่านี้จะนำผลงานไปพัฒนาและต่อยอดความรู้ ความสามารถที่จะเป็นประโยชน์ต่อไป….

Comments (0)

อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ต้อนรับคณะผู้บริหาร ดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่3 ดีป้า มาดูงาน

Posted on 17 สิงหาคม 2020 by admin

      ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดิจิทัล ซีอีโอ) รุ่นที่ 3 ดีป้า อาทิ นายกษาปณ์ เงินรวง นพ.ณรงค์ ธาดาเดช นพ.สินชัย ต่อวัฒนกิจกุล นายเกริกกุล โกกนุทาภรณ์ ดร.น้องนุช เหล่ามณีรัตนาภรณ์ นายยู่สิน จินตภากร นายคมสัน จำรูญพงษ์ นายเฉลิม ประดิษฐอาชีพ  ดร.นพ.ตุลวรรธน์ พัชราภา นายเผด็จ เจริญศิวกรณ์ นายบัณฑิต อัมพรศรีสุภาพ นายปฐมภพ สุวรรณศิรินายเผด็จ เจริญศิวกรณ์ นายพิศุทธิ์ อารีมิตร นางสาวศิรินทรา จงพิพัฒนสุข ดร.อลิสา คงทน เป็นต้น  มาศึกษาดูงาน นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลของอะเมซอนและการประยุกต์ใช้ ซึ่งคณะผู้บริหารต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก  ณ บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด  เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

คณะผู้บริหาร ดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่3 ศึกษาดูงาน บจ.เครดิตแห่งชาติ

Posted on 10 สิงหาคม 2020 by admin

          ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) นำคณะผู้บริหารที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร ผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 3 กว่า 80 คน อาทิ นพ.ณรงค์ ธาดาเดช นายมงคล วัลยะเสวี นายบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธ์ โดยมี นายเผด็จ เจริญศิวกรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ บจ.ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ให้การต้อนรับ เพื่อศึกษาดูงาน บจ.ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในองค์กร ณ MS Siam Tower ถนนพระราม3 เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ เปิดหลักสูตร “ผู้นำการส่งเสริมดิจิทัลด้านธุรกิจเกษตร” รุ่นที่ 2

Posted on 08 สิงหาคม 2020 by admin

          นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดอบรมหลักสูตร “ผู้นำการส่งเสริมดิจิทัล ด้านธุรกิจเกษตร” รุ่นที่2 พร้อมบรรยายพิเศษหัวข้อ Thailand Digital Society after COVID-19 pandemic ให้ผู้บริหารระดับสูงภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้บริหารรับมือหลังวิกฤติโควิด-19 โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ให้การต้อนรับ ในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 เวลา 11.00 น.  ณ ห้องประชุมชั้น 5 อาคารลาดพร้าวฮิลล์ ถ.ลาดพร้าว

Comments (0)

“ชลิตฯ” มอบรางวัล วิจัยดีเด่น “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด2020”

Posted on 17 กรกฎาคม 2020 by admin

          ผศ.นิธิ บุรณจันทร์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมด้วย นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ และทีมผู้บริหาร บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ “POP” มอบรางวัลวิจัยดีเด่นและใบประกาศเกียรติคุณฯโครงการ  “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2020” โครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่นด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ประจำปี 2563 สำหรับนักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ  คณะวิศวกรรมศาสตร์  เพื่อส่งเสริมและเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทย โดยมี รศ.ดร.บวรโชค ผู้พัฒน์  หัวหน้าศูนย์ศูนย์วิจัยและบริการวิศวกรรมการเชื่อมฯ ร่วมแสดงความยินดี ณ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ  มจธ.เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

“แอดวานซ์ โซลูชั่นฯ” เปิดตัวนวัตกรรมใหม่! เครื่องออกกำลังกายอัจฉริยะ “HUR 5X Multifunction” ชูจุดเด่นด้วยระบบดิจิตอล ปลอดภัยสูง-ลดการบาดเจ็บ รับสังคมสูงวัย

Posted on 15 กรกฎาคม 2020 by admin

          “แอดวานซ์ โซลูชั่นฯ” เปิดตัว นวัตกรรมใหม่! เครื่องออกกำลังกาย จากประเทศฟินแลนด์ “เครื่องออกกำลังกายอัจฉริยะ HUR 5X Multifunction” ชูจุดเด่นด้วยระบบดิจิตอล และเป็นเทคโนโลยี แรงต้านที่เกิดจากลม (Pneumatic Resistance) ซึ่งเป็นระบบ Natural Transmission โดยผู้เล่นจะใช้แรงและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกาย ที่จะทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ  และมีความปลอดภัย ช่วยลดการ กระแทก การบาดเจ็บ หรือการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ หรือกระดูก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย สามารถออกกำลังกายได้5รูปแบบในเครื่องเดียวกัน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ถึง 9 ส่วน

          นายสุนทร ทองมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ โซลูชั่น เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและเครื่องออกกำลังกายเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างรวดเร็วและรุนแรง ข้อมูลปี  2562 จากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พ.ม. เผยว่าไทยมีประชากรอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปกว่า 11 ล้านคน โดยในปี 2564  จะมีประชากรสูงวัย 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด หรือ 20% ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้คาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2570 ประเทศไทยจะมีวัยแรงงานลดจำนวนลงเหลือ 61% คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ แม้คนไทยจะมีอายุยืนยาวขึ้น แต่พบว่ามีเพียง 5% เท่านั้นที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ในอนาคตจะพบเห็นผู้สูงอายุนั่งรถเข็น และใช้เปลนอนในโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ ที่น่าสนใจคือ ผู้สูงอายุมักประสบอุบัติเหตุภายในบ้าน และสถานที่ที่ผู้สูงอายุไปทำกิจกรรมบ่อยๆ อุบัติเหตุในผู้สูงอายุมักเกิดจากสภาพร่างกายที่มีแขนขาอ่อนแรง สายตาฝ้าฟาง และสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวย มีงานวิจัยพบว่า 10 ปีสุดท้ายในชีวิตของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ มักอยู่ในภาวะพึ่งพา ไม่สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ สิ่งที่ควรทำคือ ยืดเวลาในช่วงเวลาของการมีสุขภาพดีให้ยาวออกไปได้มากที่สุด และลดช่วงภาวะพึ่งพาให้น้อยที่สุด

การฟื้นฟูอาการป่วยไข้ และส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหรือกระดูกสำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ที่ต้องการการฟื้นฟูของกล้ามเนื้อหรือข้อกระดูก ด้วยชุดอุปกรณ์การออกกำลังกายซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการฟื้นฟู และเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ ซึ่งมีความเหมาะสมและมีความปลอดภัยสูงสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย ที่ต้องการการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและข้อกระดูกเป็นพิเศษ  และจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือการฉีกขาดของกล้ามเนื้อหรือกระดูกของผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย  และเป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย ได้มีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น และลดการที่จะต้องพึ่งพาผู้อื่นที่จะคอยให้การช่วยเหลือ จากการเดิน การนั่ง หรือทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงไม่เสี่ยงต่อการหกล้มหรือเกิดโรคต่าง ๆได้ง่าย  ซึ่งจะทำให้ครอบครัวสามารถลดหรือประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการต้องเข้ารักษาตัว อันเนื่องมาจากการเกิดอุบัติเหตุ จากการหกล้ม ของผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย ในแต่ละปีได้ไม่น้อย รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชนให้ความสำคัญและใส่ใจต่อการดูแลสุขภาพที่ดี เพื่อเป็นสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ มีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาวมากขึ้น

ด้วยเหตุผลดังกล่าว บริษัทฯ จึงแสวงหาและนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ เครื่องออกกำลังกาย “HUR 5X Multifunction” ด้วยระบบดิจิตอล HUR จากประเทศฟินแลนด์ ทำงานด้วยระบบดิจิตอล โดยใช้แรงต้านที่เกิดจากลม (Pneumatic Resistance) ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นใช้แรงและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ (Natural Transmission) ทำให้มีความปลอดภัยสูงสำหรับผู้เล่น และช่วยลดการกระแทก การบาดเจ็บ หรือการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ และกระดูกได้  โดยคุณสมบัติพิเศษของเครื่องออกกำลังกาย HUR เป็นอุปกรณ์สำหรับการออกกำลังกายที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเสริมสร้าง ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย หรือบำบัดให้กล้ามเนื้อ ข้อกระดูกแข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องออกกำลังกายอัจฉริยะ HUR ทำงานด้วยระบบดิจิตอลหน้าจอแบบทัชสกรีนทำให้ง่ายต่อการควบคุมการทำงาน การปรับที่นั่ง ปรับน้ำหนัก ผู้เล่นสามารถทำได้เองโดยอัตโนมัติ โดยทุกการออกกำลังกาย ระบบจะทำการเก็บบันทึกทุกกิจกรรมของผู้เล่น เพื่อประมวลผล วิเคราะห์ และออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม ให้สัมพันธ์กับอายุ มวลกล้ามเนื้อ เพื่อให้เหมาะสม และปลอดภัยกับแต่ละบุคคล เครื่องออกกำลังกาย HUR จึงเป็นเครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสม และปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย รวมถึงรองรับผู้ใช้วีลแชร์ ให้สามารถใช้เครื่องในการออกกำลังกาย บริหารร่างกายให้มีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรง ช่วยฟื้นฟู หรือบำบัดให้หายจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น ช่วยสร้างความแข็งแรง ให้การทำงานของกล้ามเนื้อ,  การเคลื่อนไหวของข้อต่อ, หัวใจ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          นายสุนทร กล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องออกกำลังกายอัจฉริยะ HUR 5X Multifunction นี้สามารถใช้ออกกำลังกายได้ถึง 5 รูปแบบในเครื่องเดียวกัน สามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ถึง 9 ส่วน ดังนี้…

1. เสริมสร้างกล้ามเนื้อต้นขาให้มีความแข็งแรง เพื่อช่วยในเรื่องการทรงตัว การยืน การเดิน การขึ้นลงบันได การลุกนั่ง ให้มีความมั่นคง ช่วยลดความเสี่ยงในการหกล้มของผู้สูงอายุ

2. ช่วยฟื้นฟู บำบัด ให้กับผู้สูงวัย ช่วยเพิ่มองศาในการงอ และเหยียดเข่าให้สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มช่วงมากขึ้น และชะลอความเสื่อมของข้อเข่า ช่วยลดอาการปวดข้อเข่าได้

3. เสริมสร้างกล้ามเนื้อแขน และไหล่ให้แข็งแรง เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันดีขึ้น เช่น การถือของ ยกของ ยันตัว ขยับตัว ผลักหรือดันสิ่งของ ผู้สูงอายุสามารถทำได้ด้วยตัวเอง

4. เสริมสร้างให้มีกำลังแขนที่แข็งแรง ทำให้การยึดจับของผู้สูงอายุทำได้ดียิ่งขึ้น ช่วยป้องกันการบาดเจ็บ หรือลดการบาดเจ็บจากการหกล้มได้

5. เสริมสร้างกล้ามเนื้อต้นแขน และหน้าอก ให้กระชับ ไม่หย่อนคล้อย และช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อจากการมีพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม และลดอาการหลังค่อม ไหล่ห่อ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Website : www.asgwellness.com โทรศัพท์ 02-898-4534-5 หรือ Line: @asgwellness Email : sales@asgwellness.com

Comments (0)

กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศในโรงพยาบาลกว่า 20 แห่ง

Posted on 12 กรกฎาคม 2020 by admin

ดังที่ทราบกันอยู่แล้วว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเสียสละบำเพ็ญพระกรณียกิจในด้านสังคมสงเคราะห์ โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อมุ่งช่วยเหลือพสกนิกรผู้ตกทุกข์ได้ยากมาเป็นเวลายาวนาน ทรงลงพื้นที่เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบความเดือดร้อน ทรงประทานทรัพย์ ส่วนพระองค์ให้ไว้แก่โครงการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับปัญหาผู้หญิงและเด็ก ซึ่งทรงห่วงใยเป็นอย่างยิ่งเสมอมา ทรงรับโครงการสำคัญๆ ไว้ในพระอุปถัมภ์หลายโครงการด้วยกัน อาทิ โครงการ “ช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก” “กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์” “กองทุนพระวรราชาทินัดดามาตุ เพื่อช่วยลดการติดเอดส์จากแม่ลูก” “กองทุนนมสำหรับเด็กในโครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก” และ “โครงการคืนชีวิตให้พ่อแม่เพื่อลูกน้อยที่ติดเอดส์” นอกจากนี้ยังทรงเป็นนายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพของ “มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย” ทรงมีความสัมพันธ์อันดีกับ “มูลนิธิเด็กโลก” ส่งผลให้ความช่วยเหลือในด้านที่เกี่ยวกับเด็กหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทย

          ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง เลขาธิการ กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เปิดเผยว่า เมื่อมูลนิธิคุณแม่คุณภาพได้ก่อตั้งกองทุนเพื่อหารายได้ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ  ทางมูลนิธิฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จมาเปิดกองทุนนี้ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2544 และได้ทรงประทานเงินส่วนพระองค์ จำนวน ๑ ล้านบาท สำหรับเป็นงบตั้งต้นของกองทุน และทรงประทานชื่อกองทุนนี้ว่า “กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ” โดยมีพระดำริว่าอยากที่จะสนับสนุนช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทรงมีรับสั่งว่าเมื่อจัดตั้งกองทุนนี้แล้ว มิใช่เพื่อโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง เพราะฉะนั้นเงินที่ได้มาทางกองทุนฯ จึงกระจายไปทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศที่ขอความช่วยเหลือเข้ามา และในปัจจุบันนี้มีโรงพยาบาลกว่า ๒๐ แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง โรงพยาบาลศูนย์พิษณุโลก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลศรีสะเกษ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ เป็นต้น ซึ่งทางกองทุนฯ ได้ให้เงินสนับสนุนโรงพยาบาลต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการปลูกถ่ายไขกระดูกจนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนกว่า ๒๐๐ ราย นอกจากนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ทางกองทุนฯ ได้เพิ่มความช่วยเหลือค่ายาที่จำเป็นให้โรงพยาบาลในเครือข่ายในการรักษาโรคมะเร็งต่อมหมวกไตในเด็กซึ่งเป็นโรครักษายากอีกด้วย นอกจากนี้ในปี ๒๕๖๐ และ ๒๕๖๑ ได้ทรงประทานเงินส่วนพระองค์ อีกปีละจำนวน หนึ่งล้านบาท ล่าสุดเมิ่อ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๒ ได้ประทานพระอนุญาตแก้ไขชื่อกองทุนฯ เป็น กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ”

ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กซึ่งอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง ๑๕ ปี มีอุบัติการณ์ในแต่ละปีประมาณ ๑,๐๐๐ รายและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นต้นเหตุ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูว่าดีหรือไม่ดี หากจะมีเพียงร้อยละ ๑-๓ เท่านั้นที่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ เช่น โรคมะเร็งจอภาพตาของนัยน์ตา ในขณะนี้พบว่าเด็กเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวมากที่สุด ร้อยละ ๓๐ รองลงมาคือมะเร็งเนื้องอกในสมอง ร้อยละ ๒๐ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ร้อยละ ๑๕ มะเร็งต่อมหมวกไต ร้อยละ ๑๐ ส่วนมะเร็งไต มะเร็งกระดูกและกล้ามเนื้อลาย มะเร็งตับ มะเร็งลูกนัยน์ตา และโรคมะเร็งอื่นๆ พบในสัดส่วนที่เท่ากัน คือร้อยละ ๕

รูปแบบในการให้ความช่วยเหลือของกองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ คือช่วยค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษา รวมทั้งค่ายา ค่าเดินทางมาตรวจรักษา ค่าที่พัก ตลอดจนเวชภัณฑ์ต่างๆ รวมไปถึงการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายที่สูง เช่น การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต โดยในแต่ละปีทางกองทุนฯ ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยดังกล่าวผ่านทางแพทย์ที่ทำการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด จากความช่วยเหลือของกองทุนฯทำให้อัตราการรอดชีวิตแล้วหายขาดจากโรคมีจำนวนมากขึ้น จนกล่าวได้ว่าผู้ป่วยมะเร็งเด็กมีโอกาสหายขาดจากโรคได้ถึงร้อยละ ๘๐ ในปัจจุบัน

ขณะเดียวกันทางกองทุนฯ ยังได้สนับสนุนให้กลุ่มแพทย์ที่เชี่ยวชาญโรคมะเร็งในเด็กได้ทำการวิจัยอีกด้วย นั่นคือ ได้มอบเงินให้กับชมรมโรคมะเร็งในเด็กตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้ทำการวิจัยในการรักษาโรคมะเร็งต่อมหมวกไตในระยะลุกลามให้มีโอกาสหายขาดมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันชมรมโรคมะเร็งในเด็กมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดเป็นจำนวนกว่า ๒๐ แห่งด้วยกัน จากความช่วยเหลือของกองทุนฯ ทำให้เด็กที่เป็นมะเร็งมีโอกาสหายขาดมากขึ้นแล้วยังทำให้วงการแพทย์ไทยมีโอกาสทำกาวิจัยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศอีกด้วย

นอกจากการรักษาโรคมะเร็งในเด็กให้หายขาดมากขึ้นแล้ว ทางกองทุนฯ ยังได้ช่วยเหลือให้เด็กมีโอกาสทุพพลภาพน้อยลง เช่น ได้มอบเงินค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์แขนขาโลหะที่ใช้แทนกระดูกที่เป็นมะเร็งที่ถูกตัดออก ทำให้เด็กไม่ต้องถูกตัดแขนขาออกไป

สำหรับค่าเดินทางก็มีความสำคัญมาก ในคนไข้เด็กบางรายหยุดการรักษาไปเฉยๆ เพราะว่าพ่อแม่ไม่มีค่าเดินทางมาโรงพยาบาล และอีกประการหนึ่ง ซึ่งสำคัญยิ่งกว่า คือค่าเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก สำหรับคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว เพราะค่าเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกรวมถึงค่ารักษาพยาบาลต่างๆ จะมีประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อราย ฉะนั้นกองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ ก็จะช่วยสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายนี้ด้วย ที่ผ่านมามีกว่า ๒๐ โรงพยาบาลที่ทางกองทุนฯได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว เนื่องจาก ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ของเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งทางบ้านมีฐานะยากจน บางคนอย่าว่าแต่ค่าบำบัดรักษาเลย ค่าเดินทางก็ยังไม่มี เราก็ต้องออกค่าเดินทางให้เขาด้วยและยาบางตัวที่โครงการ ๓๐ บาทไม่ครอบคลุม แต่เป็นยาที่มีความจำเป็นกับคนไข้ กองทุนฯ ช่วยเหลือสนับสนุน

นับตั้งแต่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงรับกองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ ไว้ในพระอุปถัมภ์จวบจนปัจจุบันเป็นเวลากว่า ๑๙ ปีแล้ว ที่ทรงมีพระเมตตาช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ และยังทรงมีพระดำรัสห่วงใยในสถานการณ์ของภาวะโรคมะเร็งในเด็ก ซึ่งยังมีอัตราสูงทุกปี ถึงแม้ว่าความก้าวหน้าทางการรักษาจะพัฒนาไปมากขึ้นกว่าเดิม กล่าวได้ว่า กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ มีคุณูปการอันสูงยิ่งต่อวงการแพทย์ นอกจากช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ยากไร้แล้ว ยังถือเป็นกองทุนตั้งต้น สำหรับงานศึกษาวิจัยเพื่อความก้าวหน้าทางการรักษาต่อไปในอนาคต

          13 กรกฎาคม นี้ ตรงกับวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ  ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนานและขอถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน

Comments (0)

วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

Posted on 10 กรกฎาคม 2020 by admin

          สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ ให้ผู้แทนองค์กรต่างๆเข้าเฝ้าถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ในวันจันทร์ที่  13 ก.ค. เวลา 14.00 น. ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรดา

Comments (0)

ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา นวัตกรรมและวิจัย (อว.) บรรยายพิเศษ

Posted on 10 กรกฎาคม 2020 by admin

          รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา นวัตกรรมและวิจัย (อว.) บรรยายพิเศษ เรื่อง เปลี่ยนอย่างไรให้เป็นองค์กรดิจิทัล (Smart Organization : Government & Private)  ให้กับผู้บริหารระดับสูงทั้งจากภาครัฐและเอกชน จำนวน 83 คนที่เข้าอบรมหลักสูตร “ผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล” (Digital CEO) รุ่นที่3   โดยมี รศ.นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ นายคมสัน จำรูญพงษ์ นายศักดา เด่นแดนโดม นายรัชพล วงศ์สถิตย์พร นายสุวิทัศท์ สุรสิงห์โตทอง นพ.ณรงค์ ธาดาเดช นายพิศุทธิ์ อารีมิตร   ให้การต้อนรับ ณ พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ  (อพวช.) คลองห้า จ.ปทุมธานี เมื่อเร็วๆนี้ (07 มีนาคม 2563)

Comments (0)

“ชลิต อินดัสทรีฯ” ส่ง “ยางเพลากลาง” เจาะตลาด ชูจุดเด่นประสิทธิภาพลดแรงสั่นสะเทือน-เสียงรบกวนฯ

Posted on 08 กรกฎาคม 2020 by admin

           ชลิต อินดัสทรีฯ ส่ง “ยางเพลากลาง หรือ ตุ๊กตาเพลากลาง” เจาะตลาดในกลุ่มสินค้าประเภทอะไหล่ทดแทน ชูจุดเด่นประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อาทิ ลดแรงสั่นสะเทือน ลดเสียงรบกวน และช่วยยืดอายุการใช้งานเพลาคู่หน้าให้ยาวนานยิ่งขึ้น เป็นตัวช่วยสำคัญให้สมรรถนะการขับขี่ของระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

           นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ และอะไหล่ยางสำหรับใช้ในรถยนต์ภายใต้แบรนด์ “POP” เปิดเผยว่า “ยางเพลากลางหรือตุ๊กตาเพลากลาง” เป็นอุปกรณ์มาตรฐานติดในรถยนต์ประเภทรถบรรทุกขนาดเล็ก เช่น รถกระบะ ปิ๊กอัพ ไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ จำพวก รถหกล้อ รถสิบล้อ รองรับน้ำหนักของเพลากลาง มีบุชยางหุ้มลูกปืน ส่วนปลายด้านหนึ่งของเพลากลางสวมอยู่ และติดตั้งยึดติดกับตัวถังรถยนต์ และเพลากลางถูกแยกออกเป็น 2 ท่อน ทำให้บุชยางดูดซับการสั่นสะเทือน และเสียงดังที่เกิดกับตัวถังรถที่มีความเร็วรอบสูงและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นยางเพลากลางจึงมีความสำคัญ เพราะเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างกะปุกเกียร์ ที่ติดตั้งอยู่บนแชสซีส์กับเฟืองท้ายเพลาขับ โดยตำแหน่งของชุดเฟืองท้ายจะเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงสัมพันธ์กับกระปุกเกียร์ และรองรับด้วยระบบช่วงล่างของรถ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับภาระการบรรทุกของตัวรถ และสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และการบรรทุกของรถ

บริษัท ชลิตฯ จึงสบโอกาสส่ง “ยางเพลากลางหรือตุ๊กตาเพลากลาง”  เจาะตลาดในกลุ่มสินค้าประเภทอะไหล่ทดแทน ด้วยจุดเด่นผลิตจากยางที่มีความยืดหยุ่นสูง และมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่ายางเพลากลางที่เป็นอะไหล่ทดแทนทั่วไป ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน ลดเสียงรบกวน และช่วยยืดอายุการใช้งานเพลาคู่หลังให้ยาวนานยิ่งขึ้น ทำให้สมรรถนะการขับขี่ของระบบขับเคลื่อนล้อหลังที่มีการออกแบบการขับเคลื่อน หรือระบบส่งถ่ายกำลัง จึงเป็นทางเลือกที่ดีของผู้ใช้รถยนต์

 “สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์หรือรถบรรทุกที่ทำตลาดอยู่ในเมืองไทย ตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหลัง จำเป็นต้องดูแลเพลาคู่หลังเป็นพิเศษ สืบเนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดแรงม้า-แรงบิดโดยตรง ดังนั้นการเลือกใช้ยางเพลากลางที่มีคุณภาพ จะช่วยยืดอายุการใช้งานเพลาคู่หลังให้ยาวนานขึ้น และยังช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จึงนับเป็นทางเลือกที่ดีของผู้บริโภค ตามสโลแกนของบริษัทที่กล่าวว่า “อะไหล่ยางให้ POP เป็นผู้ดูแล”นายชวิศ กล่าวในท้ายสุด

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเรื่อง “ยางเพลากลาง” หรือ “ตุ๊กตาเพลากลาง” ภายใต้แบรนด์  “POP” ได้แล้วที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำใกล้บ้าน หรือสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายคลิกเว็บไซต์ www.chalitindustry.com

Comments (0)

ข่าวด่วนครับ

Posted on 30 มิถุนายน 2020 by admin

ขอแสดงความเสียใจกับ ครอบครัว ภญ.สุภาพร ติพพะมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ องค์การเภสัชกรรมฯ ที่สูญเสียมารดา นางม่วย แซ่โค้ว กำหนดสวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 27 มิ.ย.-1 กค. เวลา 18.00 น. ณ ศาลา 1

วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และ ฌาปนกิจ วันที่ 2 กค. เวลา 17.00 น.

Comments (0)

คณะผู้บริหาร ดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่3 ศึกษาดูงานไมโครซอฟท์

Posted on 26 มิถุนายน 2020 by admin

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ  คณะผู้บริหารที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร ผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 3 กว่า 80 คน อาทิ นายปวิช ใจชื่น นายประวิทย์ ธงชัยระวีวัฒน์ นายสุวิทัศท์ สุรสิงห์โตทอง นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ นางวราวรรณ  ธนะกิจรุ่งเรือง นายรัชพล วงศ์สถิตย์พร  เพื่อศึกษาดูงาน บริษัท ไมโครซอฟท์ฯ  ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในองค์กรตัวเอง ซึ่งคณะผู้บริหารต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก  ณ บริษัท ไมโครซอฟท์ ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

พิธีบำเพ็ญกุศลออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ

Posted on 19 มิถุนายน 2020 by admin

พิธีบำเพ็ญกุศลออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง อดีตเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม วรวิหาร ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร วันที่ ๒๖ – ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๓

– วันศุกร์ ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓

เวลา ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์ ๑ รูป สวดพระพุทธมนต์ ถวายพระธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ พระ ๔ รูปสวดธรรรมคาถา พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมณ ศาลาปฏิบัติธรรมสมเด็จพระพุทธชินวงศ์สภา วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

– วันเสาร์ ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๓

เวลา ๑๐.๐๐ น. พระสงฆ์ ๑๐ รูป ถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน และบังสุกุล

เวลา ๑๓๐๐ น. เชิญโกศศพไปยังเมรุหลวงวัดเทพศิรินทราวาส

เวลา ๑๗.๐๐ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์

– วันอาทิตย์ ที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๓

เวลา ๐๗.๐๐ น. พระราชทานผ้าไตร และภัตตาหารสามหาบในการเก็บอัฐิ

Comments (0)

การศึกษานิวซีแลนด์ มอบทุนพัฒนาเด็กวิทย์ฯของไทย ส่งเสริมสู่เวทีนักวิจัยโลกต่อยอดอาชีพฮิต “Data Scientist”

Posted on 12 มิถุนายน 2020 by admin

เพื่อเสริมสร้างโอกาสและต่อยอดสู่อาชีพฮิตให้กับน้องๆเยาวชนไทย การศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จัดโครงการส่งเสริมและเติมเต็มศักยภาพทักษะภาษาอังกฤษให้กับเด็กสายวิทย์ของไทย ช่วยเพิ่มโอกาสเข้ามหาวิทยาลัยดัง และก้าวสู่เวทีนักวิจัยระดับโลก โดยหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ ได้มอบทุนการศึกษาให้กับน้องๆนักเรียนจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย มูลค่า 390,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินฟรี กรุงเทพ-สิงคโปร์-โอ๊คแลนด์ จากสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อให้น้องๆไปศึกษาหลักสูตรการพัฒนาภาษาอังกฤษที่ศูนย์ภาษา มหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ในช่วงปลายปีนี้ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้น้องๆได้เข้าไปศึกษาดูงานที่ศูนย์การวิจัยของมหาวิทยาลัยโอทาโก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านการแพทย์ทางด้านวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ และทางด้านวิจัยเทคโนโลยี อีกด้วย

นักเรียนทุนดีเด่นที่ได้รับทุนประจำปี 2563 นี้ มี 6 คน จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยจากจังหวัดต่างๆ ได้แก่ 1.นายวสุพล มูลมณี (เชียงราย) 2. นางสาวภามินี ดำละเอียด (สตูล) 3.นางสาววรรษชล รจิรดำรงชัย (ลพบุรี) 4.นายมิ่งศิริ มิ่งศรีตระกูล (ปทุมธานี) 5.นางสาววิริญญา กองศรี (พิษณุโลก) และ 6.นางสาวสุดารันต์ สกุลศรี (เลย) โดยมี มร.ทาฮา แมคเฟอร์สัน เอกอัคราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นผู้มอบทุน ร่วมด้วย นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้จัดการตลาด หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย  ดร.โกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย และ นายภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน สำนักบริหารความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ  ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

          ดร.โกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เปิดเผยว่า เป้าหมายของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ต้องการที่จะพัฒนานักเรียนให้ไปศึกษาต่อในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในระดับมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอยากให้น้องๆประสบความสำเร็จไปถึงระดับปริญญาเอก เพื่อจบออกมาเป็นนักวิจัยสำหรับพัฒนาประเทศ ซึ่งประเทศไทยยังต้องการนักวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่อีกมาก โดยนักเรียนของเราได้รับการยอมรับความสามารถทางด้านวิชาการ จะเห็นว่ามีมหาวิทยาลัยของโลกหลายแห่ง เสนอที่จะให้ทุนนักเรียนเราไปศึกษาต่อทั้งในระดับปริญญาตรี  ป.โท และป.เอก เพียงแต่นักเรียนของเราต้องมีความสามารถภาษาอังกฤษในระดับที่กำหนดไว้คือต้องสอบ IELTS (International English Language Testing System) ให้ได้คะแนนสูงตามเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศกำหนดไว้คือขั้นต่ำต้องได้ 6.5 หรือ 7.0 ทำให้นักเรียนของเราอาจจะมีข้อจำกัดทางด้านภาษาอังกฤษอยู่บ้าง เพราะเราเป็นโรงเรียนที่มุ่งเน้นความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ การรับนักเรียนจึงไม่ได้ทดสอบภาษาอังกฤษเป็นตัวชี้วัด เพื่อให้นักเรียนในต่างจังหวัดมีความเท่าเทียมกัน

ต้องขอขอบคุณ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ที่ได้ให้สนับสนุนและมอบทุนให้กับนักเรียนของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ไปพัฒนาภาษาอังกฤษที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 3 ของประเทศที่เตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคตที่ดีที่สุดในโลก โดยได้รับการจัดอันดับเป็น 1 จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักจากการจัดอันดับของ Worldwide Educating for the Future Index 2018 โดย The Economist Intelligence อีกด้วย และปีนี้เป็นการมอบทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว จะช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนของเราสามารถสอบ IELTS ได้คะแนนสูงขึ้น นักเรียนก็จะสามารถได้ทุนไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ กลับมาทำประโยชน์ในเป้าหมายของประเทศไทยต่อไป

          นายภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน กล่าวเสริมว่า นักเรียนทุนในโครงการนี้ คัดเลือกจากนักเรียนที่มีผลการเรียนด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ GPA 3.75 ในแต่ละวิชา มีทักษะพื้นฐานภาษาอังกฤษดี และต้องมีพันธะสัญญาพื้นฐานว่า เด็กที่เข้าโครงการนี้ ต้องมีความเข้าใจและมีความสนใจ ที่จะเรียนต่อทางด้านสายวิทยาศาสตร์ การวิจัย วิศวกรรมเทคโนโลยี ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย  เราจึงทำโครงการนี้ร่วมกับการศึกษานิวซีแลนด์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเติมเต็มศักยภาพทักษะภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ช่วยเพิ่มโอกาสให้เด็กสอบ IELTS ให้ได้ตามมาตรฐาน และสามารถเข้าเรียนในสาขาวิชาชีพที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดงานและผลตอบแทนสูงไม่ว่าจะเป็น ทางด้าน Data Scientist หรือทางด้านวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ(Data health Science) หรือทางด้านเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ต่างๆ

Comments (0)

เรื่องล่าสุด