หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์เผยนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติให้ความสนใจเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยหลังจากเปิดประเทศ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้นกว่า 25%
![DSC_4122_resize_resize](http://www.deedeenews.com/wp-content/uploads/2022/11/DSC_4122_resize_resize.jpg)
นิวซีแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษาอันดับต้นๆของโลก และเป็นเป้าหมายทางการศึกษาของนักเรียนไทยและนักเรียนนานาชาติจากทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ เพราะด้วยจุดเด่นของระบบการศึกษานิวซีแลนด์ที่เปิดกว้างทางการศึกษา มีมาตรฐานติดอันดับโลก ทำงานได้ระหว่างเรียนและหลังจบการศึกษายังสามารถต่อวีซ่าทำงานหลังเรียนจบได้สูงสุดถึง 3 ปี อีกทั้งยังได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่มีความปลอดภัย ผู้คนเป็นมิตร สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การศึกษา โดยล่าสุด นิวซีแลนด์ได้จัดอันดับเป็น “ประเทศที่มีความปลอดภัยเป็นอันดับที่ 2 ของโลก” จากการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ประจำปี 2022 ของ CS Global Partners
นอกจากนี้ การศึกษาของนิวซีแลนด์ ยังมีความโดดเด่นทางด้านหลักสูตรเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานโลก และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น หลักสูตรการพัฒนาเอไอ (AI), หลักสูตรการสร้างเกมส์ เทคโนโลยีแฟชั่นดิจิทัล (Digital Fashion Technology) ออกแบบเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital and Design) วิทยาศาสตร์สุขภาพด้านสุขภาพดิจิทัล (Health Sciences in Digital Health), นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) และ การตลาดดิจิทัล (Digital Ubiquitous Marketing)
![DSC_4032_resize_resize](http://www.deedeenews.com/wp-content/uploads/2022/11/DSC_4032_resize_resize.jpg)
นายกรานท์ แมคเฟอร์สัน (Mr. Grant McPherson) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ประเทศนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ตลาดการศึกษานานาชาติในภูมิภาคเอเชียมีศักยภาพการเติบโตสูง โดยประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของนิวซีแลนด์ในการดึงดูดนักเรียนต่างชาติให้มาศึกษาในประเทศในนิวซีแลนด์ 5 อันดับประเทศในทวีปเอเชียที่ส่งนักเรียนไปศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์ ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, เวียดนาม และ ไทย อยู่อันดับ 5
โดยจากข้อมูลเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 มีจำนวนนักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่านักเรียน (ที่ยังไม่หมดอายุ) ในประเทศนิวซีแลนด์ จำนวนทั้งสิ้น 16,959 คน จากทั้งหมด 126 ประเทศ ในจำนวนนี้ มีนักเรียนไทย 840 คน
จากข้อมูลของหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันมีนักเรียนไทยให้ความสนใจลงทะเบียนไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นกว่า 25% เมื่อเทียบกับจำนวนนักเรียนไทยที่ถือวีซ่านักเรียน (ที่ยังไม่หมดอายุ) ในประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงเดือนกรกฏาคม พ.ศ.2565 และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังจากการเปิดประเทศของนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนักเรียนไทยส่วนใหญ่กว่า 47% ที่ลงทะเบียนไปเรียนที่นิวซีแลนด์นั้นไปเรียนในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นระดับการศึกษาที่นักเรียนไทยสนใจไปเรียนต่อนิวซีแลนด์มากที่สุด รองลงมาคือ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ และระดับอุดมศึกษา
ทั้งนี้ การศึกษานิวซีแลนด์ได้มุ่งส่งเสริมความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างประเทศ และเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาของไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับโรงเรียน (ระดับมัธยมศึกษา) และระดับอุดมศึกษา ร่วมกับสถาบันการศึกษาของไทยทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ โครงการความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) และมหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเตรียมความพร้อมปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์ (Business Foundation Studies Programme) เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนไทยสามารถต่อปริญญาตรีแบบไฮบริดกับมหาวิทยาลัยระดับโลกของนิวซีแลนด์
![DSC_4111_resize_resize](http://www.deedeenews.com/wp-content/uploads/2022/11/DSC_4111_resize_resize.jpg)
รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) เปิดเผยว่าโครงการความร่วมมือระหว่าง RMUTT กับ มหาวิทยาลัยโอทาโก เป็นการร่วมกันพัฒนาหลักสูตรเร่งรัดสำหรับนักเรียนไทยโดยเฉพาะ เป็นหลักสูตรปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ (Business Foundation Studies Programme) หลักสูตรเรียนเตรียมปริญญาปี 1 นิวซีแลนด์ที่ประเทศไทย 8 เดือน (เทียบเท่าป.ตรีปี 1) หลังจากจบหลักสูตรเร่งรัดแล้วสามารถเรียนจบป.ตรีนิวซีแลนด์ได้ใน 3 ปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนไทยของเราสามารถสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาในนิวซีแลนด์ได้เร็วขึ้น
นอกจากความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์แล้ว ที่ผ่านมาทาง RMUTT ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆในประเทศนิวซีแลนด์ ผ่านสถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไทย-นิวซีแลนด์ (TNZC) ที่ศูนย์นวัตกรรมและความรู้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีที่ DD Mall เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมโยงการศึกษาระหว่างการศึกษาไทยกับการศึกษานิวซีแลนด์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับนานาชาติให้นักเรียนไทยอีกด้วย
ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที่ www.studywithnewzealand.govt.nz